บล.บัวหลวง:

Bank – สินเชื่อเติบโต 0.5% MoM ในเดือน ก.ค. (OVERWEIGHT)

เราคาดกำไรรวมของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำปี 2565 (8 ธนาคาร) ที่ 204.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY โดยมีปัจจัยหนุนจากการตั้งสํารองฯ ที่ลดลง และการขยายตัวของสินเชื่อ KKP, KBANK และ BBL คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในปี 2565 เรายังคงให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาด โดยเราชอบ BBL และ KBANK มากที่สุดในกลุ่ม

BBL KBANK และ KKP สินเชื่อเติบโตสูงสุดในเดือนก.ค.

สินเชื่อสุทธิรวมในเดือนก.ค.ของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำ (8 บริษัท) เพิ่มขึ้น 0.55% MoM (เทียบกับการลดลงเฉลี่ย 0.1% MoM ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา) และ 2.5% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน หนุนโดยการขยายตัวจากธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่ง (โดยเฉพาะที่ KBANK และ BBL) BBL, KBANK และ KKP รายงานสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง MoM ที่ 1.4%, 1.1% และ 1.0% ตามลำดับ ในขณะที่ SCB, TISCO, KTB และ TTB สินเชื่อสุทธิมีการเติบโต MoM ที่ 0.4%, 0.3%, 0.1% และ 0.1 % ตามลำดับ ในทางตรงกันข้าม BAY รายงานสินเชื่อสุทธิ MoM ปรับตัววลง 0.02%

ธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ KBANK และ BBL จะเป็นผู้นำการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ หนุนโดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ อาจมีอัพไซด์ที่ 2.3% ต่อประมาณการกำไรของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำปี 2565 หาก KTB และ KKP รายงานการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY มากกว่าที่เราคาดไว้ในปัจจุบัน (จาก 3% เป็น 5% สําหรับ KTB และจาก 10% เป็น 16% สําหรับ KKP ) อัตราการเติบโตของสินเชื่อนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันของทั้งสองธนาคาร เติบโตอย่างรวดเร็วในครึ่งแรกของปี 2565

คาดกําไรไตรมาส 3/65 จะเพิ่มขึ้น 21% YoY แต่ลดลง 3% QoQ

จากประมาณการธนาคารทั้งแปดแห่งที่เราให้คำแนะนำ คาดกำไรรวมไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 49.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY หนุนโดยการตั้งสํารองฯ ที่ลดลง (ต้นทุนสินเชื่อเฉลี่ยคาดว่าจะลดลงจาก 161bps ของสินเชื่อในไตรมาส 3/64 เป็น 128bps ของสินเชื่อในไตรมาส 3/65) การเติบโตของสินเชื่อ และ NIMs ที่ขยายตัว (เราคาด NIM เฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 7bps YoY เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง) เราคาดการเติบโต แม้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น (เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านไอทีและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น สำหรับการรักษาระบบธนาคารหลัก) และรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง (รายได้จากธุรกิจตลาดทุนลดลง) KTB, TTB และ KKP จะรายงานการเติบโตของกำไร YoY ที่แข็งแกร่งที่สุดในไตรมาส 3/65 ที่ 46%, 35% และ 18% ตามลำดับ หนุนโดยการตั้งสํารองฯ ที่ลดลงและการเติบโตของสินเชื่อ

แต่ประมาณการกำไรรวมของเราแสดงถึงการลดลง QoQ ที่ 3% เนื่องจากค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง (รายได้จากนายหน้าลดลง) BBL จะรายงานการเติบโตแข็งแกร่งที่สุด QoQ ที่ 15% หนุนโดยการตั้งสํารองฯ ที่ลดลง ในทางตรงกันข้าม KKP จะรายงานกำไรลดลงสูงสุด QoQ ที่ 14% เนื่องจากการตั้งสํารองฯ ที่เพิ่มขึ้น

กําไรรวมกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำปี 2565 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 14% YoY

เราคาดการณ์กำไรรวมปี 2565 ที่ 204.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY หนุนโดยสินเชื่อที่เติบโต (เราคาด 4.5% YoY) การตั้งสำรองฯ ที่ลดลง (ต้นทุนสินเชื่อเฉลี่ยคาดว่าจะลดลงจาก 153bps ของสินเชื่อในปี 2564 เป็น 127bps ของสินเชื่อในปี 2565) และ NIM เฉลี่ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (เพิ่มขึ้น 7bps YoY หนุนโดยการขยายตัวของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง ส่วนใหญ่ คือ สินเชื่อรายย่อย) KTB, TTB และ KKP มีแนวโน้มเป็นผู้นำรายงานกำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดด YoY ที่ 47%, 25% และ 20% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังอาจมีอัพไซด์ 0.3% ต่อประมาณการกำไรรวมของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำปี 2565 หากอัตราตลาดเงินเฉลี่ยสูงกว่าที่เราคาด 25bps (หนุนโดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้น)

- Advertisement -