Daily Focus: Domestic and Value Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index รีบาวด์ได้แข็งแกร่งกว่าที่ประเมิน ปิดบวก 12.93 จุด ยังคงนำโดยหุ้นขนาดใหญ่กระจายตัวและกลุ่มพลังงาน กระแสเงินทุนยังไหลเข้าต่อเนื่อง สถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้น 835 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิต่ออีก 2.1 พันลบ. (และ Long Index Futures อีก 2.8 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index คาดพักตัวลงสู่ระดับ 1,630+- จุด ถ่วงโดยกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบพลิกมาร่วงแรง -6% จากความกังวลเงินเฟ้อที่ถ่วงเศรษฐกิจ รวมถึงข่าวอิรักพร้อมส่งออกน้ำมันดิบไปยุโรปเพิ่ม ส่วนบรรยากาศการลงทุนมีแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ยังพักฐาน ต่อเนื่องจากแนวโน้มนโยบายการเงินของ FED ที่คาดยังขึ้นดอกเบี้ยแรง ปัจจัยที่ต้องติดตามปลายสัปดาห์นี้คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ ขณะที่อีกตัวเลขสำคัญคือเงินเฟ้อ CPI ที่จะประกาศวันที่ 13 ก.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญก่อนประชุม FED ในสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตาม เรายังคาดว่า SET Index จะพักตัวเบากว่าตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นๆ โดยยังได้อานิสงส์จากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าจากเศรษฐกิจที่เป็นขาขึ้น หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบแล้ว หุ้น Domestic และ Value Play ที่ PER ไม่สูงเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตจะยัง Outperform จากสภาพคล่องที่ทยอยลดลงตามนโยบาย การเงินที่ดึงตัวทั่วโลก ส่วนจังหวะสะสมหุ้นเพิ่มยังแนะนำรอช่วงตลาดพักฐานลงหา 1,600+ จุด เรายังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้ม SET Index ใน 4Q22-2023

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Value Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,580-1,600+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : BBL, ILINK, NSL, SAPPE, SC

หุ้นเด่นวันนี้ : NSL

  • แนะนำ “ซื้อ” อยู่ระหว่างปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 24 บาท
  • แนวโน้ม 3Q22 ดูดีกว่าที่เคยคาด ล่าสุดรายได้ 3QTD ยังปรับขึ้นต่อ Q-Q และโตสูง Y-Y ได้แรงหนุนจาก Reopening ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเริ่มทรงตัวถึงปรับลงทั้งแป้งสาลี และน้ำมันปาล์ม ลุ้นกำไร 3Q22 จะโตต่อ Q-Q และ Y-Y อาจทำ New high สวนทางฤดูกาลที่มักอ่อนลง Q-Q เพราะหน้าฝ
  • กำไร 4Q22 จะปรับขึ้นต่อเพราะเป็น High Season และได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวที่กลับมามากขึ้น ทำให้เราเริ่มเห็น Upside ต่อประมาณการกำไรปี 2022 จากปัจจุบัน คาด +30% ส่วนปี 2023 คาดโตต่อเนื่องอีก +15%
  • แนวรับ 19.20-19 บาท แนวต้าน 19.90-20//20.40 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$469 ล้าน โดยยังกระจุกตัวที่ไต้หวัน US$603 ล้าน แต่ไหลเข้าเกาหลีใต้บางๆ และโดยเฉพาะอาเซียนที่ยังไหลเข้าอินโดนีเซียและไทยประเทศละ US$56-62 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออก หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพักตัวต่อเนื่องจากแนวโน้ม FED ขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) IP ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงและร้าน Lab Pharmacy ที่เผชิญ Low season ใน 2Q22 จะหายไปใน 3Q22 ผลประกอบการ 2H22 จะดีขึ้นจากการปรับราคาขาย Lab Pharmacy ดีขึ้น ตามการเปิดเมืองและการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง รวมถึง IP มีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ การร่วมมือกับ Innobic (บ.ลูก PTT) ซึ่งถือหุ้น IP 20% จะเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์ให้ใน 4Q22 ช่วยเพิ่ม Utilization Rate ให้โรงงาน และอนาคตจะต่อยอดรุกตลาดต่างประเทศ เรายังคาดกำไรปี 2022-2024 +48% CAGR เราปรับราคาเป้าหมายเป็น 21 บาท จาก 24.50 บาท จากผลของการเพิ่มทุน ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) PRM แนวโน้ม 2H22 ดีกว่าครึ่งปีแรก ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งมี Margin สูงจะโตแรงสุด เรือ VLCC 1 ลำที่เข้ามาเดือน มิ.ย. จะทำงานเต็มไตรมาสใน 3Q22 และรับเพิ่มอีก 1 ลำใน 4Q22 รวมสิ้นปีมี 3 ลำ เป็นเรือที่มีสัญญา 10 ปี รายได้คงที่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องต้นทุนน้ำมัน เรือขนส่งในประเทศจะดีขึ้นต่อเนื่องตามการเปิดเมือง ส่วนเรือ Offshore จะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของ crew boat 9 ลำที่เข้ามาตั้งแต่ พ.ค. และมีลูกค้าเต็มแล้ว เรือ FSU ที่เผชิญต้นทุนเชื้อเพลิงสูง

มีการปรับราคาแล้วหลังหมดสัญญาเก่า เรายังคงคาดกำไรปกติปี 2022-2023 +20% Y-Y ต่อปี คงราคาเป้าหมาย 7.90 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) XO ผู้บริหารปรับลดเป้ารายได้ปี 2022 เป็นไม่โตจากเดิมที่คาด +10%-15% Y-Y หลังคำสั่งซื้อเริ่มชะลอตัวใน 3Q22 โดยเฉพาะจากลูกค้ายุโรป ซึ่งสัดส่วนรายได้กว่า 80% อาจถูกกระทบจากค่าก๊าซที่แพงขึ้นและฟื้นตัวช้ากว่าคาด คาดกำไร 3Q22 จะอ่อนตัวลงทั้ง Q-Q และ Y-Y และอาจลงต่อใน 4Q22 กำไรจึงดูผ่าน Peak ปีนี้แล้วใน 2Q22 เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2022-2023 ลงเป็น -23% Y-Y และ +10% Y-Y ตามลำดับ ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 16 บาท ลดคําแนะนําเป็น “ถือ” (กรรมการอิสระกรรมการตรวจสอบ/ กรรมการสรรหา ค่าตอบแทนและบรรษัทภิบาล ของ FINANSIA SYRUS เป็นกรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบของ XO)

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 31,790.87 จุด ร่วงลง 308.12 จุด หรือ -0.96% ตลาดยังกังวล FED จะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รวมถึงวิกฤตพลังงานจะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐ จากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 36.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 5.78 ดอลลาร์ หรือ -5.5% ปิดที่ 99.31 ดอลลาร์/บาร์เรล กดดันจากประเด็นอิรักพร้อมที่จะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบไปยังยุโรป

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 13.4 ดอลลาร์ หรือ -0.77% ปิดที่ 1,736.3 ดอลลาร์/ออนซ์ กดดันจากความกังวลว่า FED จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 976.26 / -4.35

- Advertisement -