บล.บัวหลวง:

Carabao Group (CBG TB/CBG.BK)

CBG – ไตรมาส 3/65 อ่อนแอ คาดไตรมาส 4/65 เติบโตแข็งแกร่ง

เราคาดกำไรไตรมาส 3/65 ของ CBG (เพิ่มขึ้น YoY จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/64) จะอ่อนตัว QoQ ซึ่งก่อนหน้านี้เราคาดการณ์การเติบโดทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากการคาดการณ์ยอดขายและอัดรากําไรที่ลดลง เราจึงปรับประมาณการกำไรลง 5% ในปี 2565 และ 6% ในปี 2566 แม้ว่าราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ของเราจะลดลง จาก 135 บาท เป็น 130 บาท แต่เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงจากราคาหุ้นระดับไม่แพงเทียบกับปัจจัยพื้นฐานระยะยาวที่มั่นคง

คาดกําไรไตรมาส 3/65 ลดลง QoQ

ในการประชุมนักวิเคราะห์ของ CBG ผู้บริหารได้มองภาพแนวโน้มรายได้และอัตรากําไรของไตรมาส 3/65 อ่อนตัวลง แต่ยังคงเป็นบวกเมื่อเทียบกับแนวโน้มไตรมาส 4/65 การส่งออกไตรมาส 3/65 จนถึงปัจจุบันอ่อนตัวกว่าที่เราคาด โดยเฉพาะการส่งออกไปยังประเทศเมียนมาร์ (11% ของยอดขายในครึ่งแรกของปี 2565) เนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยอดขายในครึ่งแรกของปี 2565 ของ CBG ไปยังประเทศเมียนมาร์อยู่ที่ 1.05 พันล้านบาท ปัจจุบันเราคาดว่าการส่งออกไปยังประเทศเมียนมาร์ในครึ่งหลังของปี 2565 จะปรับตัวลงประมาณ 50% HoH

อัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงอยู่ในไตรมาส 3/65 …

ก่อนหน้านี้ เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นของ CBG จะฟื้นตัวในไตรมาส 3/65 หลังจากที่ถูกกดดันจากราคาวัตถุดิบที่สูง ขึ้นอย่างรวดเร็ว (ส่วนใหญ่เป็นอะลูมิเนียม) ในครั้งแรกของปี 2565 อย่างไรก็ตาม ราคาวัตถุดิบที่ราคาแพง บางส่วนยังเข้ามาเป็นต้นทุนไตรมาส 3/65 จากคาดการณ์การส่งออกที่ลดลง และแรงกดดันด้านต้นทุนจะส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น ปัจจุบันเราคาดอัตรากําไรขั้นต้นไตรมาส 3/65 จะทรงตัว QoQ ที่ 30.8% ดังนั้นเราคาดกำไรไตรมาส 3/65 ที่ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/64 แด่ลดลง 6% QoQ และประมาณการกำไรของเราลดลง 5% ในปี 2565 มาอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (โด 1% YoY) และ 6% สำหรับ ปี 2566 มาอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท (โต 9% YoY)

…ตามด้วยไตรมาสที่ดีที่สุดของปี

ประมาณการของเราบ่งชี้ไปที่กำไรไตรมาส 4/65 ที่ 810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 16% QoQ และเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565 เราคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจ ทั้งในประเทศ การส่งออก และการจัดจําหน่าย และรายได้เพิ่มเติมจากเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพใหม่ๆ นอกจากนี้ ราคาวัตถุดิบน่าจะปรับตัวลดลงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น เราคาดปัจจัยบวกจะกลบผลกระทบต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น (เริ่มในเดือนก.ย.) และค่าแรง (เริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.) ซึ่งเราประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อกำไรของ CBG ที่ 3.5% สังเกตว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ อาจส่งผลให้ยอดขายเครื่องดื่มในประเทศสูงขึ้น

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

เราชอบ CBG สําหรับการเติบโตของธุรกิจและผลกำไร ปัจจัยขับเคลื่อนถัดไปอาจเป็นการขยายกิจกรรมการขายในตลาดเวียดนามในไตรมาส 4/65 หรือต้นปี 2566 นอกจากนี้เรายังคาดต้นทุนวัตถุดิบจะปรับตัวลดลง และ CBG จะสร้างส่วนแบ่งตลาดการขายเครื่องดื่มในประเทศ ราคาหุ้นปรับตัวลง 9% นับตั้งแต่ผลประกอบการไตรมาส 2/65 (เมื่อ 11 ส.ค.) มาอยู่ที่ PER ปี 2565 ที่ 35.4 เท่า (ค่าเฉลี่ย 8 ปีที่ 36.0 เท่า) เราเชื่อว่าตลาดลงโทษ CBG มากเกินไปสําหรับผลประกอบการไตรมาส 2/65 ที่อ่อนแอ แต่ต้องไม่ลืมว่า ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง

- Advertisement -