Daily Focus: Domestic and Selective Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index แกว่งตัว Sideways ก่อนปิดทรงตัว โดยตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ประกาศคืนวันศุกร์ สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 374 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายหนาแน่นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 อีก 2.2 พันลบ. (และ Short Index Futures อีกเกือบ 1.6 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้: เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways กรอบ 1,610-1,630 จุด หลังตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานสหรัฐฯ ออกมาชะลอตัวใกล้เคียงคาด แต่ตลาดยังคงมอง FED ยังมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ปลายเดือนนี้ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. ซึ่งจะประกาศวันนี้ ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้น +7.8% Y-Y ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +3.2% หากสูงกว่าคาดจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นเช่นกัน และเพิ่มโอกาสที่กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ปลายเดือน ส่วนช่วงปลายสัปดาห์จะมีการประชุม ECB ตลาคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองว่า SET Index จะแกว่งตัวได้แข็งแรงกว่าภูมิภาคอื่น จากอานิสงส์ของเศรษฐกิจที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น เราคาดหุ้น Domestic และ Value Play ที่ PER ไม่สูงเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตจะยัง Outperform ส่วนจังหวะพักตัวของดัชนีลงหา 1,580-1,600+- จุด เรามองเป็นจังหวะสะสมเพิ่ม

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Value Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,580-1,600+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : CPN, KTB, M, PRM, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : NSL

  • แนะนำ “ซื้อ” อยู่ระหว่างปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 24 บาท
  • แนวโน้ม 3Q22 ดูดีกว่าที่เคยคาด ล่าสุดรายได้ 3QTD ยังปรับขึ้นต่อ Q-Q และโตสูง Y-Y ได้แรงหนุนจาก Reopening ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเริ่มทรงตัวถึงปรับลง ทั้งแป้งสาลีและน้ำมันปาล์ม ลุ้นกำไร 3Q22 จะโตต่อ Q-Q และ Y-Y อาจทำ New high สวนทางฤดูกาลที่มักอ่อน ลง Q-Q เพราะหน้าฝน
  • กำไร 4Q22 จะปรับขึ้นต่อเพราะเป็น High Season และได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวที่กลับมามากขึ้น ทำให้เราเริ่มเห็น Upside ต่อประมาณการกำไรปี 2022 จากปัจจุบันคาด +30% ส่วนปี 2023 คาดโตต่อเนื่องอีก +15%
  • แนวรับ 18.50 บาท แนวต้าน 19.80-20 บาท

Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคอีก US$640 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$460 ล้าน และ US$183 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินยังคงผสมผสาน ไหลเข้าอินโดนีเซียแต่ไหลออกจากไทยปริมาณใกล้เคียงกันราว US$60-62 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก หลังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ตลาดรอดูการประชุม ECB สัปดาห์นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ใกล้เคียงคาด โดยเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 3.15 แสนตำแหน่ง ชะลอจากเดือนก่อนที่ 5.26 แสนตำแหน่ง แต่อัตราว่างงานสูงกว่าคาด เพิ่มขึ้นเป็น 3.7% ส่วนค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นใกล้เคียงคาด +0.3% M-M, +5.2% Y-Y ตลาดหุ้นสหรัฐฯตอบรับเชิงบวกระยะสั้นแต่ท้ายสุดย้อนลงมาปิดลบต่อเนื่อง เราประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในเดือน ก.ย. นี้ที่ตลาดส่วนใหญ่ ประเมินปรับขึ้นอีก 0.75% หุ้น Tech และ Growth คาดยังฟื้นตัวได้จำกัด ขณะที่หุ้น Domestic และ Value Play คาดยัง Outperform

(0) กลุ่มบันเทิง เราปรับลดเม็ดประมาณการเม็ดเงินโฆษณาปีนี้ลงจาก +7.4% Y-Y เหลือ +4.7% Y-Y จากความไม่แน่นอนใน 2H22 ทั้งเงินเฟ้อที่สูงและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง โดยฝั่งทีวีคาดหดตัวเล็กน้อย แต่สื่อนอกบ้านคาดยังโตแรง นอกจากนี้ตลาด OTT คาดเติบโตสูงสุดในปี 2022 และดีต่อเนื่องจาก Penetration Rate ที่จะเร่งตัว เราคาดแนวโน้มกำไร 2H22 จะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาหุ้นโดย 3Q22 คาดยังไม่โดดเด่นนัก ก่อนฟื้นตัวใน 4Q22 จาก High Season เราปรับลดน้ำหนักการลงทุนจาก Overweight เป็น Neutral ส่วน Top Pick คือ PLANB (ราคาเป้าหมาย 7.60 บาท) และ ONEE (ราคาเป้าหมาย 12 บาท)

(0) GLOCON ผู้บริหารปรับลดเป้ารายได้ปี 2022 ลงเป็น 2.9 พันลบ.จาก 3 พันลบ. หลัง 2Q22 สะดุด แต่ล่าสุด 3Q22 จะกลับมาฟื้นทั้ง Q-Q, Y-Y นำโดยธุรกิจ Ready to Eat ลูกชิ้นทิพย์ที่คาดพลิกกำไร และเข้าฤดูผลไม้อีกครั้ง และคาดเร่งขึ้นต่อใน 4Q22 ส่วนเป้ารายได้ปี 2023 ยัง Aggressive ที่ 3.8 พันลบ. +31% Y-Y และมีแรงหนุนจากแผน M&A อย่างไรก็ตาม เราปรับลดกำไรปี 2022 ลงเหลือ 62 ลบ. แต่ยังพลิกจากขาดทุนปีก่อน ส่วนปี 2023 คาดเร่งขึ้น +2.3x Y-Y ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 1 บาท โดยหากได้รับอนุมัติแผนล้างขาดทุนสะสมจากผู้ถือหุ้น 8 ก.ย. นี้ จะสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2022 แนะนำ “เก็งกำไร”

(0) RT เราเห็นสัญญาณการฟื้นตัวใน 2H22 หลัง COVID ในแคมป์คลี่คลายและสามารถจัดหาแรงงานเพิ่มเติม รวมถึงเริ่มเข้างานหลักของงานอุโมงค์ระบายน้ำและรถไฟทางคู่เด่นชัย ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ที่มีมาร์จิ้นดี ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกระทบไม่มาก เนื่องจากจ่ายค่าแรงสูงกว่า ขณะที่ Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 7.2 พันลบ. และบริษัทคงเป้าสิ้นปีนี้ที่ 8.5 พันลบ. จากโอกาสได้รับงานเพิ่ม โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าหลวงพระบางและรถไฟทางคู่เด่นชัยสัญญาอื่น เรายังคาดผลการดำเนินงานปี 2022 ขาดทุน ก่อนพลิกกำไรปีหน้า ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 1.70 บาท ปรับคำแนะนำาขึ้นเป็น “เก็งกำไร”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 31,318.44 จุด ลดลง 337.98 จุด หรือ -1.07% ถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป

(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก แต่ยังคงลดลง 2% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนยังคงกังวัลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงาน

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ

(0) ค่าเงินบาท เคลื่อนไหวแคบอยู่ที่บริเวณ 36.74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 26 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 86.87 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนรอการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 13.3 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 1,722.6 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 973.08 / -0.28

- Advertisement -