บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Carabao Group (CBG.BK/CBG TB)* แนวโน้มกำไรระยะสั้นมีความเสียง

Event

ประชุมนักวิเคราะห์, ปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย, ปรับลดคำแนะนำ

Impact

Margin จะถูกกดดันนานขึ้น

ถึงแม้ว่าราคาอลูมิเนียมซึ่งเป็นต้นทุนหลักจะลดลงมาแล้วประมาณ 35% YTD แต่บริษัทคาดว่ามาร์จิ้นจะยังคงถูกกดดันต่อเนื่องใน 3Q65 เนื่องจาก 1) ยังมีสินค้าสำเร็จรูปที่มีต้นทุนสูงเก็บอยู่ในคลังเป็นจำนวนมากในสินค้าคงคลังใน 2Q65 และต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเพื่อเคลียร์สินค้ากลุ่มนี้ออกไปจากสต็อก 2) อัตราการเติบโตของการส่งออกไปยังเมียนมาร์ชะลอตัวลงเนื่องจากมีการใช้มาตรการควบคุมเงินทุนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 และ 3) ต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงขึ้นหลังจากที่มีการปรับขึ้นค่า Ft และราคาน้ำตาลขยับสูงขึ้น ซึ่งการลดลงของอลูมิเนียมยังไม่สามารถชดเชยต้นทุนส่วนนี้ได้ทั้งหมด

ผลประกอบการ 3Q65F จะแย่กว่าใน 2Q65

หลังจากที่ต้นทุนการผลิตขยับสูงขึ้น บริษัทจึงมีแผนจะออกสินค้าใหม่เพื่อขยายตลาดในกลุ่ม premium ที่มีราคาจำหน่ายต่อหน่วย 15 บาท ซึ่งการออกสินค้าใหม่นี้อาจจะทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษด้านการตลาดเกิดขึ้น นอกจากนี้ การเติบโตของรายได้ในธุรกิจ logistic (จำหน่ายสุราสำหรับธุรกิจ ครอบครัว) อาจจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นใน 3Q65 เพราะมีการตุนสต๊อกเอาไว้เป็นจำนวนมากก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาขายใน 1Q65 ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่าการปรับขึ้นราคาดังกล่าวจะไม่กระทบกับอุปสงค์ในระยะสั้น และน่าจะเห็นการฟื้นตัวใน 4Q65

ยืนอยู่บนจุดพลิกผัน

CBG ได้ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง(energy drink) เพิ่มขึ้น 3-4% หลังจากที่ M-150 ขึ้นราคาขายปลีกเป็น 12 บาท/ขวด ในขณะที่ CBG ปรับราคาขายปลีกลง แม้ว่ากลยุทธ์นี้จะทำให้ CBG ได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม แต่กลับส่งผลเสียต่อ CBG ในแง่มาร์จิ้น บริษัทตั้งเป้าจะชิงส่วนแบ่งตลาดมาเพิ่มอีก ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะยังคงยืนราคาเอาไว้ในระดับต่ำในขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลง บริษัทจึงตั้งเป้าโตในตลาดใหม่ๆ ที่เวียดนาม และจะเริ่มส่งออกใน 4Q65 นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าจะขยายเพิ่มสินค้าตัวใหม่ ในตลาดกลุ่มใหม่อีกด้วย

ปรับลดกําไรปี 2565/2566/2567 -10%/-6%/-5% และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566F ลงเหลือ 118 บาท

เรานำแนวโน้มกำไรที่ลดลงเข้ามาใส่ไว้ในประมาณการของเรา และได้ปรับสมมติฐานหลักดังนี้ 1) ลดอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2565/2566/2567 ลงเหลือ 16.5%/13%/12% in 2022/2023/2024 (จากเดิมที่ 19%/13%/12%) 2) ลด GPM ลงเหลือ 31%/33.5%/35% (จากเดิมที่ 32%/34%/35%) ทั้งนี้ เมื่อใช้ PE ที่ 32.5x ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 118 บาท จากเดิมที่ 133 บาท ดังนั้น เราจึงปรับลดคําแนะนําเป็นถือ

Risks

GPM ลดลง, รายได้จากกลุ่มประเทศ CLMV ไม่โตตามคาด, ไม่สามารถเร่งการเติบโตในตลาดประเทศ

- Advertisement -