บล.พาย:
XO: บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด “ปีนี้ไม่สดใส แต่ปีหน้าดีจากปรับราคา”
คงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 17.7 บาท (20XPER’22E เดิม 23 บาท) ด้วยปัจจัยบวกจากการเป็นผู้ผลิตซอสพริกชั้นนำ ที่ยังมีโอกาสขยายไปยังตลาดประเทศสหรัฐฯ ได้ หลังจากประสบความสำเร็จในทวีปยุโรปมาแล้ว และการปรับราคาที่จะทำได้ในปี 23 แต่ปัจจัยลบระยะสั้น คือ ผลประกอบการงวด 3Q22 มีแนวโน้มชะลอตัวหลังยุโรปเริ่มชะลอการซื้อหลังเป็นฤดูท่องเที่ยว
2Q22 ทรุด 39%YoY, 0.4%QoQ
- 2Q22 กำไรสุทธิ 95 ลบ. (-38%YoY, -0.4%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมผลขาดทุนจากการปรับมูลค่าเงินลงทุน 11 ลบ. กำไรปกติจะอยู่ที่ 105 ลบ. (-32%YoY, แต่ +11%QoQ) การลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนสาเหตุหลักเกิด จากผู้บริโภคมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด รวมถึงเริ่มได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วกดดันกำไรขั้นต้นให้ลดลง ขณะที่การเพิ่มจาก 1Q22 ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการขาดแคลนตู้ขนส่งเริ่มดีขึ้
- รายได้อยู่ที่ 392 ลบ. (-14%YoY, +13%QoQ) มีปริมาณขายทั้งสิ้น 4,544 ตัน (-11%YoY, +9%QoQ) กำไรขั้นต้น 41.9% ลดลงจาก 46.5% ใน 2Q21 และ 43.8% ใน 1Q22 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 59 ลบ. (+16%YoY, +3%QoQ) เกิดจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้น
- รวมแล้วในช่วง 1H22 XO มีรายได้ 739 ลบ. (-8%YoY) และมีกำไรสุทธิ 190 ลบ. (-27%YoY) กำไรปกติที่ 200 ลบ. (-23%YoY)
- แนวโน้ม 3Q22 คาดว่ารายได้จะเห็นการปรับตัวลดลงทั้งจากปีก่อน และ 2Q22 เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อเนื่องจาก 2Q22 ที่ลูกค้าหลักจากยุโรปลดการซื้อลง ส่วนตลาดประเทศสหรัฐฯที่เป็นตลาดใหญ่ของซอสพริกยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น สัดส่วนรายได้ยังไม่มากนัก (เริ่มส่งไปขายได้ช่วงปลาย 2Q22)
- เตรียมปรับราคาในปี 23 เป็นต้นไป หลังจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแพคเกจหรือต้นทุนอื่นๆ ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะปรับขึ้นเท่าใด (เคยปรับในกรอบ 1.5-13% ในช่วง 2H18)
ปรับกำไรทั้งปีลง 16%
- จากแนวโน้มช่วง 3Q22 ที่เห็นการชะลอตัวลง ทำให้เราปรับกำไรสุทธิปี 22 ลงจากเดิม 21% มาอยู่ที่ 379 ลบ. (-18%YoY) โดยการปรับรายได้ลงเหลือ 1,435 ลบ. (-6%YoY) จากเดิมที่คาดไว้ที่ 1,672 ลบ.
โรงงานใหม่คาดเริ่มสร้างปลายปีหน้า
- สำหรับแผนการสร้างโรงงานใหม่หลังจากซื้อที่ดินมาในช่วงต้นปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างวางแผนการก่อสร้างอยู่ โดยคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงปลายปี 23 หรือต้นปี 24 เนื่องจากจะรอดูสถานการณ์ต้นทุนก่อสร้างเสียก่อนว่าจะปรับลดลงหรือไม่ หลังจากปรับขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา โดยจะเป็นการลงทุนสำหรับไลน์การผลิตสินค้ากลุ่มซอสศรีราชามาโยเป็นไลน์แรก
- ทั้งนี้ปัจจุบันกำลังการผลิตเฉลี่ยของ XO ยังอยู่ในระดับ 60% ทำให้ยังมีความสามารถในการผลิตสินค้าได้อยู่ ทำให้การชะลอการก่อสร้างดังกล่าวไม่กระทบกับการผลิตแต่อย่างใด
ตลาดซอสพริกที่สหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดที่สูง เป็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายในอนาคต
สำหรับตลาดซอสพริกในสหรัฐฯ ที่ XO มองว่าเป็นตลาดสำคัญอีกแห่งนั้นในปี 21 มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 57% ของตลาดซอสพริกทั้งโลก (อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ใน Fortune Busniess Insights ฉบับเผยแพร่ในเดือน พ.ค. 22 โดยซอสพริกศรีราชาเป็น 1 ในสินค้าที่อยู่ในตลาดดังกล่าว) ทำให้การที่ XO ได้มีการเริ่มขายไปยังตลาดดังกล่าว (ก่อนหน้านี้ขายในกลุ่มอเมริกาใต้เป็นหลักสําหรับทวีปอเมริกา) จึงเป็นโอกาสดีในการเพิ่มรายได้ในอนาคตได้อย่างมาก
Revenue breakdown
โครงสร้างรายได้ของ XO แบ่งได้ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ซอสพริก 2.เครื่องปรุงแกงและประกอบอาหาร และ 3 อื่นๆ ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักเป็นทวีปยุโรป ทวีปออสเตรเลีย และเอเชีย ส่วนทวีปอื่นๆ ยังมีสัดส่วนรายได้ไม่มากนัก