แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ นักลงทุนติดตามการประชุมเฟดในค่ำคืนนี้ เพื่อจับสัญญาณดอกเบี้ย ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.98%, 1.67%, 1.41% ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 0.39%, 0.11, -0.08%, 0.10%
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.37 ดอลลาร์ปิดที่ 92.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.34 ดอลลาร์/บาร์เรล กดดันความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง และมีกระแสข่าวว่าการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านระหว่างสหรัฐฯ อียูยังคงดำเนินต่อไปในขณะนี้ และอิหร่านเปิดเผยว่าได้รับการตอบกลับจากสหรัฐฯ เกี่ยวกับข้อเสนอสุดท้ายที่ร่างโดยอียูสำหรับการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์แล้ว
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค มี fund flow จากนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลต่อดัชนี AOT, BH, SCC, KBANK, BBL จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค หลังดอลลาร์อ่อนค่า ทีมวิเคราะห์ของ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. และจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. และธ.ค. นี้ ในขณะที่นักลงทุนยังคงให้น้ำหนัก 50:50 ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% หรือ 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. นี้ เราคาดว่าข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เดือนส.ค. ที่จะประกาศในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนก.ย. จะเป็นข้อมูลสำคัญที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ถ้าตัวเลขทั้งสองออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด หุ้นไทยมีแรงซื้อเก็งกำไรกลุ่ม JMART, JMT, SINGER และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลในช่วงต้นเดือนหน้า เช่น COM7, SYNEX, SPVI นอกจากนี้ยังได้รับข่าวดีเกี่ยวกับการยกเลิกการซื้อกิจการของบริษัทหลักทรัพย์ SCB ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SCBX ในการเข้าซื้อกิจการของ BITKUB ทำให้มีแรงซื้อ SCB เข้ามาอย่างหนาแน่นในช่วงบ่าย ทางด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคอยู่ในแดนบวกจากข่าวรัฐบาลจีน อัดฉีดเม็ดเงิน 1 ล้านล้านหยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีน เนื่องจาก GDP จีนยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของทางการจีนที่ระดับ 5.5% อยู่พอสมควร
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 255,000 ราย สะท้อนการจ้างงานในสหรัฐฯ ฟื้นตัวดีในช่วงครึ่งเดือนหลัง นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ไตรมาส 2/65 หดตัวลง -0.6% ดีกว่าประมาณการครั้งแรกที่หดตัว -0.9% ล่าสุดประมาณการของ GDPNow ระบุว่าไตร มาส 3 จะขยายตัว 1.4%
  • แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าแกว่งแคบ SET อยู่ในระหว่างรอยต่อทางเทคนิค ในขณะที่ปัจจัยการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย. ยังไม่ชัดเจน แนะนำซื้อหุ้น KBANK, SCB, BBL, TTB, KTB ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง

กลยุทธ์การลงทุน

Trading: ดีดกลับไม่ข้าม 1,650 จุด แนะนำ “ขายเพื่อรอซื้อกลับเมื่ออ่อนตัว”

- Advertisement -