รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี Sideways down

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ดัชนี Sideways หุ้นกดดันตลาดลงตามราคาน้ำมันดิบนำโดยกลุ่มพลังงาน PTT PTTEP TOP IVL BANPU และอื่นๆ DELTA JTS KBANK MAKRO ADVANC ส่วนด้านบวกส่วนใหญ่กลุ่ม Defensive ได้แก่ รพ. BDMS BH โรงไฟฟ้า BGRIM GPSC GULF EA และอื่นๆ AOT INTUCH CPN
  • วันนี้คาดดัชนี Sideways down เช่นเคยการย่อระหว่างวัน คงคาดไม่ลึกตราบใดที่ต่างชาติยังคงเป็นผู้ซื้อสุทธิ (เมื่อวานซื้ออีก 3 พันลบ.) และ Long สัญญาล่วงหน้า SET50 (เมื่อวานเพิ่ม 7.5 พันสัญญา) “ตามมุมมองของเรา คือเรามองว่าฝรั่งเลี้ยงราคาเพื่อทยอยออกของ TFEX” และสภาพคล่องยังเพิ่มขึ้นจากนักลงทุนในประเทศจากการเริ่มหลุดหุ้นที่เคยติด…หนุนการเลือกหุ้นเล่นแบบหมุนกลุ่ม และตาม Catalyst
  • วันนี้คาดดัชนีแกว่งอยู่ในกรอบ 1630-1645 จุด หุ้นกลุ่มนำตลาดวันนี้คาดหุ้นเล่นรับดอกเบี้ยและบอนด์ยีลด์ ได้แก่ แบงก์-ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ประกันฯ-บอนด์ยีลด์ขาขึ้นรอบใหม่…

What to watch

  • ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปก ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับลดกำลังการผลิตฯ ในการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 5 ก.ย. เพื่อพยุงราคาน้ำมัน ในกรณีที่น้ำมันดิบจากอิหร่านหวนคืนสู่ตลาด
  • หุ้นหลุด Cash balance เริ่มกลับมาซิ่ง เช่น PLUS และวันนี้ OTO หลุด Cash balance
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 76.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป เอเชีย ตลอดสัปดาห์นี้ จะโฟกัสไปที่ภาพรวมเศรษฐกิจ เช่น GDP 2Q ของหลายประเทศ ดัชนีฯภาคการผลิตที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง และการจ้างงานในสหรัฐที่อ่อนแอลง
  • รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยสัปดาห์นี้คาดขาดดุลเพิ่มขึ้น ระยะสั้นคาดมีผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าในระยะสัปดาห์ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3

หุ้นแนะนำวันนี้

  • TLI จุดแข็ง Upsides เพียบ / จุดอ่อน นลท.ส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึง Upsides เลยมีคนขายหมู
  • SCB ข่าวทยอยปรับดอกเบี้ยขาเงินกู้ขึ้น

Technical monthly report

แผนเทรด…..ย่อซื้อโซนรับ
แนะนำ ซื้อ
WHA  แนวรับ 3.4 แนวต้าน 4 และ 4.2 (stop loss< 3.3)
AWC  แนวรับ 5.2-5.4 แนวต้าน 6.5-7(stop loss< 5)
CPN  แนวรับ 67-68 แนวต้าน 80 และ 83 (stop loss< 65)
SITHAI  แนวรับ 1.5-1.6 แนวต้าน 2 และ 2.3 (stop loss< 1.4)

Global Investing Brief: หุ้นสหรัฐฯ ปรับลงต่อเป็นวันที่ 4 หลัง Bond Yield 2 ปี แตะระดับสูงสุดรอบ 15 ปี / Walmart ขึ้นค่าสมาชิก Sam’s Club คาดหนุนรายได้ระยะยาว

Highlight

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิดบูสเตอร์ช็อตของ Pfizer (PFE) และ Moderna (MRNA) ที่มีการปรับเปลี่ยนสูตรเพื่อป้องกันสายพันธุ์ BA.5 เป็นครั้งแรก โดยของ Pfizer จะอนุญาตให้ฉีดได้สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ส่วนของ Moderna สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ Pfizer เผยว่าสามารถส่งมอบได้ทันที 15 ล้านโดส และคาดว่าจะเริ่มฉีดได้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. เป็นต้นไป

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยดัชนี DJIA -0.9%, S&P 500 -0.8% และ Nasdaq -0.6% นำโดย Apple (AAPL) -1.1% และ Intel (INTC) -1.1% หลัง Loretta Mester ประธาน Fed สาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า Fed ควรขึ้นดอกเบี้ยให้อยู่เหนือระดับ 4% ภายในต้นปี 66 และคงไว้ที่ระดับดังกล่าวอีกสักระยะ โดยปัจจุบันตลาดให้น้ำหนักเพียง 33% ที่อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นเหนือ 4% ในปีหน้า ส่งผลให้ bond yield สหรัฐฯ อายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นแตะ 3.5% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี
  • Walmart (WMT) ประกาศปรับขึ้นค่าธรรมเนียมสมาชิกรายปีของร้าน Sam’s Club ครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยจะปรับขึ้นสู่ $50 จาก $45 สำหรับสมาชิกธรรมดา และขึ้นสู่ $110 จาก $100 สำหรับสมาชิกแบบ Plus เราคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้ระยะยาว อีกทั้ง บริษัทยังประกาศลงทุนในบริษัทผู้ผลิตเนื้อวัว Rancher Beef หลังเห็นว่าสินค้าประเภทอาหารสดเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ในไตรมาสที่ผ่านมา โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายตามร้านค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปลายปี 67 เป็นต้นไป ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $152.61

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งปิดทรงตัวในแดนบวก นำโดย Meituan (3690) +2.6% และ NetEase (9999) +2.1% หลังตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจีนเพิ่มขึ้นสู่ 49.4 ในเดือน ส.ค. จาก 49.0 ในเดือน ก.ย. และดีกว่าตลาดคาดที่ 49.2 อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่า 50 ซึ่งถือเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังได้รับผลกระทบจากโควิด ขณะเดียวกัน นายกฯ หลี่ เค่อเฉียง ของจีน กล่าวว่ามาตรการกระตุ้นขนาด RMB1tn ในปีนี้ มีขนาดและประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเศรษฐกิจมากกว่าในปี 63
  • NetEase (9999) เข้าซื้อผู้พัฒนาเกมจากฝรั่งเศส Quantic Dream เจ้าของเกมชื่อดังอย่าง Star Wars และ Detroit โดยการเข้าซื้อจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของเกม และจะส่งผลให้ NetEase มีศูนย์การดำเนินงานแห่งแรกในยุโรป ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการขยายตลาดในต่างประเทศ ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ HKD192.08

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • วานนี้ดัชนี VN ปิดบวก 0.1% นำโดย CII +4.4%, REE +2.1% และ MSN +0.7% หลัง Standard Chartered เผยว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะยังคงแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง หนุนจากกิจกรรมการท่องเที่ยว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน ก.ค. อยู่ที่ 350,000 คน เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าของค่าเฉลี่ยรายเดือนในครึ่งปีแรก ขณะเดียวกัน เมื่อ 29 ส.ค. เวียดนามเผยตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือน ส.ค. โต 50.2%YoY นับเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 และเป็นอัตราที่สูงที่สุดตั้งแต่ พ.ย. 54
  • VHM เผยว่าโครงการ Vinhomes Ocean Park 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือน เม.ย. ถูกขายออกไปแล้ว 86% ใน 2Q65 ซึ่งประมาน 40-45% ได้ถูกส่งมอบแล้ว เราจึงคาดว่าโครงการ Vinhomes Ocean Park 3 ซึ่งตั้งอยู่ถัดจาก Vinhomes Ocean Park 2 และกำลังจะเปิดตัวในสิ้น 3Q65 นี้จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน อีกทั้งบริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ เช่น Vinhomes Co Loa, Vinhomes Me Tri ในปี 67 ส่งผลให้โบรกเวียดนามปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 66 ขึ้น 8% สู่ 26.4%YoY และปี 67 ขึ้น 16% สู่ 20%YoY ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ VND92,850
  • ตลาดหุ้นเวียดนามจะหยุดทำการในวันนี้และพรุ่งนี้ เนื่องในวันชาติ (National Day) และจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์

Greed & FearBarometer: มาตรวัดความโลภและความกลัว

Overview:

Sentiment ตลาดอ่อนแอลงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงอยู่ในโซน Greed มาตรวัดปรับตัวลงจาก 70 คะแนนเป็น 69 คะแนน สัญญาณที่อ่อนแอลง ได้แก่ ดัชนี Momentum Strength ที่อ่อนแอลงหลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2021 และความผันผวนของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามดัชนี Volume Index ที่เพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกันได้ช่วยพยุง Sentiment ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

มาตรวัดความโลภและความกลัว (Greed & Fear Barometer):

จิตวิทยาในตลาดหุ้นมักถูกผลักดันด้วยสองอารมณ์หลัก คือ ความโลภและความกลัว โดยเมื่อยิ่งมีอารมณ์โลภมาก (Extreme Greed) หรือ อารมณ์กลัวมาก (Extreme Fear) ขึ้นเท่าใด การตัดสินใจด้วยเหตุผลก็มักจะลดลงไปเท่านั้น เช่น เมื่อเกิด Extreme Greed นักลงทุนก็อาจจะไล่ซื้อหุ้นมากจนเกินไปโดยไม่สนใจราคา ในขณะที่เวลาเกิด Extreme Fear ก็จะขายหุ้นมากเกินไปด้วยความตื่นตระหนก ดังนั้นหากอารมณ์ตลาดยิ่งเอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากเท่าใด โอกาสที่ดัชนีจะสวิงกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามก็มากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุที่ภาวะ extreme นั้น มักทำให้เกิดการซื้อหรือขายมากเกินไป (Overbought/ Oversold)
BLS Greed & Fear Barometer คำนวณมาจากเครื่องชี้วัดดังต่อไปนี้ 1) Bull-to-Bear 2) Momentum Strength 3) Yield Spread (Bond vs Equity) 4) Market Volatility 5) Market Breadth และ 6) Volume Index

 

- Advertisement -