Daily Focus : Domestic and Selective Play

2022SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าที่คาด ปิดบวกอีก 6.05 จุด ณ สิ้นวัน อย่างไรก็ตาม แรงหนุนมาจาก DELTA และ MAKRO ที่บวกแรกจากปัจจัยเฉพาะตัวจากการเก็งกําไรโอกาสเข้าคำนวณในดัชนีสำคัญ สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติต่างขายสุทธิในตลาดหุ้น 209 ลบ.และ 2.6 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติพลิกมา Short Index Futures ราว 1 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Up โดยมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,645-1,650 จุด กลุ่มพลังงานแม้จะเผชิญแรงกดดันหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง 4% จากความกังวลด้าน Demand ที่อาจชะลอจากจีน แต่คาดกลุ่มอื่น Anti-Commodity จะกลับมาฟื้นตัวดี รวมถึง Consumption Play จากแรงกดดันเงินเฟ้อในระยะถัดไปที่จะลดลง ปัจจัยดังกล่าวทำให้ Dollar Index และ Bond Yield สหรัฐฯ ปรับลง เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่จะเห็น OPEC+ มีการปรับระดับการผลิตในระยะถัดไป ซึ่งยังเป็นตัวจำกัด Downside ของราคาน้ำมันดิบ ปัจจัยสำคัญวันนี้ต้องติดตาม ECB ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาดหรือไม่ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอและวิกฤตราคาพลังงานที่สูง เรายังแนะนำให้ลงทุนในกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ที่ Valuation ไม่สูงเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตก่อน COVID-19 โดยจังหวะพักตัวของดัชนีเรามองกรอบ 1,600+- จุด เรามองเป็นจังหวะสะสมหุ้นกลับ

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Value Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,580-1,600+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : CPN, KTB, M, PRM, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : TFG

  • แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท
  • แนวโน้มกำไร 3Q22 คาดยังโตทั้ง Q-Q และ Y-Y หนุนจาก High Season ของการส่งออก และราคาเนื้อสัตว์ที่ยังสูง รวมถึงผลบวกจากการขยายสาขา Shop ทั้งรายได้และ Margin
  • เราคาดกำไรปี 2022 โตแรง +7.5 เท่าตัว Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน ส่วนปี 2023 เรายังคาด Conservative โดยชะลอลง -17% Y-Y แต่ยังเป็นระดับที่สูงกว่าปีที่ดีในอดีตถึง 50% ราคาหุ้นเทรด 2023PER เพียง 12 เท่า
  • แนวรับ 6.70-6.75 บาท แนวต้าน 7//7.20 บาท

Fund Flow : กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$1,033 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$598 ล้าน และ US$391 ล้าน ตามลำดับ ถูกกดดันด้วย Dollar Index และ Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม บรรยากาศเช้านี้ผ่อนคลายขึ้นหลัง Dollar กลับมาอ่อนค่าและราคาน้ำมันดิบลงแรง แนวโน้มของกระแสเงินทุนมีโอกาสพลิกกลับมาไหลเข้า

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) จับตาประชุม ECB วันนี้ ล่าสุดตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ขึ้นเป็น 1.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ทำ New High ล่าสุดเดือน ส.ค. +9.1% Y-Y อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายการเงินของ ECB ถือว่าไม่ง่ายเนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนบางส่วน รวมถึงวิกฤตราคาพลังงานแพง เราประเมินยังเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงให้ยังมีโอกาสพักตัว ยังมองหุ้นเอเชียโดยเฉพาะอาเซียนแข็งแกร่งกว่า เรายังชอบ Domestic และ Reopening Play มากกว่า Global Play

(+) Apple เปิดตัว iPhone 14 และขยับไทยเป็น Tier 1 เปิดให้ Pre Order 9 ก.ย. นี้ และวางขาย 16 ก.ย. ถือว่า Surprise ตลาดและเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มขายสินค้า IT หากดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นช่วงเปิดตัว iPhone ใหม่ 2 ปีล่าสุดจะเห็นทิศทางไม่ชัด เนื่องจากมีผลกระทบจาก COVID-19 แต่หากอิงปี 2019 พบว่าราคาหุ้น COM7 และ SPVI ปรับตัวขึ้นดีเฉลี่ย +3% และ +18% หลังผ่านไป 1 สัปดาห์ และ 1 เดือน ตามลำดับ ส่วน SYNEX ปรับตัวลงแต่เป็นเหตุผลเฉพาะตัวจาก Huawei ที่ถูกแบน เราแนะนำ “ซื้อ” COM7 (ราคาเป้าหมาย 40 บาท) SYNEX (ราคาเป้าหมาย 24 บาท) และ SPVI (อยู่ระหว่างปรับเพิ่ม ราคาเป้าหมายขึ้น)

(+) CPALL เรามีมุมมองเชิงบวกระยะยาวทั้งธุรกิจ 7-11 รวมถึง Synergy ในอนาคตระหว่าง MAKRO-Lotus’s ปัจจัยหนุนการเติบโตยังคงมาจากการขยายสาขา การเพิ่มสัดส่วนสินค้า Margin สูง และ Synergy ภายใน Value Chain ที่ครอบคลุมทั้ง B2C B2B และ HoReCa ระยะสั้นแม้กำไร 3Q22 อาจมีแนวโน้มไม่น่าตื่นเต้น ทั้งจากปัจจัยฤดูกาลและการซื้อคืนหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์เป็นหุ้นกู้ปกติ แต่จะเร่งขึ้นใน 4Q22 ซึ่งเป็น High Season และได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวที่กลับมา ประมาณการกำไรของ FSSIA คาดปี 2022 +47% Y-Y และ +30% Y Y ในปี 2023 สูงกว่า IAA Consensus 17% และ 9% ตามลำดับ ราคาเป้าหมายของ FSSIA อยู่ที่ 82 บาท ส่วน IAA Consensus อยู่ที่ 73.65 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) ZEN คาดกำไร 3Q22 ทรงตัวได้ Q-Q สวนทางฤดูกาล และพลิกจากขาดทุนในปีก่อน ซึ่งมี Lockdown โดย Traffic ฟื้นตัวดีตามการ Reopening และคาดกำไรจะเร่งขึ้นทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q22 รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้ค้าปลีกมากขึ้นจาก King Marine และ ZKC ผู้บริหารยังตั้งเป้ารายได้ปี 2022 กลับมาสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 และปัจจุบันแรงกดดันด้านต้นทุนเริ่มผ่อนคลาย โดยเฉพาะราคาแซลมอน ส่วนกรณีปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคาดกระทบจํากัด เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรโดยปี 2022 จะพลิกกำไรก่อนเร่งตัว +27% Y-Y ในปี 2023 และสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2023 เป็น 15 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”

(+) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 31,581.28 จุด เพิ่มขึ้น 435.98 จุด หรือ +1.40% จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง หนุนหุ้นในกลุ่มเติบโต (Growth Stock)

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB คาดปรับเพิ่ม 0.75%

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับบวก โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ (+) ค่าเงินบาทแข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 36.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 4.94 ดอลลาร์ หรือ -5.7% ปิดที่ 81.94 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ และแนวโน้มการปรับขึ้น ดอกเบี้ยของ ECB ในการประชุมวันนี้

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 14.9 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,727.8 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 971.05 / –

- Advertisement -