ตลาดหุ้นวานนี้
SET ปิดลบ 2 จุด แต่ระหว่างวันค่อนข้างผันผวนโดยเฉพาะเปิดการซื้อขายภาคบ่ายดัชนีลดลงทันทีหลังจากที่ศาลฯ ลงมติรับคำร้องเพื่อวินิจฉัยปม 8 ปีของท่านนายกฯ และ มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตามดัชนีปิดลบในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มน้ำมัน และโรงกลั่นช่วยพยุงดัชนี
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,620 – 1,640 จุด ดัชนียังคงได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นตอบรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงและความไม่แน่นอนข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน นอกจากนี้ยังได้แรงบวกจาก Fund flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธ.กลางทั่วโลกเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
25-27 ส.ค.การประชุมประจำปีเฟด ติดตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย การปรับลดขนาดงบดุล (QT)
- PTTEP TOP IVL SPRC BANPU ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น + ถ่านหินทรงตัวระดับสูง
- KBANK BBL SCB KTB TTB BLA อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น
- BDMS BH AOT AAV BA CENTEL ERW MINT CPN AMATA SPA อานิสงส์การเปิดเมือง
หุ้นแนะนำวันนี้
PTTEP (ปิด 168 ซื้อ/เป้า 185 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง ส่วนแนวโน้ม 3Q22 คาดกำไรยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณและราคาขาย ขณะที่ Hedging loss คาดว่าจะลดลงและอาจพลิกเป็นบวกได้หากราคาน้ำมันดิบ Brent ต่ำกว่าระดับ 102$/bbl
GFPT (ปิด 16.20 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 19 บาท) ราคาไก่ยังปรับตัวขึ้นและทรงตัวอยู่ในระดับสูง แนวโน้มงบ 3Q22 ขยายตัวต่อเนื่องจาก High season และ แนวโน้มของต้นทุนวัตถุดิบที่ทยอยลดลง
บทวิเคราะห์วันนี้: GPSC (ปิด 67 ถือ/เป้า 65), ROJNA (ปิด 6.15 ซื้อ/เป้าใหม่ 7.4 เดิม 7.9)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ศาลฯ รับคำร้องปมนายกฯ 8 ปี และสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว: วานนี้ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง ให้รับคำร้องเพื่อวินิจฉัยเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย เรามองผลกระทบต่อการบริหารประเทศและ Sentiment การลงทุนในกรอบจำกัด เนื่องจากรัฐบาลสามารถแต่งตั้งรองนายก ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการแทนได้
(-) ตลาดให้น้ำหนักเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพิ่มมากขึ้น: จากการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Fed watch tool พบว่าความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือน ก.ย. ค่อยๆ สูงขึ้นโดยล่าสุดมีความน่าจะเป็นที่ 60.5% เพิ่มขึ้นจาก 53% ในวันก่อนหน้า ในทางตรงกันข้ามความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ก็ค่อยๆ ลดลง สะท้อนมุมมองของตลาดที่มีก่อนเฟดประชุมประจำปีว่าเฟดจะยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
(+) น้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่องตอบรับตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.15$ (+1.2%) ปิดที่ระดับ 94.89$/bbl หลังจาก EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 9.3 แสนบาร์เรล ส่วนการเจรจานิวเคลียร์อิหร่านยังล่าช้าเนื่องจากสหรัฐยังไม่พิจารณาข้อเสนอของอิหร่าน