LEO โตแรง ส่งซิกผลงาน Q3-4/65 โดดเด่น อัพเป้าหมายรายได้ปี 65 โตเพิ่มเป็น 45-50% ทุบสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และมียอดขายมากกว่า 5,000 ล้านบาท
บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) ผู้นำธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร สัญญาณแรง! Q3-4/65 ธุรกิจโลจิสติกส์เข้าสู่ช่วง High season จากเทศกาล Global Shopping Sales ของ eCommerce Platform ทั่วโลก รวมถึงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ช่วงปลายปี กลุ่มลูกค้า SME กลับมาใช้บริการคึกคัก ฟาก “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์”ระบุช่วงปลายปีเป็นฤดูกาลส่งออก หนุนธุรกิจขนส่งบูม ดันรายได้เพิ่ม เดินหน้าจับมือพันธมิตร พัฒนาธุรกิจ Warehouse, Cold Chain Logistics และ Self Storage จ่อปิดดีล JV และ M&A เพิ่มอีก 2-3 ดีล ภายในปีนี้ พร้อมปรับเป้าหมายรายได้ปี 65 โตเพิ่มเป็น 45-50% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ยอดขายมากกว่า 5,000 ล้านบาท
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับเป้าปี 65 รายได้เติบโต 45-50% สอดคล้องแนวโน้มธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 3-4/2565 จะเป็นช่วงไฮซีซั่น เพราะเป็นช่วงฤดูการส่งออกของลูกค้าในเทศกาลสำคัญปลายปี เริ่มตั้งแต่เทศกาล Prime Day ของ Amazon ในเทศกาล 7/7 และตามมาด้วยเทศกาล 9/9, 10/10, 11/11 ของ eCommerce Platform ในประเทศจีน และเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ช่วงปลายปี จะทำให้ปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างนัยสำคัญ ขณะเดียวกันมีปัจจัยที่สนับสนุนจากธุรกิจ SME เริ่มกลับมาใช้บริการมากขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้นได้อย่างโดดเด่น
ทั้งนี้ ล่าสุด LEO ได้ประกาศร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) รุกขยายธุรกิจให้บริการเช่าคลังสินค้า (Warehouse) และ Self-storage ต่อยอดและนำพาธุรกิจคลังสินค้าและธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า (Self Storage) ให้ก้าวต่อไปแข็งแกร่งและยั่งยืน
และในปีนี้เตรียมจับมือกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทข้ามชาติระดับ Regional Player เพิ่มอีก 2-3 ราย เพื่อตั้ง JV ในการพัฒนาธุรกิจ Warehouse, Cold Chain Logistics และ Self Storage รวมถึงหาโอกาสในการปิดดีล M&A ทั้งบริษัทในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นภาพได้ชัดเจนภายในไตรมาส 4 ของปีนี้” นายเกตติวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการศึกษาขยายธุรกิจ Non-Logistics อย่างจริงจัง เริ่มด้วยการรุกธุรกิจกัญชา ที่ล่าสุดได้เซ็น MOU กับ วิสาหกิจชุมชนสุขฤทัย เกษตรปลอดภัย จ.อุทัยธานี สนับสนุนโครงการเพาะพันธุ์ปลูกขายต้นกล้ากัญชา ต่อยอดสู่การผลิตช่อดอกเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ เพื่อที่จะช่วยผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/2565 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ) มีรายได้รวม 1,335.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 559.6 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 99.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.1 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42.7 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ 6 ไตรมาส ติดต่อกัน
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรก มีรายได้รวม 2,986.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,033.5 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 189.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172%เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 69.7 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีกำไรเกือบเท่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2564 ที่ทำได้ 198.8 ล้านบาท
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณในความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีต่อหุ้นของ LEO และรักษาคำมั่นสัญญาของบริษัทฯ ที่ตั้งใจจะทำให้หุ้น LEO เป็น BLUE CHIP STOCK ของธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศไทย คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2565 นี้