บล.ฟิลลิป:
ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ – BEM 2M3Q65 ฟื้นตัวโดดเด่น
Key Point
ปีแห่งการฟื้นตัวจากโควิด-19 จากผู้ใช้บริการทางด่วนและรถไฟฟ้าที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งได้รับปัจจัยสนับสนุนทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา, โครงการอสังหาริมทรัพย์กลับมาก่อสร้าง และการเปิดศูนย์สิริกิติ์หลังปิดปรับปรุงไปกว่า 3 ปีกว่า รวมถึงชนะประมูลอย่างไม่เป็นทางการของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าให้กับ BEM คงราคาพื้นฐาน 9.90 บาท ไว้ก่อน ยังแนะนำ “ซื้อ”
แนวโน้ม 3Q65 ฟื้นตัว q-q และโดดเด่น y-y
ข้อมูลเดือน ส.ค. ผู้ใช้บริการเฉลี่ย/วัน ฟื้นตัวโดดเด่น ทางด่วน +4.1% m-m และ +81.7% y-y เป็น 1.08 ล้านคัน แต่หากดูยอดรวมทั้งเดือน +11.2% m-m เพราะเดือน ก.ค. มีวันหยุดที่ไม่ได้เก็บค่าผ่านทางตามประกาศของรัฐบาล 3 วัน แต่ในเดือน ส.ค. มี 1 วัน และรายได้เฉลี่ย/วัน +4.9% m-m และ +91.7% y-y รายได้ y-y ที่โตดีกว่าปริมาณรถ เพราะทางด่วนกรุงเทพฯ-วงแหวนรอบนอกฯ (SOE) มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางเมื่อ 15 ธ.ค. 64 และยกเลิกส่วนลด 10 บาทที่ด่านเมืองทองตั้งแต่ ม.ค. 65 ส่วนรถไฟฟ้า +16.6% m-m และ +413.1% y-y ที่ 3.20 แสนคน/วัน ซึ่งถือเป็นเดือนแรกที่เกิน 3 แสนคนนับตั้งแต่ พ.ย. 63 ในเดือน ก.ย. คาดจะยังเห็นการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการกลับมาเปิดศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในวันที่ 12 ก.ย. 65 ส่วนใน 4Q65 มีตารางการจัดงานที่ศูนย์สิริกิติ์ไม่น้อยกว่า 15 งาน ซึ่งมีงานใหญ่คือการประชุมเอเปคในวันที่ 18-19 พ.ย. รวมไปถึงเป็น High season ของการท่องเที่ยวซึ่งจะหนุนการเดินทางทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าเช่นกัน ทำให้ 4Q65 แนวโน้มดีต่อเนื่อง
ทั้งปี 2565 คาดฟื้นตัวแรงและต่อเนื่องไปปี 2566
จากการฟื้นตัวของผู้ใช้บริการทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าที่มีนัยสำคัญทำให้ผลการดำเนินงานกลับมาดีขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 2,335 ล้านบาท เทียบปีก่อนที่มีกำไร 1,010 ล้านบาท โดยรอประกาศอย่างเป็นทางการในการชนะประมูลสายสีส้ม หลังมีเอกสารจาก รฟม. ว่า BEM ขอรับเงินสนับสนุนน้อยกว่ากลุ่ม ITD ส่วนในปี 2566 จะเห็นการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เพราะในปี 2565 ยังมีผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงครึ่งปีแรก, การกลับมาเปิดเรียนและทำงานเป็นปกติ, นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น, ปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าอีก 1 บาท คือ สถานีที่ 6, 9, 11 และ 12, การเปิดใช้รถไฟฟ้าอีก 2 สาย คือสายสีเหลืองและสายสีชมพู และการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาก่อสร้างทั้งที่พักอาศัยและโครงการขนาดใหญ่ที่จะเปิดในปี 2566 ทางฝ่ายจะปรับราคาพื้นฐานขึ้นเพื่อ สะท้อนการประมูลสายสีส้ม ซึ่งน่ามีความชัดเจนในเรื่องประมาณการและผลตอบแทนที่ให้กับ รฟม. ในช่วง 4Q65 ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 2565 ที่ 9.90 บาท
