“โกลเบล็ก” แนะลงทุนหุ้นได้อานิสงส์วิกฤตพลังงานในยุโรป
บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ผันผวนตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังนายพาวเวลประกาศคุมเข้มเศรษฐกิจสหรัฐ แก้ปัญหาเงินเฟ้อ บวกเฟดแสดงท่าทีอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ยังไม่สูงพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,600-1,650 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากวิกฤตพลังงานในยุโรป PRM-VL-BANPU-LANNA-PTTEP น่าลงทุน
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ว่า ยังมีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยตลาดหุ้นทั่วโลกถูกกดดันหลังนายพาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นจะต้องมีการคุมเข้มนโยบายไประยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาเซนต์หลุยส์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงยาวนานกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์และระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขณะนี้ยังไม่สูงพอที่จะควบคุมแรงกดดันเงินเฟ้อ จึงคาดการณ์ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,650 จุด
ขณะที่สหรัฐ ยังแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรกับจีนอย่างต่อเนื่อง โดยการสั่งเรือรบ 2 ลำแล่นผ่านช่องแคบระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อช่วงต้นเดือน และอาจจะก่อให้เกิดความขุ่นเคืองกับจีนซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ บ่งชี้ถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐ จีน และไต้หวันที่ยังคุกรุ่น
ส่วนตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ก.ค.65 เพิ่มขึ้น 4.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 10.7 – 11% ส่งผลให้ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2565 การส่งออกเพิ่มขึ้น 11.5% จากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าหมวดพลังงาน
ดังนั้นยังคงต้องจับตาปัจจัยในประเทศ อาทิ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และปัจจัยต่างประเทศ อาทิ อัตราว่างงานของญี่ปุ่นเดือนก.ค., อียู เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค.31 ส.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนส.ค. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ 1 ก.ย. จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค. อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค. อัตราว่างงานเดือนก.ค. สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค. 2 ก.ย. อียูเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่ได้ประโยชน์จากวิกฤตพลังงานในยุโรป จากการที่ดัชนีค่าระวางเรือเก็บน้ำมันเพิ่มขึ้น ได้แก่ PRM, VL และราคาพลังงานและถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ BANPU, LANNA และ PTTEP
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาประกาศตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ แม้ GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะหดตัวลง -0.6% แต่ตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐยังออกมาแข็งแกร่ง ทำให้เฟดประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถรองรับปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ สอดคล้องกับแนวโน้มจาก Fed watch ตลาดให้แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% โดยสัดส่วนน้ำหนักที่ 74.5% ขณะที่ปรับดอกเบี้ย 0.5% ให้น้ำหนัก 25.5% ทำให้ตลาดอาจแกว่งตัวออกข้างได้
ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบ 1,700-1,765$/Oz เนื่องจากยังมีปัจจัยหนุนด้านวิกฤตพลังงานฝั่งยุโรป สอดคล้องกับคาดการณ์เงินเฟ้อที่อาจทรงตัวระดับสูงต่อไป คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้