Daily Focus: Domestic and Reopening Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องปิดบวกอีก 11.97 จุด นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม Reopening และกลุ่มธนาคารโดยเฉพาะ SCB ที่มีประเด็นเฉพาะตัว กรณียกเลิกการเข้าซื้อ Bitkub สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิเล็กน้อย 396 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อต่อเนื่องอีก 1.9 พันลบ. (และ Long Index Futures อีก 5.1 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways Up ได้ต่อเนื่องหลังวานนี้ฟื้นตัวดี และทะลุแนว 1,642 จุด เปิด Upside ขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,650+- จุด อย่างไรก็ตาม Upside วันนี้อาจไม่กว้างนัก เนื่องจากยังคงมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการแถลงของประธาน FED ใน Jackson Hole Symposium ว่าจะมีการปรับคำพูดและเน้นย้ำนโยบายการเงินตึงตัวเร็วต่อเนื่องหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยในประเทศโดยรวมยังไม่มีปัจจัยกดดันเพิ่มเติม และยังคงได้อานิสงส์จากทิศทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวสวนทางภูมิภาคอื่นๆ ที่ชะลอ และมีความเสี่ยงหดตัวในปีหน้า เราจึงยังมองว่าหุ้น Domestic และ Reopening Play จะยัง Outperform ต่อเนื่องในระยะกลาง-ยาว ส่วนประเด็นปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเรามองค่อนไปในทางบวกต่อกำลังซื้อ และคาดผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการและปรับขึ้นราคาบางส่วนเพื่อชดเชย เรายังแนะนำถือลงทุนส่วนที่สะสมไปแล้วช่วงก่อนหน้า และแนะนำสะสมหุ้นเพิ่มช่วงตลาดพักตัวลงใกล้ระดับ 1,600+- ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้ม SET Index ใน 2H22-2023

กลยุทธ์ : ยังเน้นลงทุนกลุ่ม Domestic และ Reopening Play // รอสะสมหุ้นบริเวณ 1,600+-

หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : BBL, ILINK, NSL, SAPPE, SC

หุ้นเด่นวันนี้ : CPALL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 74.34 บาท
  • คาดกำไร 3Q22 อาจทรงถึงปรับขึ้น Q-Q ได้แม้ถูกกระทบจากปัจจัยฤดูกาล และการซื้อคืนหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์เป็นหุ้นกู้ปกติ ซึ่งอาจมีการบันทึกดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มเติมชั่วคราว แต่ระยะยาวเป็นบวกจากอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ลดลง
  • โมเมนตัมกำไร 4Q22-2023 คาดเร่งตัวอย่างมีนัยยะจากทั้ง CVS และลูกอย่าง MAKRO ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และเริ่มได้อานิสงส์จาก High Season ของภาคการท่องเที่ยว ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเรามองเป็นบวก Consensus คาดว่าไรปี 2022-2023 +15% Y-Y และ +38% Y-Y ตามลำดับ กลับไปใกล้เคียงก่อน COVID-19
  • แนวรับ 60-59 บาท แนวต้าน 62//64 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาครวม US$184 ล้าน โดยถือว่ายังไม่หนาแน่นนัก เม็ดเงินพลิกกลับมาไหลเข้าไต้หวัน US$98 ล้านหลังไหลออกต่อเนื่อง แรงติดต่อกันหลาวันก่อนหน้า ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ยังคงไหลเข้าไทยแต่ไหลออกจากอินโดนีเซีย แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะเบาบางรอดูการแถลงและส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินของประธาน FED ในการประชุม Jackson Hole คืนนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) จับตาถ้อยแถลงของ Powell คืนนี้ ใน Jackson Hole Symposium ว่าจะออกมาในโทน Hawkish ขึ้นหรือไม่ ปัจจุบันตลาดเริ่มเปลี่ยนคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. 0.75% ด้วยความน่าจะเป็นเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดินที่ส่วนใหญ่คาดปรับขึ้น 0.50% หากส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวเร็วต่อเนื่อง คาดยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด แต่หากมองการขึ้นดอกเบี้ยชะลอคาดเม็ดเงินจะไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง

(+) SCB แจ้งข่าวยกเลิกการเข้าลงทุนใน Bitkub หลังยังมีประเด็นค้างกับกลต.โดยไม่มี Penalty Fee เรามองเป็นการปลดล็อคปัจจัย Overhang จากราคาซื้อขายที่ 1.78 หมื่นลบ.ที่อาจสูงเกินไปในสถานการณ์ปัจจุบันที่ตลาดคริปโตฯ ชะลอตัว ระยะถัดไปให้ติดตามแผนการลงทุนด้าน Fintech โดยยังคงมี SCBS เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลัก ภาพรวมไม่กระทบต่อประมาณการและราคาเป้าหมายจาก FSSIA ที่ 134 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

(+) M แนวโน้มกำไร 3Q22 มีลุ้นปรับขึ้น Q-Q หลัง Traffic ฟื้นตัวต่อเนื่องใกล้ช่วงก่อน COVID-19 ส่วนต้นทุนวัตถุดิบที่ยังสูงชดเชยได้จากการปรับขึ้นราคาอาหารแล้ว 2 ครั้ง ส่วน 4Q22 จะเร่งตัวแรง เพราะเป็น High Season การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคาดกระทบจำกัด เนื่องจากมีการนำหุ่นยนต์มาใช้แทนแรงงานบางส่วน เราปรับเพิ่มกำไรปี 2022-2023 ขึ้นโดยปี 2022 คาดพลิกมีกำไรและเร่งตัว +47% Y-Y ในปี 2023 ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2023 เป็น 66 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) PYLON สถานการณ์งานในปัจจุบันยังไม่ฟื้นเต็มที่ ทำให้การแข่งขันยังสูง แต่เชื่อว่าผ่านช่วงแย่สุดไปแล้วในปี 2021 ส่วนปี 2023 มีแผนเริ่มก่อสร้างหลายโครงการใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รถไฟฟ้าม่วงใต้และส้ม แนวโน้มกำไร 3Q22-4Q22 ระยะสั้นยังชะลอ แต่มีโอกาสลุ้นได้งานใหม่และหนุนการฟื้นตัวในปีหน้า ส่วนประเด็นขึ้นค่าแรงสามารถส่งผ่านได้ ยังคงประมาณการกำไรปี 2022 พื้นแรง 2x Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน คงราคา เป้าหมาย 5.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 33,291.78 จุด พุ่งขึ้น 322.55 จุด หรือ +0.98% จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกเล็กน้อย จากหุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น แต่ยังถูกกดดันจากวิกฤตพลังงาน และความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับบวกตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 35.90 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 2.37 ดอลลาร์ หรือ -2.5% ปิดที่ 92.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ซึ่งจะส่งผลให้ Demand น้ำมันลดลง

(0) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 9.9 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 1,771.4 ดอลลาร์/ออนซ์ จากนักลงทุนพักเงินรอคำปราศรัยของประธาน FED ที่ Jackson Hole

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 984.38 / –

- Advertisement -