SET เน้นตั้งรับ 1627-1644 // CPI สูงกว่าตลาดคาด กดดันเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรง

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,661.09 จุด ลดลง 4.65 จุด (-0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 67,292.24 ล้านบาท มีแรงขาย รอติตดามการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค.ของสหรัฐคืนนี้

แนวโน้มตลาดวันนี้…คาดตลาดปรับฐานตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังตัวเลข CPI สหรัฐฯส.ค. ขยายตัว 8.3% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาด แต่น้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ขยายตัวกว่า 8.5% YoY ทำให้ตลาดกลับมากังวลเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุม FOMC ในวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ หลัง FedWatch Tool ระบุว่าตลาดให้น้ำหนัก 62% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% และน้ำหนัก 38% ที่จะปรับขึ้น 1.00% สะท้อนเฟดจะยังคงนโยบายในเชิง Hawkish ต่อ จึงทำให้นักลงทุนกังวลถึงภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจที่อาจตามมา และแผนการทำ QT ท่ามกลางการเกิด Inverted yield curve ของ US bond yield อายุ 2 และ 10 ปี ขณะที่ Dollar index อยู่ในโซนแข็งค่า กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง น้ำมัน และทองคำ

เราแนะนำตั้งรับในกลุ่ม Defensive เราชอบ ADVANC PRINC CHG BDMS BH GULF GPSC ด้านกนง.ไทย จำเป็นจะต้องรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มอิงทางขึ้นด้วยเช่นกัน  จึงเป็นประโยชน์กับหุ้นในกลุ่มธนาคาร เช่น KBANK BBL TLI BLA รวมถึงค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง เราชอบ ASIAN CFRESH CH ICHI BRR KSL (หลีกเลี่ยงกลุ่ม Semiconductor Sector เช่น DELTA HANA KCE SMT)

ขณะที่การประชุมครม.เมื่อวานนี้ ได้ออกนโยบายไฟเขียวมาตรการช่วยค่าไฟ 4 เดือน ลดสูงสุด 75%, ขยายเวลาปรับลดน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน และมีมติเห็นชอบปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 328-354 บาท มีผล 1 ต.ค. เป็นต้นไป หนุนกลุ่ม Domestic play

ในเชิงกลยุทธ์ ก่อนหน้านี้เราได้แนะนำ หากดัชนีปรับตัวขึ้น มองเป็นโอกาสที่จะทยอยลดพอร์ทขายทำกำไร ส่วนใน วันนี้ดัชนีมีความเสี่ยงที่จะปรับฐาน จากความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อในประเทศที่ยังทรงตัวสูง, แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง., Valuation ปัจจุบันของ SET ที่เริ่มแพง (PE ปัจจุบันสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) และปัจจัยทางการเมือง แนะนำตั้งรับที่ 1644-1627

ติดตาม PPI ส.ค. สหรัฐ (14 ก.ย.) และ CPI ส.ค. EU (16 ก.ย.)

ปัจจัยในประเทศ ศาลรธน.วินิจฉัย ปมวาระ 8 ปีของ พล.อ. ประยุทธ์ (14 ก.ย.), การประชุม กสทช. เรื่องการควบรวม TRUE-DTAC

เคาะไป คุยไป PRINC

Investment Highlights

  • PRINC คงเป้ารายได้ปีนี้ขยายตัว 20-25% หรือราว 6 พันล้านบาม จากความการร่วมมือกับภาครัฐดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ยังส่งผลให้จำนวนผู้มาใช้บริการทางการแพทย์ ประเภท Non Covid-19 ยังพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง และยังมีปัจจัยหนุนนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ทั้งธุรกิจโรงพยาบาล และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตสูงมาก ขณะเดียวกันในปี 65 รับผลดีจากการรับรู้รายได้การเปิดดำเนินงานโรงพยาบาลอีก 2 แห่งในปีที่ผ่านมา คือ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ, โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน รวมทั้งการเข้าลงทุนในธุรกิจเสริมความงาม ผิวดีคลินิก รวมถึงมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลอีกอย่างน้อย 2-3 แห่งในปีนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา มีทั้งรูปแบบ Greenfield และการซื้อกิจการ ในเชิง Valuation ซื้อขายปัจจุบันบน PE ที่ 28.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเล็กน้อย ขณะที่ Market Cap. ต่อเตียงปัจจุบันอยู่ที่ 23.5 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มเนื่องจาก PRINC อยู่ในระหว่างการลงทุนขยายจำนวนเตียง โดยตั้งเป้าภายในปี 2567 จะขยายโรงพยาบาลเพิ่มอีก 7 แห่ง แห่งละอย่างน้อย 59-100 เตียง เมื่อครบตามเป้า 20 แห่งจะส่งผลให้มีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 1,210 เตียง เป็น 2,000-2,500 เตียง รวมถึงรับประเด็นบวกจากการแก้ไขปัญหาด้านฟรีโฟลทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Investment Strategy

Source : Aspen

แนะนำ “เคาะ” ระยะสั้นแท่งเทียนแกว่งตัวสร้างฐานราคาสำคัญ 7.10 อย่างมีนัยสำคัญของรูปแบบการแกว่งตัวออกด้านข้าง ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำ และแท่งเทียนสีขาวยาวมีโอกาสทดสอบ ผ่านแนวต้าน 7.60 ยืนเหนือมั่นคงเป็นสัญญาณซื้อเปลี่ยนtrend แนวต้านจุดทดสอบ 8.50/9.50

คําแนะนําของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน/แนวต้าน 7.60/8.50 มีโอกาสทดสอบ

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 7.10-7.00 ไม่ควรต่ำกว่า

กระแสข่าวหุ้น

ประเด็น

จับตาประชุมกสทช.วันนี้ เก็งกำไร TRUE-DTAC สนั่น ลือกระฉ่อน “กฤษฎีกา” ตีตกอำนาจกสทช.

แห่เก็งกำไร TRUE-DTAC สนั่นดันราคาพุ่งเกิน 2% หลังลือกระฉ่อนกฤษฎีกาชุด “มีชัย ฤชุพันธุ์” เคาะกสทช. ไม่มีอำนาจอนุญาตไม่อนุญาตควบรวมกิจการ พร้อมจับตา “บอร์ดกสทช.” ประชุมวันนี้พิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม ลุ้นลงมติควบรวม ฟากก้าวไกลจ่อฟ้องกสทช. ละเว้นใช้อำนาจ ยืมมือกฤษฎีกาดันเร่งปิดดีล

ALT แบ็กล็อก 3.3 พันล้าน ล้างขาดทุนสะสมหมดปีหน้า

“เอแอลที” โชว์แบ็กล็อกแน่น 3,361 ล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้ครึ่งปีหลัง 502 ล้านบาท พร้อมเล็งล้างขาดทุนสะสมกว่า 56.4 ล้านบาทหมดในปีหน้า นอกจากนี้เร่งเจรจาพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจจัดระเบียบสายสื่อสาร คาดสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้ ขณะธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปยังโตดีต่อเนื่อง

7 แบงก์เข้าร่วมตู้ SABUY บริการการเงินครบวงจร

SABUY โชว์ตู้เติมสบายพลัส เปิดบริการยืนยันตัวตน (E-KYC) กว่า 10,000 ตู้ที่มากที่สุดในประเทศไทย พร้อมบริการการเงินพื้นฐานครบ เติมเงิน ชำระบิล และฝากเงินเข้าบัญชี 7 ธนาคารชั้นนำ “SCB-KBANK ออมสิน-KTB-BAY-ธ.ก.ส.-ซีไอเอ็มบี” ให้บริการ 24 ชั่วโมง ตอบสนองความสะดวกสบาย และเข้าถึงบริการธุรกรรมการเงินได้ทั่วถึง

JWD อัดเงินลงทุน 80 ล้านบาท เปิด JWD STORE IT! ลาดพร้าว

JWD ถือฤกษ์ดี 9 เดือน 9 เปิดให้บริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า “JWD STORE IT! สาขาที่ 7 ที่ลาดพร้าว” พื้นที่ใหญ่ที่สุด 4,000 ตารางเมตร มูลค่าลงทุน 80 ล้านบาท ขึ้นแท่นผู้นำบริการห้องเก็บของพื้นที่เช่าสาขามากที่สุดในไทย วางแผนขยายสาขาใหม่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ CPN-สโตร์ อิท!ฯ ต่อเนื่อง

HUMAN ปักธง 5 ปี รายได้โต 20% ควบรวม Data On ผุดแพลตฟอร์ม workplaze

HUMAN วางเป้ารายได้ 5 ปีโตเฉลี่ยปีละ 20% หลังควบรวม DataOn มีบริการใหม่ เพิ่มความสามารถในการ แข่งขันระดับโลกได้มากขึ้น เผย 3 กลยุทธ์สำคัญ ทั้งขยายธุรกิจเดิม-M&A -ร่วมมือพันธมิตร ชูรวมจุดเด่น DataOn-HUMAN เข้าด้วยกันส่งแพลตฟอร์ม workplaze เป็นเรือธงหนุนโตระยะยาว พร้อมมั่นใจปีนี้รายได้โต 15-20%

WHAUP ขายไฟปีนี้ตามเป้า 700 MW เร่งเจรจาปิดดีลลงทุนพลังงานหมุนเวียนเร็วๆ นี้

WHAUP มั่นใจยอดขายน้ำ-ไฟฟ้าปีนี้ใกล้เคียงเป้าที่วางไว้ 150 ล้านลูกบาศก์เมตร และ 700 เมกะวัตต์ พร้อมเร่งเจรจาขยายลงทุนโครงการพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม คาดดีลชัดเจนเร็วๆ นี้ ขณะที่ไตรมาส 4/65 รับปัจจัยบวกค่า Ft ขยับขึ้น ลดผลกระทบต้นทุนก๊าซพุ่ง

PEACE ครึ่งหลังโตกว่าครึ่งแรก ตุนแบ็กล็อก 886 ล้าน เล็งเปิดบ้านเดี่ยว 700 ล้าน

“พีซแอนด์ลีฟวิ่ง” ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก หลังตุนแบ็กล็อก 886 ล้านบาท และมีสินค้าพร้อมขาย 910 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว 700 ล้านบาท ในช่วงปลาย ก.ย.นี้

XD Events

Source : SETSMART

GLOBAL MARKET

Source : NewsCenter

- Advertisement -