บล.กรุงศรีฯ: 

CH. KARNCHANG (CK TB/ CK.BK)

CK – ปีหน้าสดใส
กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
หุ้นCK
มูลค่าพื้นฐาน27.50
คำแนะนำBUY
รฟม. เปิดเผยว่า BEM เสนอราคาประมูลต่ำที่สุด โดยน่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ในช่วงต้นปีหน้า เราคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางจะทำให้ backlog เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ เรายังคงคำแนะนำซื้อ CK และประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 27.50 บาท หนุนโดย (1) backlog มีคุณภาพดี (2) มีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มอีก และ (3) รายได้จากเงินปันผล และ equity income เพิ่มขึ้น

CK จะได้อานิสงส์จากการที่ BEM ชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

รฟม. เปิดเผยว่า consortium ที่นำโดย BEM ยื่นขอเงินอุดหนุนจากรัฐเพียง 7.83 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าของกลุ่ม ITD ที่ยื่นขอ 1.02 แสนล้านบาทสำหรับงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยในขั้นตอนต่อไปจะต้องเสนอผลการประมูลให้คณะกรรมการ รฟม. พิจารณา ก่อนส่งต่อให้กระทรวงคมนาคมทบทวนผลการประมูลและนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ เราคาดว่าโครงการนี้จะประกาศผลอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้และเซ็นสัญญาได้ในช่วงต้นปีหน้า ทำให้เราคาดว่า CK จะได้งานและเริ่มก่อสร้างโครงการนี้ในปีหน้า

Backlog อาจทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2 แสนล้านบาทในปี 202

CK มี backlog รวมอยู่ที่ 5.97 หมื่นล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน เพิ่มขึ้นจาก 4.59 หมื่นล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม โดยยอด backlog ที่แข็งแกร่งมาจากโครงการรถไฟทางคู่มูลค่า 2.28 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้า รฟม. สายสีม่วงมูลค่า 1.81 หมื่นล้านบาท เราคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะทำให้ยอด backlog เพิ่มขึ้นประมาณ 4.70 หมื่นล้านบาท อิงจากสัดส่วนการถือหุ้น 60% ใน JV ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางมูลค่า 8 หมื่น-1 แสนล้านบาทน่าจะเซ็น PPA ได้ก่อนสิ้นปีนี้ ดังนั้น เราจึงคาดว่า backlog ของ CK น่าจะขยับขึ้นไปถึง 2 แสนล้านบาทในปี 2023 ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือ 7 พันล้านบาทและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปีละ 3-4 พันล้านบาท เพียงพอใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโตรงการใหม่

คงคำแนะนำซื้อ และปรับราคาเป้าหมายเป็น 27.50 บา

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY23F ขึ้นอีก 4% เป็น 2.75 พันล้านบาท หลังจากที่ปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี FY23F ขึ้นอีก 2.34 พันล้านบาทจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยอิงจากสมมติฐานดังนี้ (1) รับรู้รายได้ในรูปแบบ S-curve (2) รับรู้รายได้ 5% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดในปีแรก (3) ถือหุ้น 60% ใน JV เราจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 27.50 บาท จากเดิมที่ 23.80 บาท หลังจากที่รวมราคาเป้าหมายใหม่ของ BEM ที่ 11.50 บาท เข้ามาไว้ในประเมินมูลค่า โดยวิธี SoTP คงคำแนะนำซื้อ หนุนโดย (1) backlog มีคุณภาพดี (2) มีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มอีก และ (3) รายได้จากเงินปันผล และ equity income เพิ่มขึ้น

- Advertisement -