คืนนี้ติดตาม Jackson Hole ระยะสั้นเน้นได้ประโยชน์น้ำมันลง
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปรับขึ้นแข็งแกร่ง 0.98% หลักๆ ได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงประกอบกับรายงาน GDP 2Q22 ที่หดตัวลงเพียง 0.6%QoQ สวนทางกับที่ตลาดประเมินไว้ที่ -0.7%QoQ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับตัวลง 1.9% ถูกกดดันจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะเป็นผลให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยและกดดันอุปสงค์ มองเป็นปัจจัยกดดันต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) แต่จะเป็นบวกกับหุ้นที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน (SCC SCGP TOA)
Market Outlook
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1640 – 1650 แม้ภาพรวมจะดูเป็นบวกหนุนจากตลาดหุ้น Dow Jones ที่ปิดบวกเมื่อคืนและเช้านี้ Nikkei แกว่งบวกราว 0.8% อย่างไรก็ตาม ด้วยการปรับขึ้นมาเมื่อวานราว 0.7% และราคาน้ำมันดิบปรับลงเป็นปัจจัยกดดันหุ้นพลังงานประกอบกับเชื่อว่านักลงทุนจะเริ่ม Wait & See รอดูการแถลงของประธาน FED ที่มีกำหนดแถลงราว 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ในการประชุม Jackson Hole ล่าสุด ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า FED จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนกันยายนด้วยความน่าจะเป็น 60% และอีก 40% มองว่าจะขึ้นเพียง 0.5% ก็เท่ากับว่าตลาดเริ่ม Price In ไปบ้างแล้วกับดอกเบี้ยที่ 0.75% ดังนั้นหากคืนนี้มีสัญญาณของการเปิดเผยว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มองเป็นลบเล็กน้อยกับตลาด แต่หากส่งสัญญาณขึ้นเพียง 0.5% มองเป็นแรงหนุนให้กับตลาดในสัปดาห์หน้า ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติมองเป็นเพียงการเข้ามาตามภูมิภาค หากพิจารณาตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. ถึงปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิในอินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และไทย อย่างไรก็ตาม ในเชิง Valuation SET INDEX ล่าสุดซื้อขายที่ 15.8xForward PE เทียบกับเกาหลีใต้ (KOSPI) ที่อยู่เพียง 10.4x Forward PE และหากประเมิน Valuation ที่ไม่รวมช่วงเกิด COVID-19 (ก่อนปี 2020) พบว่าค่าเฉลี่ย PE ของ SET 2008 – 2019 อยู่ที่เพียง 14x เท่านั้น ดังนั้น ณ ระดับ Valuation ปัจจุบันไม่ได้ถูกเท่าใดนัก และแพงกว่าบางประเทศในภูมิภาค ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดในปีนี้ยังมีแนวโน้มติดลบ กดดันบาทอ่อนค่า จึงเป็นไปได้ยากที่กระแสเงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าได้อย่างต่อเนื่อง วันนี้ติดตามการรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศ Bloomberg คาดมูลค่าส่งออกขยายตัว 11%YoY และนำเข้าขยายตัว 22%YoY แต่คาดดุลการค้าจะติดลบ 1.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เชิงกลยุทธ์การลงทุนเมื่อพิจารณาจาก ระดับ Valuation และความเสี่ยงข้างหน้าจากเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย รวมถึงเศรษฐกิจถดถอย ยังมองเป็นจังหวะลดพอร์ตมากกว่าจะไล่ราคา ส่วนหุ้นแนะนำ (SCC SCGP TOA) Domestic Play ที่โดดเด่น (CPALL M MAJOR) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB)
Pi Stock Picks
M (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท)
SSSG ช่วงเดือน ก.ค. 2022 ของ 3 แบรนด์หลักยังแข็งแกร่งที่ +170% YoY ต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในเดือน ส.ค. 2022 อยู่ 10-15% มีแรงหนุนจากรายได้ต่อยอดบิลที่สูงขึ้นเพราะเมนูใหม่ โดยเฉพาะเครื่องดื่มและของหวาน ประเมินรายได้ต่อยอดบิลที่สูงขึ้นราว 10% จากเมนูใหม่
SCGP (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 66.00 บาท)
คาดว่ากำไรจะปรับดีขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ 3Q22 หนุนจากทิศทางในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น บวกกับอุปสงค์ต่อปริมาณจากตลาดในและนอกประเทศที่ปรับดีขึ้น ราคาเยื่อกระดาษที่สูง และทิศทางกระดาษรีไซเคิลที่ลดลงจากต้นทุนขนส่งที่ลดลง และอุปสงค์สะสมในจีนที่อาจช่วยเป็นกันชนต่ออัตรากำไรได้
