บล.ฟิลลิป:
น้ำมันพืชไทย – TVO ผลตอบแทนเงินปันผลยังดี
Key Point
แม้อาจไม่มีปัจจัยเร่งต่อการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี แต่ TVO คงเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่ดีและสม่ำเสมอ ซึ่งปกติผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ที่ราว 6-7% ต่อปี ทำให้คงแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 32 บาท
แนวโน้มราคาถั่วเหลืองอ่อนลงในครึ่งปีหลัง
ผู้บริหารให้แนวโน้มราคากากถั่วเหลืองในครึ่งปีหลังคาดอยู่ที่ 13.50-15.00 เหรียญ/บุชเชล คาดผ่านจุดสูงสุดแล้วในครึ่งปีแรก ขณะที่ผู้บริโภครายใหญ่อย่างจีนยังมีผลจากการล็อกดาวน์ในประเทศทำให้จะซื้อให้เพียงพอต่อการใช้ไม่ซื้อล่วงหน้าในปริมาณมากอย่างในอดีต แต่โรคระบาด ASF ในจีนกลับสู่ภาวะปกติ และสต็อกถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองที่อยู่ในระดับต่ำทำให้อาจกลับมาพิจารณาซื้ออีกครั้ง สำหรับแนวโน้มผลผลิตในปีหน้าคาดอยู่ที่ 391.4 ล้านตัน +11% y-y จากพื้นที่เพาะปลุกที่มากขึ้นในสหรัฐและ yield ที่สูง แต่ต้องติดตามเฮอริเคนที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายปีว่าอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตให้ไม่เป็นดังคาด ส่วนราคาน้ำมันคาดจะปรับลงตามราคาน้ำมันปาล์มที่ลดลงหลังรัฐบาลอินโดนีเซียลับมาอนุญาตให้ส่งออกอีกครั้ง
คาดการดำเนินงานครึ่งปีหลังไม่โดดเด่น
ทางฝ่ายคาดการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะอ่อนกว่าในครึ่งปีแรก แม้ปริมาณขายกลุ่มกากถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้นตามการเลี้ยงที่มากขึ้น แต่หากต้นทุนการผลิตจะเร่งตัวขึ้นจากสต็อกที่มีอยู่ก่อนหน้า ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองคาดปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นจากเทศกาลกินเจ แต่ราคาขายเฉลี่ยจะลดลงตามราคาน้ำมันปาล์มที่ลดลง อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด ทำให้ทางฝ่าปรับเพิ่มประมาณการขึ้นจากเดิม โดยปรับยอดขายเป็น 33,734 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9% y-y รวมถึงการปรับ margin ขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ปรับกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 2,577 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 25% y-y
คาดใช้เงินลงทุน 1,700 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตโรงสกัด
ปกติ TVO เป็นบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลที่ดีและสม่ำเสมอ แต่ในครึ่งแรกของปีได้ประกาศจ่ายเงินปันผลและหุ้นปันผล เนื่องจากบ. ต้องการเก็บเงินไว้เพื่อขยายกำลังการผลิตโรงสกัดจากปัจจุบันที่มีอยู่ 6,000 ตันเป็น 7,000 ตัน/ปี และโรงกลั่นน้ำมัน 300 ตัน/ปี ซึ่งจะแล้วเสร็จใน 1Q2567 ด้วยเงินลงทุน ราว 1,700 ล้านบาท เพื่อไม่ให้มีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงเกินจึงทำให้จ่ายเงินปันผลต่ำกว่าปกติ ซึ่งคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีจะกลับมาจ่ายเงินปันผลตามปกติได้
ความเสี่ยง
1. ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
2. ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
3. ความเสี่ยงจากการใช้สินค้าทดแทน