บล.พาย:

CK: บมจ.ช.การช่าง “รายได้ค่อยๆ ฟื้น”

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานได้ที่ 26.4 บาท (1.7XPBV’22E อ้างอิงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ด้วยปัจจัยบวก แนวโน้มรายได้ที่คาดว่าจะค่อยๆ เห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะหลังจากเริ่มรับรู้รายได้จากรถไฟฟ้าสายสีม่วงและรถไฟทางคู่เส้นใหม่ ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจะเห็นชัดในช่วง 4Q22 เป็นต้น ไป นอกจากนี้ยังมี Upside จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่หาก BEM ชนะการประมูล จะทำให้รายได้ในปี 23 ออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ได้ (เพิ่มจากเดิมประมาณ 26%)

โครงการขนาดใหญ่ยังรออีกนิด

  • ภาพรวมหลังการประชุมนักวิเคราะห์โดยรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ แต่อย่างใด โดยโครงการขนาดใหญ่ที่ CK คาดว่าจะได้รับเข้ามายังต้องรอต่อไป ไม่ว่าจะเป็นโครงการหลวงพระบางที่อยู่ระหว่างรอให้เจ้าของโครงการเจรจาสัญญาซื้อขายไฟและสัญญาการเงินเสียก่อน คาดว่าจะเซ็นได้ภายในปีนี้ ส่วนสายสีส้มที่อยู่ระหว่างรอประกาศการประมูลในช่วงปลายก.ย.-ต.ค. นี้ ซึ่งหาก BEM เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในช่วงปลายปี 22 ต้น 23 โดยทั้ง 2 โครงการมีมูลค่ารวมกว่า 170,000 ลบ.
  • สำหรับโครงการอื่นๆ อย่างรถไฟฟ้าสายสีแดง คาดว่าจะมีการประมูลในส่วนของงานโยธาก่อนมูลค่ารวม 3 เส้นทางประมาณ 15,000 ลบ. ในช่วง 4Q22 งานรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางรอเสนอ ครม. อีกครั้ง คาดเปิดประมูลปลายปี นอกจากนี้ยังมีงานประมูลของกทม. อีกอย่างน้อย 2 โครงการ คือ อุโมงระบายน้ำคลองพระยาราชมนตรี และงานส่วนต่อขยายอุโมงระบายน้ำบางซื่อ รวมมูลค่ากว่า 7,700 ลบ.

ปรับรายได้เพิ่มแต่กำไรลดลง

  • เราปรับประมาณการปี 22 เล็กน้อยโดยปรับรายได้เพิ่มจากเดิม 4% มาอยู่ที่ 17,393 ลบ. (+43%YoY) หลังรายได้ในช่วง 1H22 สูงถึง 10,514 ลบ. แต่ปรับกำไรทั้งปีลง 4% มาอยู่ที่ 751 ลบ. (-17%YoY แต่กำไรปกติโต 422%YoY) เนื่องจากกำไรขั้นต้นในช่วง 2Q22 ที่ออกมาเพียง 7% และผู้บริหารคาดว่าในช่วง 2H22 กำไรขั้นต้นจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่ม ทำให้ประมาณการเดิมที่เราคาดไว้ที่ 8% จะเป็นระดับที่สูงไปเราจึงปรับมาใช้ที่ 7.7% แทน
  • ส่วนปี 23 เบื้องต้นเราคาดรายได้ที่ 17,542 ลบ. ทรงตัวจากปี 22 แต่มี Upside หากได้รับงานสายสีส้มเข้ามา เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวเราประมาณการจาก Backlog ปัจจุบันที่มีกว่า 59,000 ลบ. รวมกับงานหลวงพระบางที่คาดว่าจะได้รับค่อนข้างแน่นอนเท่านั้น และคาดกำไรได้ใหม่ที่ 1,073 ลบ. (+43%YoY)
  • ประกาศปันผลงวด 1H22 0.15 บาท/หุ้น XD 26 ส.ค. และจ่าย 12 ก.ย.

2Q22 กำไรสุทธิตามคาด

  • กำไรสุทธิงวด 2Q22 อยู่ที่ 300 ลบ. (-6%YoY,+147%QoQ) ตามที่เราคาดไว้ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษกำไรปกติจะเติบโต 47%YoY การเติบโตดังกล่าวเกิดจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นถึง 53%YoY, 459%QoQ เป็นผลจากการฟื้นตัวของ BEM หลังมาตรการเปิดเมืองของภาครัฐ และผลประกอบการของ CKP ที่เริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ
  • รายได้อยู่ที่ 3,474 ลบ. (+9%YoY,-51%QoQ) การเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกิดจากมีงานในมือเพิ่มขึ้น ส่วนการลดลงจาก 1Q22 เพราะงานหลวงพระบางเข้ามาน้อยลง (309 ลบ.เทียบกับ 3,573 ลบ. ใน 1Q22)
  • กำไรขั้นต้อยู่ที่ 7% ลดลงจาก 8.1% ใน 2Q21 และ 8.4% ใน 1Q22 CK แจ้งว่าเป็นผลจากรายได้ในงวดนี้ เป็นงานที่มีกำไรขั้นต้นต่ำกว่าปกติ โดยคาดว่าหลังจากนี้จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นได้
  • ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังอยู่ในระดับสูงที่ 496 ลบ. ทรงตัวจากปีก่อนแต่เพิ่มขึ้น 6% โดยจะต้องรอให้งานขนาดใหญ่อย่างรถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เริ่มเสียก่อนค่าใช้จ่ายดังกล่าวจึงจะลดลง (เพราะช่วงที่งานขนาดใหญ่ยังไม่เริ่ม จะต้องมีค่าใช้จ่ายด้านพนักงานรับรู้เข้ามาในส่วนนี้ แต่หากโครงการเริ่มแล้วจะเปลี่ยนไปบันทึกในต้นทุนก่อสร้างแทน)
  • รวมแล้วในช่วง 1H22 CK มีรายได้ 10,514 ลบ. (+72%YoY) และมีกำไรสุทธิ 421 ลบ. (-20%YoY) แต่กำไรปกติเพิ่มขึ้น 1,383%YoY)

ถ้าได้สีส้ม รายได้เพิ่มจากประมาณการเดิม 26%

  • สำหรับผลประกอบการสายสีส้ม กรณีที่ BEM เป็นผู้ชนะการประมูล (คาดประกาศผลช่วงเดือน ต.ค.) เราประเมินว่านอกเหนือจากช่วยเพิ่ม Backlog ให้กับ CK ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเกือบถึงระดับ 200,000 ลบ. แล้ว (งานโยธาประมาณ 90,000 ลบ.) จะทำให้รายได้ในปี 23 ออกมาสูงกว่าที่เราคาดไว้ถึง 26% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 17,542 ลบ. เป็น 22,142 ลบ. (คิดจากการรับรู้รายได้ประมาณ 5% ของงานข้างต้น) และทำให้กำไรสุทธิจะเพิ่มเป็น 1,262 ลบ. จากที่คาดไว้ที่ 1,073 ลบ.

Revenue breakdown

  • โครงสร้างรายได้ของ CK ทั้งหมดเป็นงานก่อสร้าง โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากงานงานโครงสร้างพื้นฐาน เช่นรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ทางด่วน เป็นต้น และงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ด้าน Backlog ณ สิ้นไตรมาส 1 ส่วนใหญ่เป็นงานรถไฟฟ้าและงานรถไฟทางคู่
- Advertisement -