ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ไซด์เวย์ต่อ ฟันด์โฟลว์ยังคงชะลอในช่วงสั้น

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์เทรดไซด์เวย์ต่อ… หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยผันผวนตลอดทั้งวัน ก่อนปิดเกือบไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากฟันด์โฟลว์กลับมาอยู่ในฝั่งขายสุทธิแรงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ยังกดดันจิตวิทยาตลาด… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลางๆ กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงเมื่อวันศุกร์ หลังจากสินทรัพย์เสี่ยงถูกกดดันโดยดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ ที่รีบาวด์ค่อนข้างแรง หลังค่าเงินยูโรร่วงลงตามข่าวว่ารัสเซียเลื่อนการจ่ายก๊าซธรรมชาติผ่านท่อ Nord Stream 1 อย่างไม่มีกำหนด อ้างปัญหาทางด้านวิศวกรรม ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความกังวลต่อเศรษฐกิจยุโรปขึ้นไปอีก ii) ในมุมของแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ นั้น สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ให้น้ำหนักประมาณ 50:50 ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมวันที่ 21 ก.ย. นี้ โดยมุมมองต่อนโยบายของเฟดผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลังจากสหรัฐฯ รายงานตัวเลขอัตราการว่างงาน ส.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 3.7% สูงกว่าที่ consensus คาดการณ์ไว้ที่ 3.5%… สำหรับในวันนี้ ปัจจัยที่น่าติดตามและอาจมีผลต่อภาวะตลาดได้แก่ i) ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเดือน ส.ค. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดไว้ที่ 7.48% YoY เทียบกับ 7.61% YoY ในเดือน ก.ค. และ ii) ผลการประชุม OPEC+ ที่จะออกมาในคืนวันนี้ ซึ่งทางเราคาดว่า OPEC+ จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมัน หลังราคาน้ำมันปรับลงมาต่อเนื่องนับจากต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร MEGA*, WHA*, BAFS

  • MEGA* (เป้า SAA Consensus 62 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 50 บาท / แนวต้าน 51 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบกรอบแนวต้านถัดไป 53 – 55 บาท (Stop loss 48.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มยอดขายผลิตภัณฑ์ยาทั่วไปจะเริ่มฟื้นตัว หลังจำนวนผู้ป่วย Non-Covid เริ่มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเตรียมศึกษาการขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับโรครุนแรง อาทิ มะเร็ง ลิ่มเลือด ขณะที่คาดความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยังดีต่อเนื่อง 3) Valuation ไม่แพง Forward PE +/- 20 เท่า … ข้อมูล SAA Consensus
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.48 บาท / แนวต้าน 3.58 บาท กรณี Break ผ่าน แนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 3.7 บาท (Stop loss 3.30 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 เติบโต HoH โดยคาดการโอนที่ดินนิคมฯ ใน 2H65 > 1H65 (สมติฐานยอดโอนทั้งปี 2565 คาดไว้ที่ 1 พันไร่ ขณะที่ 1H65 โอนไปแล้ว 415 ไร่) และคาดการโอนที่ดินนิคมฯ จะโตต่อเนื่องในปี 2566 … ล่าสุดเตรียมเซ็นสัญญาขายที่ดินให้กับโรงงานผลิตรถ EV จากจีน เดือน ก.ย. นี้ (ที่มา: นสพ ข่าวหุ้น) 3) Valuation ไม่แพง Forward PE 16 เท่า ขณะที่คาดกำไรปีนี้โต +30% YoY
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 28.75 บาท / แนวต้าน 29.5 – 30.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 32 บาท (Stop loss 28 บาท) 2) ล่าสุดปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาเฉลี่ย +/- 9 ล้านลิตรต่อวัน (เกินจุดคุ้มทุนที่ 8.3 ล้านลิตรต่อวันแล้ว) และคาดจะเริ่มพลิกมีกำไรสุทธิใน 4Q65 3) ราคาหุ้น Laggard AOT* / Valuation ถูกกว่า โดย PBV 4 เท่า คิดเป็นราว +/- 1 เท่า ของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่ AOT* มี PBV 10 เท่า คิดเป็น +2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอดีตแล้ว

หุ้นมีข่าว

(+) “บิ๊กคอร์ป” ลุยแพลนต์เบส PTT* รุกตั้งโรงงาน โกลบอล สเกล – CPF เดินเครื่องผลิตปี 66 (กรุงเทพธุรกิจ) “เบทาโกร” จับมือสตาร์ทอัพ เร่งนวัตกรรมโปรตีนจากพืช “บิ๊กคอร์ป” ลุยธุรกิจอาหารแห่งอนาคต กลุ่ม ปตท.ส่ง “อินโนบิก” ร่วมทุน “เอ็นอาร์เอฟ” ตั้งโรงงานแพลนต์เบส จับมือ Wicked แบรนด์ดังอังกฤษ นำเข้าสินค้าเพื่อนำร่องตลาดไทย “ซีพีเอฟ” ตั้งโรงงานที่สมุทรสาคร เดินเครื่องปี 66 กำลังผลิต 1.2 หมื่นตัน “เบทาโกร” จับมือสตาร์ตอัปลุยนวัตกรรมแพลนต์เบส กระทวงเกษตรฯพร้อมหนุนเอกชนเต็มที่ สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร

(-) KCE*-DELTA-HANA* ร่วง กังวลจีนล็อกดาวน์เฉิงตู (ข่าวหุ้น) ราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์วูบ KCE* นำทีมร่วง 3.30% ตามด้วย DELTA รูด 2.67% และ HANA* ลดลง 1.22% กังวลจีนล็อกดาวน์เมืองเฉิงตู ตามมาตรการ Zero Covid โบรกฯ คาด KCE* มีสัดส่วนส่งออกไปจีน 15-20% ส่วน HANA* มีโรงงานในจีนสัดส่วนรายได้ 18% แม้โรงงานอยู่ที่เจียซิง แต่อาจถูกกระทบจากซัพพลายเชน

(+) BJC* ขายยารักษาโควิด ขานรับมีร้าน 146 สาขา (ทันหุ้น) BJC* พร้อมขายยารักษาโควิดในร้านขาย ยา “เพรียว” และ “สิริฟาร์มา” กว่า 146 สาขา ทั่วประเทศ หลังเว็บไซต์กองยา อย.เผยแพร่ประกาศ 5 ฉบับ ระบุหลักเกณฑ์ขายยารักษาโควิดในร้านขายยาแล้วตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา แย้มยอดขาย Big C ต่อสาขาฟื้นตัวแกร่ง หนุนจากทั้งลูกค้าในต่างประเทศ เดินเครื่องผลิตบรรจุภัณฑ์เต็มกำลัง

(+) PRM ลงทุนใหญ่เพิ่มกองเรือ 3 ลำ มูลค่า 1.8 พันลบ. (ทันหุ้น) PRM อนุมัติแผนลงทุนใหญ่ ขยายพอร์ตกองเรือรวม 3 ลำ ครอบคลุมทั้งกลุ่มเรือขนส่งและจัดเก็บปิโตรเลียมลอยน้ำ เรือขนส่งปิโตรเลียมภายในประเทศและเรือขนส่งปิโตรเคมี รวมวงเงินลงทุนประมาณ 1,896 ล้านบาท เสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ เตรียมทยอยให้บริการไตรมาสสุดท้ายปีนี้ หนุนธุรกิจเติบโต

(+) VGI* จับมือ 2 พันธมิตร BTS*-ONEE เปิดตัวสำนักข่าว one news (ข่าวหุ้น) VGI* จับมือ BTS* และ ONEE เปิดตัวสำนักข่าวเคลื่อนที่ “one news” ออกอากาศในขบวนรถไฟฟ้า บนสถานี และอาคารสำนักงาน เป็นสื่อกลางให้คนกรุงเข้าถึงข้อมูลข่าวสารตลอดวัน

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร COM7* (Trailing stop 33.5 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.7 บาท / แนวต้าน 14.2-14.5 บาท (Trailing stop 13.6 บาท)
  • TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.75-7.0 บาท (Stop loss 6.0 บาท)
  • SCB* (เป้าพื้นฐาน 150 บาท) แนวรับ 108.5 บาท / แนวต้าน 111-113 บาท (Stop loss 107 บาท)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.6-15.9 บาท (Stop loss 14.8 บาท)
  • EPG* (เป้า Consensus 12.25 บาท) แนวรับ 9.8 บาท / แนวต้าน 10.0-10.2 (Stop loss 9.55 บาท)
  • CPALL (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 60 บาท / แนวต้าน 61.5-62.0 บาท (Stop loss 60 บาท)
  • CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 40 บาท / แนวต้าน 41.5-42.5 บาท (Stop loss 39 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มโรงแรม น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ปรับสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านคน (จาก 8 ล้านคน) และคงเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2566 ไว้ที่ 25 ล้านคน ตามเดิม ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มธุรกิจโรงแรมในไทยจะกลับมาเด่นกว่าโรงแรมในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ยุโรป เลือก ERW และ CENTEL* เป็นหุ้นเด่น และยังคงแนะนำ “ซื้อ” SHR… วันนี้ออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานปรับเป้า CENTEL* ขึ้นเป็น 52 บาท (เดิม 46 บาท) และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” (เดิม “ถือ”)
- Advertisement -