บล.ฟิลลิป:

ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ – BEM 2H65 ฟื้นต่อเนื่องและดีกว่า 1H65

Key Point

2H65 จะเห็นการฟื้นตัวที่ดีกว่า 1H65 และดีขึ้นมากจาก 2H64 หลังกิจกรรมเดินทางกลับมาจากการเปิดเมืองเปิดประเทศ และปลายปีนี้มีลุ้นประมูลสีส้มที่ได้เปรียบคู่แข่ง และปีหน้าจะมีความชัดเจนเรื่องทางด่วนชั้นที่ 2 และสายสีม่วง เรื่องการเดินรถไฟฟ้า อีกทั้งโครงการอสังหาฯ กลับมาพัฒนามากขึ้น และโครงการขนาดใหญ่ทยอยเปิด คงประมาณการและยังแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 9.90 บาท

2H65 ฟื้นตัวต่อเนื่อง และดีกว่า 1H65

เดือน ก.ค. รายงานผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันที่ 1.04 ล้านคัน และ 2.75 แสนคน +65% และ +255.7% y-y แต่หากเทียบเดือน มิ.ย. -2.5% และ -3.1% จากรัฐบาลประกาศวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดเยอะกว่าในเดือน มิ.ย. และเดือน ส.ค. ในวันทำงานผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้ายังคงฟื้นตัวที่ 1.12 ล้านคัน และ 3.5 แสนคน ทำให้ผู้บริหารมีมุมมองถึงผู้ใช้บริการทางด่วนปีนี้น่าจะเกิน 1 ล้านคันต่อวัน เทียบกับ 1H65 ที่ 1 ล้านคันและปีก่อนที่ 0.85 ล้านคัน และรถไฟฟ้าใกล้ 3 แสนคน เทียบ 1H65 ที่ 2.05 แสนคน และปีก่อนที่ 1.47 แสนคน จะเห็นการฟื้นตัวได้ดีทั้ง y-y และ h-h อีกทั้ง รถไฟฟ้าจะได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดของศูนย์สิริกิติ์ในเดือน ก.ย. หลังปิดปรับปรุงไปกว่า 3 ปี โดยมีการจองจัดงานไปถึงปีหน้า และพื้นที่จัดงานใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเป็น 7.85 หมื่น ตรม. จาก 2,50 หมื่น ตรม. และพื้นร้านค้าเพิ่มเป็น 1.20 หมื่น ตรม. จาก 5 พัน ตรม. เดิมสถานีศูนย์สิริกิติ์มีคนใช้บริการสูงสุดติด 1 ใน 5 โดยหลังเปิดคาดจะขยับเป็น 1 ใน 3

รอลุ้นโครงการใหม่ๆ ทั้งปีนี้และปีหน้า

โครงการใหม่ในปีนี้ คือ 1) สายสีส้มที่ได้เปิดซื้อซองและยื่นซองประมูลไปแล้ว โดยมีผู้ยื่นซองเพียง 2 กลุ่ม คือ 1) BEM + CK และ 2) ITD + Incheon Transit Corporation ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มผ่านซองที่ 1 เรื่อง คุณสมบัติแล้ว และเปิดซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคแล้ว ก่อนจะเปิดซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุน และผลตอบแทนคาดว่าน่ารู้ผลผู้ชนะการประมูลใน 4Q65 ซึ่ง BEM ได้เปรียบมากกว่าคู่แข่ง 2) ส่วนต่อขยายสายสีม่วงใต้ที่ได้ประมูลงานโยธาไปแล้ว ทางบริษัทคาดว่าปี 2566 ทาง รฟม. จะมาเจรจาเรื่องการเดินรถไฟฟ้า รวมถึงรูปแบบสัญญาสัมปทานจะเป็นแบบเดิมหรือไม่ เพราะสีม่วงเหนือทาง BEM ได้สัญญาเดินรถไฟฟ้าอยู่ก่อนแล้ว และ 3) ทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) ซึ่งอยู่ระหว่างการขอ EIA ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย น่าจะทราบผลในปีหน้า หากผ่าน EIA ก็น่าจะเป็น BEM ที่ได้โครงการนี้ ส่วนของทางด่วนโครงการใหม่มีน้อย จึงมองหาโครงการมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวงที่ หลายเส้นน่าสนใจ แต่ยังไม่มีโครงการจะเปิดขาย TOR ในเร็วๆ นี้

การฟื้นตัวยังมีต่อเนื่องไปปี 2566 ยังแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 9.90 บาท

การฟื้นตัวของผู้ใช้บริการทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าทำให้ในปีนี้กำไรของบริษัทกลับมาฟื้นตัวได้ดี แม้จะยังไม่เท่ากับก่อนโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องไปในปี 2566 ที่ผู้บริหารมีมุมมองผู้ใช้ทางด่วนน่าจะกลับไปที่ 1.2 ล้านคัน/วัน ซึ่งเป็นระดับเดียวกับก่อนโควิด-19 และรถไฟฟ้าจะมีผู้ใช้มากกว่า 3 แสนคนแน่นอน โดยในส่วนรถไฟฟ้านอกจากการปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 1 บาทใน 4 สถานี คือ สถานีที่ 6, 9, 11 และ 12 ยังมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กลับมา ก่อสร้างทั้งที่พักอาศัย หรือโครงการขนาดใหญ่ที่จะเปิดในปี 2566 เช่น โครงการวัน แบงค็อกตามแผน จะเปิด 4Q66, ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะเปิดเฟส 1 และพาร์ค สีสม รวมถึงการเปิดใช้สายสีเหลืองและสีชมพูที่จะส่งผู้โดยสารเข้ามาในเมือง ยังคงคาดกำไรในปี 2565 ที่ 2,335 ล้านบาท ยังคงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 9.90 บาท

ความเสี่ยง

  1. การดำเนินธุรกิจภายใต้สัญญากับหน่วยงานภาครัฐและนโยบายของรัฐบาล
  2. รายได้ไม่เป็นไปตามประมาณการและความผันผวนของต้นทุน
  3. โครงการใหม่ที่ไม่เป็นไปตามแผนทั้งของบริษัทและภาครัฐ
- Advertisement -