บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Sabina (SABINA TB) เดินหน้าเติบโตแข็งแกร่ง
คงแนะนำ ซื้อ จากการเติบโตดีและอัตราผลตอบแทนปันผล 4-5%
เราคาดว่ากำไร 3Q65 จะเติบโตอย่างโดดเด่น YoY ซึ่งอาจเป็นระดับกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โมเมนตัมยอดขายเติบโตดีต่อเนื่องในเดือน ก.ค. – ส.ค. จากยอดขายสินค้าทางหน้าร้าน Non Store Retailing (NSR)) และสินค้า OEM อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นหลังจากปัญหาด้านแรงงานคลี่คลายลง ขณะที่บริษัทยังคงควบคุม ค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลคาดว่าอยู่ที่ 4-5% จากการมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งและใช้เม็ดเงินลงทุนน้อย เราคงแนะนำ ซื้อ SABINA ราคาเป้าหมาย (DCF) 30.50 บาท (WACC 7.3%, G 2%)
โมเมนตัมยอดขายดีต่อเนื่องใน 3Q65
โมเมนตัมยอดขายยังคงเติบโตต่อเนื่องใน 3Q65 จากการเปิดเมือง โรงเรียนเปิดเทอม และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะที่ยอดขายทาง NSR จะยังคงแข็งแกร่งจากแคมเปญส่งเสริมการขายที่หลากหลาย ส่วนธุรกิจ OEM ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าในอังกฤษและยุโรปยืนยันไปจนถึงเดือน ม.ค. 66 นอกจากนั้น การกลับมาของนักท่องเที่ยวซึ่งเคยมีสัดส่วน 5% ของยอดขายจะเป็นอัพไซด์ต่อยอดขาย
บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มฟื้นตัวสู่ระดับ 48-49% ใน 3Q65 หลังจากลดลงไปที่ 45.7% ใน 2Q65 ซึ่งจำนวนพนักงานมาทำงานเหลือเพียง 65% ในเดือน พ.ค. จากผลกระทบของ Omicron แต่ในเดือน ก.ค. เพิ่มกลับมาเป็น 98% นอกจากนั้น การที่จำนวนพนักงานทั้งหมดลดลงเหลือ 3,307 คน ใน 1H65 จาก 4,529 ในปี 62 ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 6% ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5% ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 คาดว่าจะส่งผลกระทบน้อยกว่า 1% ของต้นทุนและค่าใช้จ่าย ส่วนค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นคาดว่าจะส่งผลกระทบจำกัด เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง
ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง
ผู้บริหารคาดว่าตลาดชุดชั้นในมีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดย SABINA มีส่วนแบ่งตลาด 15% ทำให้บริษัทมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทั้งนี้ บริษัทมีการปิดสาขาที่ขาดทุนไป และวางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่โดยไม่เน้นเปิดสาขาจำนวนมาก แต่จะเปิดสาขาเฉพาะในทำเลที่ดี โดยคาดว่าปีนี้จะมีจำนวนสาขารวมประมาณ 530 แห่ง เทียบกับ 585 แห่งในปี 62 บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีการใช้เม็ดเงินลงทุนต่อปีไม่เกิน 50 ล้านบาท เราประเมินอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนปี 65 ที่ 0.1 เท่า โดยคาดว่าบริษัทยังสามารถจ่ายเงินปันผล (Pay-out ratio) 100% ของกำไรได้ หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 4-5%