บล.บัวหลวง: 

United Paper (UTP TB/UTP.BK)

UTP – ครึ่งหลังยังเหนื่อย

จากงาน Opportunity day วานนี้ ผู้บริหารคอนเฟิร์มมุมมองที่เราได้เคยเดือนนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้ม 3Q22 ที่คาดอ่อนตัวลง จากปริมาณขายลดลงอย่างมีนัยฯ จากแนวโน้มราคาขายที่จะปรับลงตามต้นทุนเศษกระดาษที่ดฮวบ ทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อบางส่วนไป ประกอบกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้าน อุปสงค์ลูกค้าบางกลุ่มสะดุดจากจีนล็อคดาวน์ และต้นทุนถ่านหินยังไม่ยอมลงเร็วๆ นี้ ดังนั้น จึงคงคำแนะนำถือ รับเงินปันผล 4-5% ต่อปี

ยอดขายสะดุดหนักใน 3Q22 จากการชะลอสั่งซื้อ

เราคาดกําไร 3Q22 เพียงทรงตัว YoY แต่ลดลงราว 20-25% QoQ ใน 3Q22 เกิดจากปริมาณขายเฉลี่ยจะอยู่ราว 1.8-1.9 หมื่นตัน/เดือน ลดลงราว 10-15% YOY และ QoQ (และต่ำกว่าระดับสูงสุดราว 2.3 หมื่นตัน/เดือน ที่ราว 20%) ส่วนหนิ่งเกิดจากปัจจัยฤดูกาล ฤดูฝน) แต่สิ่งสำคัญเกิดจากแนวโน้มราคาเศษกระดาษที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว นำโดยเศษกระดาษนําเข้าจากต่างประเทศ ปัจจุบันเหลือ 150 เหรียญฯ/ตัน (ลดลงราว 40-50% จาก 2Q22) จากอุปทานเศษกระดาษในยุโรปเหลือออกมาตลาดเพิ่มขึ้น เพราะโรงงานหยุดการผลิตมากขึ้น หลังต้นทุนพลังงานพุ่ง ราคาในประเทศจึงลดลงตามราว 30% เหลือ 6.2 บาท/กก. เมื่อเห็นแบบนี้ ผู้ซื้อจึงชะลอการสั่งซื้อเพื่อรอการปรับราคาขายลงตาม ประกอบกับมีการแข่งขันเพิ่มเติมจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย อย่างไรก็ตาม ใน 3Q22 UTP ยังขายราคาเฉลี่ยอยู่ราว 20 บาท/กก. (ปรับลงน้อยเมื่อเทียบต้นทุน) จึงคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้น (GM) ใน 3Q22 จะยังคงสูงอยู่

… 4Q22 คาดปริมาณขายเพิ่ม แต่แลกกับการปรับราคาขายลง

แต่เมื่อเข้าสู่ 4Q22 คาดว่าปริมาณยายจะกลับมาสูงระบ 2.0-2.1 หมื่นตัน/เดือน อีกครั้ง ตามปัจจัยฤดูกาล บวกกับการปรับลดราคาลงตามตลาดและการแข่งขัน ซึ่งเราคาดว่าอาจจะต้องมีการกระตุ้นยอดขายดึงลูกค้ากลับมาด้วย อีกทั้งคาดถ่านหินยังราคาสูง (และล็อตที่ซื้อล่าสุดใช้ไปถึง ต.ค. ก็ราคาลดลงจากเดิมน้อย) ทำให้ GM จะปรับตัวลดลงชดเชยกันไป เบื้องต้นคาดจะรักษากําไรใกล้เคียงกับ 3Q22 (ทรงตัว QoQ) แต่ในมุม YoY กําไรกลับมาเติบโตระดับ 10-15% อีกครั้งจากฐานต่ำ นอกจากนี้ UTP จะทดสอบระบบเครื่องจักรใหม่ (เพิ่มกำลังผลิต 8-10%) ช่วง 4Q22 และใช้งานต้นปี 2023

ช่วงประคองตัว เพื่อรอโอกาสใหม่

เราคงประมาณการกำไรปี 2022 ที่ 969 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% YoY จากรายได้เพิ่มขึ้นสู่ 5.27 พันล้านบาท (ไกล้เคียงเป้าหมายบริษัท) ส่วนในปี 2023 เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6% YoY ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก การกำลังการผลิตใหม่ และปริมาณขายกลับสู่ปกติ แต่คาดราคาขายลดลงตามการแข่งขันและราคาเศษกระดาษ ซึ่งจะกลบกับผลของต้นทุนเศษกระดาษและถ่านหินที่อ่อนตัวลง จึงประเมินว่า GM ทรงตัวราว 20-22%

ยืนยันเป็นหุ้นที่เหมาะกับการถือรับปันผล ราคาไม่น่าหวือหวาช่วงนี้

เรายังคงมองว่าการที่ราคาหุ้นกลับมาแรลลี่ได้อีกครั้ง ต้องมีปัจจัยบวกใหม่สร้างแรงหนุนได้มากเข้ามาก่อน อาจจะเกิดจากสัญญาณราคาขายกลับเป็นขาขึ้น เช่น ตลาดยุโรปกลับมาดี (พยุงราคาเศษกระดาษ) และจีนเปิดเมือง แล้วต้องมี pent-up demand ทะลักออกมาด้วย หรือต้นทุนถ่านหินลดลงในระดับแรงมาก (ยังไม่เห็นสัญญารดังกล่าว) เป็นต้น ดังนั้น เรายังแนะนำถือ (ราคาเป้าหมาย 18.6 บาท อิง PER 12.5 เท่า) รับปันผลราว 0.75-0.8 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Div. yields ที่ 4-5% ต่อปี

 

- Advertisement -