บล.กรุงศรีฯ:
CH. KARNCHANG (CK TB/ CK.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง |
หุ้น | CK |
มูลค่าพื้นฐาน | 27.50 |
คำแนะนำ | BUY |
CK จะได้อานิสงส์จากการที่ BEM ชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
รฟม. เปิดเผยว่า consortium ที่นำโดย BEM ยื่นขอเงินอุดหนุนจากรัฐเพียง 7.83 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าของกลุ่ม ITD ที่ยื่นขอ 1.02 แสนล้านบาทสำหรับงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยในขั้นตอนต่อไปจะต้องเสนอผลการประมูลให้คณะกรรมการ รฟม. พิจารณา ก่อนส่งต่อให้กระทรวงคมนาคมทบทวนผลการประมูลและนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ เราคาดว่าโครงการนี้จะประกาศผลอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้และเซ็นสัญญาได้ในช่วงต้นปีหน้า ทำให้เราคาดว่า CK จะได้งานและเริ่มก่อสร้างโครงการนี้ในปีหน้า
Backlog อาจทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2 แสนล้านบาทในปี 202
CK มี backlog รวมอยู่ที่ 5.97 หมื่นล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน เพิ่มขึ้นจาก 4.59 หมื่นล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม โดยยอด backlog ที่แข็งแกร่งมาจากโครงการรถไฟทางคู่มูลค่า 2.28 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้า รฟม. สายสีม่วงมูลค่า 1.81 หมื่นล้านบาท เราคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะทำให้ยอด backlog เพิ่มขึ้นประมาณ 4.70 หมื่นล้านบาท อิงจากสัดส่วนการถือหุ้น 60% ใน JV ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางมูลค่า 8 หมื่น-1 แสนล้านบาทน่าจะเซ็น PPA ได้ก่อนสิ้นปีนี้ ดังนั้น เราจึงคาดว่า backlog ของ CK น่าจะขยับขึ้นไปถึง 2 แสนล้านบาทในปี 2023 ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือ 7 พันล้านบาทและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปีละ 3-4 พันล้านบาท เพียงพอใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโตรงการใหม่
คงคำแนะนำซื้อ และปรับราคาเป้าหมายเป็น 27.50 บา
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY23F ขึ้นอีก 4% เป็น 2.75 พันล้านบาท หลังจากที่ปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี FY23F ขึ้นอีก 2.34 พันล้านบาทจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยอิงจากสมมติฐานดังนี้ (1) รับรู้รายได้ในรูปแบบ S-curve (2) รับรู้รายได้ 5% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดในปีแรก (3) ถือหุ้น 60% ใน JV เราจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 27.50 บาท จากเดิมที่ 23.80 บาท หลังจากที่รวมราคาเป้าหมายใหม่ของ BEM ที่ 11.50 บาท เข้ามาไว้ในประเมินมูลค่า โดยวิธี SoTP คงคำแนะนำซื้อ หนุนโดย (1) backlog มีคุณภาพดี (2) มีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มอีก และ (3) รายได้จากเงินปันผล และ equity income เพิ่มขึ้น