อัตราการว่างงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ กดดันจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกขานรับการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอาจเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งลดแรงกดดันจากที่เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -1.07%, -1.31%, -1.07%
  • ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก มีแรงช้อนซื้อหุ้น หลังจากร่วงลงมาติดต่อกันถึง 5 วันทำการ สัปดาห์นี้คาดว่าจะผันผวนต่อก่อนการประชุมอีซีบีที่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 3.33%, 1.86%, 2.21%, 2.91% สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.26 ดอลลาร์ปิดที่ 86.87 ดอลลาร์/ บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.02 ดอลลาร์/บาร์เรล มีแรงช้อนซื้อก่อนทราบผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันนี้
  • ตลาดหุ้นไทย วันศุกร์ปรับขึ้นสวนทางกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค มีแรงขายในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA, KCE, HANA ที่คาดว่าได้รับผลกระทบทางอ้อมจากความต้องการใช้ชิปในตลาดโลกที่ลดลง ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ในประเทศยุโรป จีน และสหรัฐฯ ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณของสต๊อกสินค้าที่เพิ่มขึ้น บริษัทยานยนต์ในยุโรปและบริษัทในภาคอุตสาหกรรมได้ยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า ซึ่งรวมถึงบริษัท ไมครอนเทคโนโลยี และอะนาล็อค ดีไวเซสที่ได้ยกเลิกคำสั่งซื้อเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง  นอกจากนี้ยังมีแรงขายในกลุ่มปิโตรเคมีต้นน้ำและปลายน้ำที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว  จีนยังคงใช้มาตรการล็อคดาวน์เมืองสำคัญๆ ทางด้านเศรษฐกิจ เช่น เมืองกวางโจว และพื้นที่หลายส่วนในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีน และเมืองเฉิงตูได้สั่งล็อคดาวน์หลายพื้นที่ คาดว่าจะกระทบบริษัทหลายแห่ง เช่น โตโยต้า มอเตอร์ และฟ็อกซ์คอน คาดว่าจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบ ปัจจุบันสำนักวิจัยหลายแห่งปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนลงมาที่ระดับ 3% และคาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวต่ำกว่า 3% เนื่องจากผลกระทบจากการชะลอตัวลงอย่างรุนแรงของภาคอสังริมทรัพย์จีน
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 315,000 ราย ในเดือนส.ค. ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 ตำแหน่ง ชะลอตัวจากระดับ 526,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ค. ค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 0.3% MoM. และเพิ่มขึ้น 5.2% YoY. นักลงทุนลดคาดการณ์เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ลงเล็กน้อย หลังอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นกว่าคาด
  • แนวโน้มตลาดหุ้นไทย วันนี้คาดว่า แกว่งในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน  นักลงทุนติดตามผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันนี้ เพื่อกำหนดการผลิตน้ำมันในเดือนต.ค. แหล่งข่าวระบุว่ามีแนวโน้มที่กลุ่มฯ จะไม่ปรับลดกำลังการผลิต คาดว่าจะคงเพิ่มกำลังการผลิตที่ระดับ 100,000 บาร์เรล/วัน คาดว่ากลุ่มพลังงานจะมีแรงขายทำกำไรหลังเสร็จสิ้นการประชุม สัปดาห์นี้ไฮไลท์อยู่ที่การประชุมอีซีบีที่คาดว่าจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และความกังวลวิกฤตพลังงานในยุโรป รวมทั้ง การประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงาน แนะนำให้ซื้อหุ้น EA, BYD, NEX, GPSC, BGRIM

กลยุทธ์การลงทุน

Trading: ดีดกลับไม่ข้าม 1,650 จุด แนะนำ “ขายเพื่อรอซื้อกลับเมื่ออ่อนตัว”

- Advertisement -