Our View? “ในวันที่ความหวังหายไป”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,630 / 1,625 และแนวต้านที่บริเวณ 1,650 / 1,655 เราคาดทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงยังคงเผชิญความกังวลจากแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง หลังจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่ World Bank ออกรายงานเตือนเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก โดยคาดว่าธนาคารกลางต่างๆ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกราว 2.0% เพื่อกดเงินเฟ้อให้ลดลงซึ่งจะส่งผลให้ GDP ของโลกลดลงราว 0.5% ในปีหน้า โดยล่าสุดตลาดยังคงให้น้ำหนักในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่ 0.75% ในเดือน ก.ย. มากกว่า 70.0% ขณะที่จุดสูงสุดของดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 4.25-4.50% ตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้-ปีหน้า ขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) ยังคงเร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง คาดจะเป็นปัจจัยกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง แต่เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มประกัน (BLA และ TLI)

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ต.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลง -3.38 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 85.10 ดอลลาร์/บาร์เรล (-3.82%) โดยได้รับแรงกดดันจากทิศทางดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น รวมทั้งความกังวลอุปสงค์น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มลดลงตามความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก จากการคุมเข้มนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางต่างๆ คาดยังเป็นปัจจัยหลักกดดันทิศทางราคาน้ำมันปรับตัวลงได้ต่อในระยะกลางในด้านอุปสงค์อ่อนแอ มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC และ GULF) ตามทิศทางราคาพลังงานซึ่งเป็นต้นทุนมีโอกาสลดลงต่อเนื่องในระยะถัดไป

ในส่วนของปัจจัยในประเทศ เรามีความกังวลต่อทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติจะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังเริ่มเห็นการกลับฝั่งสถานะใน SET50 Index Futures โดยล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ในฝั่ง Short ไปกว่า 3.07 หมื่นสัญญา  คาดจะกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงได้ต่อ สอดคล้องกับมุมมองเดิมก่อนหน้าของเราว่าตลาดหุ้นไทยที่อยู่เหนือระดับ 1,640 จุด ซึ่งถือเป็นโซนที่ Valuation ของตลาดในปัจจุบันจะเริ่มตึงตัวมากขึ้น โดย Forward PE เริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 16 เท่า อยู่ในระดับ -0.5 S.D. ในปีนี้ คาดจะกดดันทิศทางตลาดได้

อีกทั้งวันนี้ยังต้องติดตาม FTSE Rebalance ปรับน้ำหนักดัชนีคาดหุ้นไทยจะถูกลดน้ำหนักการลงทุนลง อาจส่งผลให้หุ้นในกลุ่ม Big Cap. ผันผวนอิงทางลงกดดันตลาดได้ อย่างไรก็ดี ยังยังชอบหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ BBL) ตามทิศทางแนวโน้มดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้–ช่วงปีหน้า มองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมเมื่อตลาดอ่อนตัว

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “KBANK”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 147.00 / 146.00 Target 152.00 / 160.00 Stop <145.00

- Advertisement -