บล.บัวหลวง:

SCB X (SCB TB/SCB.BK)

SCB – ยกเลิกการซื้อบิทคับ ข่าวดีหรือข่าวร้าย?

เมื่อวานนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จํากัด (SCBS บริษัทย่อยของ SCB) ได้ประกาศว่าตัดสินใจไม่ซื้อหุ้น 51% ใน Bitkub เราเห็นว่านี่เป็นข่าวดีที่จะหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน เนื่องจากตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการวางแผนข้อตกลงและราคา (ราคาดูสูง เนื่องจากการซื้อขายคริปโตตกต่ำในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา)

มีอะไรใหม่

เมื่อวานนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จํากัด (SCBS) ได้ประกาศว่า ตัดสินใจไม่ลงทุนในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด (Bitkub) เหตุผลดังกล่าว คือ ขณะนี้ Bitkub อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่สํานักงาน ก.ล.ต. เสนอ กรอบเวลาในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นไม่แน่นอน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา SCB และ SCBS ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะ Bitkub โดยผลการสอบทาน ไม่พบข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอันมีนัยยะสำคัญ

What now? (ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ใหม่ของเราคือเท่าไร?)

เราได้ปรับประมาณการกำไรของ SCB ลง 0.6% มาอยู่ที่ 40.7 พันล้านบาท ในปี 2565 (เพิ่มขึ้น 14.2% YoY) และ 2.6% มาอยู่ที่ 41.3 พันล้านบาท ในปี 2566 (เพิ่มขึ้น 1.4% YoY) จากการตัดสินใจของ SCB ที่จะไม่ลงทุน ใน Bitkub ดังนั้นเราจึงปรับราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเล็กน้อยจาก 141 บาท ไปเป็น 137 บาท คิดเป็น PBV 1.0 เท่า สังเกตว่าราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ใหม่ของเราคำนวณจากสัดส่วนมูลค่าของธนาคาร: ธุรกิจใหม่ 81:19 ธนาคารมีมูลค่าเมื่อเทียบกับการประเมิน PBV ณ สิ้นปี 2565 ของเรา และธุรกิจใหม่มีมูลค่าเทียบกับ PER ปี 2565 ของธุรกิจใหม่ จากประมาณการกำไรของกลุ่ม SCB ปี 2565 ปัจจุบันเราคาดว่า 91% จะมาจากธนาคารและ 9% จากธุรกิจใหม่

เราเชื่อว่าการตัดสินใจของ SCBS ที่จะไม่เข้าถือหุ้นใน Bitkub จะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด ราคาหุ้นของ SCB ปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลของตลาดเกี่ยวกับข้อตกลงที่รอดำเนินการและราคาการเข้าซื้อ (SCBS ได้ วางแผนที่จะซื้อหุ้น 51% ใน Bitkub โดยอิงจาก PER ที่ 17 เท่า ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซื้อขายที่ PER เพียงประมาณ 10 เท่า)

ทางเลือกสําหรับการเข้าสู่ธุรกิจตลาดคริปโทเคอร์เรนซี?

SCB มีสองทางเลือกในการเข้าสู่พื้นที่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งสามารถสร้างธุรกิจได้ แต่จะใช้เวลานานในการพัฒนาแพลตฟอร์มไอที ความสามารถของพนักงาน และฐานลูกค้า ภายใต้ตัวเลือกนี้ เราคาดว่าการรจัดตั้งดังกล่าว จะก่อให้เกิดผลขาดทุนในปีแรกที่นําเนินการได้อีกทางเลือกหนึ่ง คือ การหาพันธมิตรที่จัดตั้งขึ้นใหม่ (ด้วยแพลตฟอร์มไอทีและฐานลูกค้าที่มีอยู่) ซึ่งจะสร้างกําไรทันที (สมมติฐานว่าพันธมิตรที่จัดตั้งขึ้นนั้นทํากําไรได้) ดังนั้นเราคาดว่า SCB จะมองหาพันธมิตรรายอื่นที่จัดการธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (เราไม่คาดหวังว่าจะสามารถปิดดีลการถือหุ้นใหม่ในธุรกิจตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในปีนี้)

 

- Advertisement -