KS Daily View 02.09.2022 > ตลาดเชื่อ Fed เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยฯ หนุน Bond yield ปรับขึ้น /ติดตามตัวเลขแรงงานสหรัฐคืนนี้ SET วันนี้คาด 1610 -1630 จุด  หุ้นแนะนำ BLA, BGRIM

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

ต่างประเทศ: ปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นเหมือนจะมากกว่าปัจจัยบวกหลักๆ คือ

1.) เศรษฐกิจจีนในช่วงที่เหลือของปีคาดฟื้นตัวล่าช้า เนื่องจากผลกระทบจากการ Lockdown จาก Covid ที่สูงขึ้น ล่าสุดรัฐบาลจีนได้สั่ง Lockdown เมืองเฉิงตูมณฑลเสฉวน ซึ่งมีประชาชน 21 ล้านคน และเป็นฐานการผลิตของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ และเมื่อวานจีนรายงาน Caixin Manufacturing PMI ของจีน เดือน ส.ค. ออกมา 49.5 จุด(-1.8%MoM) ต่ำกว่าตลาดคาด 50.2 จุด (PMI ต่ำกว่า 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตชะลอตัว) โดยรวมเป็นปัจจัยกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับลงต่อโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบปรับลงติดต่อเป็นวันที่ 3 ราคาน้ำมันดิบ Brent  -3.4%DoD ปิดที่ 92.36 เหรียญ/บาร์เรล KS ประเมินจะกดดันตลาดหุ้นไทยในวันนี้เนื่องจากกลุ่มพลังงานของไทยมีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 และประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น Anti Commodity แต่อีกฝังจะเป็น Sentiment ลบต่อหุ้น น้ำมัน,โรงกลั่น ฯลฯ

2.) มุมมองเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่ตลาดเชื่อจะยังขึ้นในอัตราเร่ง (Hawkish) สะท้อนจาก Fed funds futures ให้น้ำหนัก 74%ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75bps. ในการประชุมรอบ ก.ย. และ 26% ว่า Fed จะขึ้น 50bps.  หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งประธาน Fed Powell,  ประธาน Fed สาขา Cleveland ฯลฯ  ออกมาตอกย้ำความเชื่อในโทนต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยฯ เพื่อกดเงินเฟ้อทำให้สัปดาห์นี้ Bond yields สหรัฐ อายุ 2 ปี และ 10 ปียังเป็น Trend ขาขึ้น โดยเฉพาะอายุ 10 ปี สัปดาห์นี้ขึ้นมาราว 25bps ล่าสุดอยู่ที่ 3.26% KS ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร, กลุ่มประกัน แต่ Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มการเงิน

โดยรวมทั้ง 2 ปัจจัยส่วนเมื่อคืนตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐ Rebound โดยดัชนี Dow Jones +0.46%DoD, ดัชนี S&P500 +0.3%DoD, ดัชนี Nasdaq –0.26%DoD  หลังจากก่อนหน้าปรับลงต่อเนื่อง 4 วันติด โดย Sector หุ้นสหรัฐที่ปรับลงแรงเมื่อคืนยังคงเป็นกลุ่มเดิม ได้แก่ Energy -2.3%, Material –1.38%, IT -1.38%,และกลุ่มที่ปรับขึ้นและ Outperform ตลาดได้แก่ Healthcare 1.65%, Utilities +1.42%, Consumer staples 0.71%, finance 0.36%

ในประเทศ: SET Index พักฐาน -1.04%DoD ปิดที่ 1621 จุด โดยเมื่อวานกลุ่มขายสุทธิคือ ต่างชาติที่สลับกลับมาขายสุทธิสูงถึง  3.26 พันล้านบาท หลังจากก่อนหน้าซื้อสุทธิติดต่อกัน 2 วัน และสถาบันขายสุทธิ 2.2 พันล้านบาท เพื่อรอดูตัวเลขแรงงานฝั่งสหรัฐในวันนี้ โดย Sector ที่กดดัชนีหลักๆ คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, EA, GULF), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO) และกลุ่ม ICT และ ปิโตรเคมี  ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นได้เล้กน้อยมีเพียง กลุ่ม Reopening อาทิ BA, CENTEL, CPN  กลุ่มวัสดุก่อสร้างอาทิ TOA, TASCO

ประเด็นที่ต้องติดตาม

ต่างประเทศ :

1.) คืนนี้ Non-farm payroll และ อัตราการว่างงานสหรัฐ เดือน ส.ค.คืนนี้ หากออกมาชะลอลง คาดจะหนุนสินทรัพย์เสี่ยง Rebound

2.) ประชุม OPEC+ วันที่ 5 ก.ย. KS ประเมินว่าความเป็นไปได้น้อยที่จะเห็นกลุ่ม OPEC+ลดกำลังการผลิต เพราะเชื่อว่า OPEC+ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ยังสูงในปัจจุบัน  และรอจนกว่า Supply น้ำมันจากอิหร่านจะออกมา KS ประเมินราคาน้ำมันจะยังผันผวนในระดับสูงในช่วง 90-120$/บาร์เรล

ในประเทศ :

1.) ศบค.อนุญาตให้ร้านยาขายยาต้านโควิด ทั้งฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด โดยให้ขายตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น KS มองเป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่ม Reopenings และธุรกิจร้านขายยา แต่เป็นลบกับกลุ่มโรงพยาบาลโควิด

2.) ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์การโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความคุ้มครองแก่ผู้ซื้อขาย มีผล 1 ก.ย.65 ส่วนโฆษณาที่มีมาก่อนหน้าต้องแก้ไขตามเกณฑ์ภายใน 30 วัน KS ประเมิน sentiment ลบกลุ่ม Media

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1610-1630 จุด

หุ้นแนะนำ BGRIM, BLA

  • BGRIM (ราคาพื้นฐาน  61.5 บาท) เป็นหุ้น Defensive และอยู่ในกลุ่ม Utilities คาด Outperformในช่วงที่ตลาดผันผวนและ เป็น 1 ใน หุ้น Anticommodity ที่ได้ Sentiment บวกจากราคาพลังงานที่ปรับลง  หนุนจากราคาก๊าซในยุโรปปรับลงแรงในสัปดาห์นี้และปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีแผนขยายกำลังการผลิตในเชิงรุกในระยะยาวและประโยชน์ที่คาดได้รับจากการขึ้นค่า Ft ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1,000 MW โดย BGRIM ถือหุ้นในสัดส่วนที่ 50-70% ทั้งในโครงการ greenfield และ brownfield ในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีกหลายแห่งในต่างประเทศ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซในมาเลเซีย โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเกาหลีใต้และเวียดนาม
  • BLA (ราคาทางพื้นฐาน  56.0 บาท)  แนะนำเก็งกำไร BLA เนื่องจาก

1.) ได้ Sentiment บวกจากทิศทาง Bond yields สหรัฐที่ปรับขึ้นแรงจากมุมมองตลาดให้น้ำหนัก Fed จะยังเร่งขึ้นดอกเบี้ย Hawkish

2.) มูลค่าหุ้นในปัจจุบันนั้นค่อนข้างถูกโดยหุ้น BLA ขณะนี้ซื้อขายที่ P/EV ปี 2565 เพียง 0.85 เท่า ขณะที่เราเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะทรงตัวหรือมีแนวโน้มขาขึ้น โดย P/EV ของหุ้น BLA น่าจะถูกปรับขึ้นเป็นสูงกว่า 1.0 เท่า เนื่องจากประกันที่ขายได้ใหม่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิม

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันศุกร์ ตัวเลข Non-farm payroll ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 285K (ลดลงจาก 528K ในเดือน ก.ค.) อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 3.5% (ทรงตัว MoM) ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +5.3% YoY (เทียบเดือนก่อนที่ +5.2% YoY) และตัวเลข Factory order ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. คาด +0.2% MoM

- Advertisement -