บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

BERLI JUCKER 2Q64 แนวโน้มกำไรโตรายปี ..

What’s new?

  • ธุรกิจ Non-Retail ยังมีโอกาสเติบโต ทั้งจากธุรกิจอุปโภคบริโภคและธุรกิจเวชภัณฑ์ และทางเทคนิคแนวโน้ม ยอดขายเพิ่มจากการจำหน่ายเครื่องตรวจ COVID-19

  • 4Q64 คาดหวังเห็นการฟื้นตัวของแรงซื้อจากจำนวนผู้ฉีดวัคซีนทำได้เร็วมากขึ้น และจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง

Our view

  • 2Q64 คาดกำไรปกติ 926 พันล้านบาท (+ 13%YoY, -3%QoQ) กำไรดี YoY จากมาร์จิ้น และรายได้ค่าเช่า

  • SSSG ยังติดลบ 12-13% ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังคงกดดันแรงซื้อ

  • ปัจจัยเสี่ยงจำนวนผู้ติดเชื้อยังสูง/วัคซีนมีความล่าช้า/ นโยบายภาครัฐที่คุมเข้มจำกัดสินค้าที่ขาย

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside): 24.2%

Close Jul 29, 2021- Price: (THB) 35.00

12M Target (THB): 43.50

2Q64 คาดกำไรปกติโตราว 13% YoY

เราคาด BJC จะมีกำไรปกติ 926 ล้านบาท (+13% YoY,-3%QoQ) ปรับดีขึ้นรายปี (YoY) ส่วนหนึ่งจากรายได้อื่นๆ ที่ 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%YoY ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้ค่าเช่าที่ทำได้ดีกว่า เนื่องจากการให้ส่วนลดที่ น้อยกว่า เนื่องจากใน 2Q63 มีระยะเวลาในการล๊อกดาวน์ 1.5 เดือน ซึ่งใช้ระยะเวลาที่ยาวนานกว่าและครอบคลุมทั่วประเทศ และจากระดับมาร์จิ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 20 Bps อยู่ท่ี 18.6% จาก 18.4%(2Q64) ขณะที่มีรายได้ 3.4 หมื่นล้านบาท (- 5%YoY,+5%QoQ) รายได้ลดลงเมื่อเทียบกับรายปี เนื่องจากมีแรงกดดันจาก ธุรกิจ Retail เป็นหลัก สอดคล้องกับ SSSG ท่ียังติดลบ ขณะที่ผลประกอบการโดยรวมลดลงรายไตรมาส (QoQ) สาเหตุจากระดับมาร์จิ้นปรับลด เนื่องจากบริษัทมีการเพิ่มโปรโมชั่นกระตุ้นยอดยอดขายในธุรกิจ Retail เพิ่ม

ธุรกิจ Non-Retail ยังไปได้ดี

เราคาดผลกระทบจาก COVID-19 มีผลกระทบต่อกำลัง ซื้อ โดยเฉพาะในธุรกิจ Retail ที่คาดมีผลต่อ SSSG ที่ยังไม่เติบโต SSSG ใน 2Q64 ยังเป็นลบระดับ 12-15%YoY อย่างไรก็ดี ในธุรกิจของ BJC ในส่วนของ Non-Retail ยังทำได้ดีทั้งจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ที่คาดเติบโตจากคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าแก้ว ธุรกิจอุปโภคบริโภค ยังเห็นการเติบโตในสินค้ากระดาษทิชชูและสบู่ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความจำเป็น รวมถึงธุรกิจเวชภัณฑ์และทางเทคนิคมีสินค้าที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดยังสามารถทำยอดขายได้ต่อเนื่อง โดยรวมของธุรกิจ Non-Retail คาดเห็นการเติบโตโดยเฉลี่ยราว 12-15% เมื่อเทียบกับรายไตรมาส (1Q64) ทั้งนี้ใน 3Q64 ผลกระทบยังมี ความต่อเนื่องจาก COVID-19 รวมถึงการปิดล๊อกดาวน์ ส่งผลต่อการจำกัดสินค้าที่ขายโดยเฉพาะ ในธุรกิจ Retail ในส่วนของ Non-Food ขณะที่ธุรกิจ Food อาจมีกำลังซื้อเพิ่มสำหรับธุรกิจเวชภัณฑ์ และทางเทคนิคแนวโน้มยอดขายเติบโตจากการเป็นผู้จำหน่ายเครื่องตรวจ COVID-19 ผ่านร้านยา PURE 144 แห่งซึ่บริษัทแจงมียอดจองดี เริ่มส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ในเดือนส.ค. แนะนำ “ซื้อ” ลงทุนระยะยาว

เรามอง ระยะสั้น -กลาง ผลกระทบจากการแพร่รบาดของ COVID-19 ยังคงกดดันกำลังซื้อ อย่างไรก็ดี จากธุรกิจของ BJC ที่ยังคงเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานที่ยังคงมีความจำเป็นในการบริโภค ยังคงช่วยหนุนกำลังซื้อ โดยสถานการณ์ผู้ติดเชื้ออาจมีผลต่อกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นบางช่วง โดยเฉพาะสินค้าอาหารสดและอาหารแห้ง จากความกังวลของผู้บริโภคต่อมาตการภาครัฐทำให้เกิด Panic Buying ขณะที่ BIGC เป็นทางเลือกทดแทนจากช่องทางการจำหน่ายจากตลาดที่มีการปิดไปในบางแห่ง โดยมีประเด็นติดตามคือ การเข้ามาของวัคซีนและจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเพิ่ม และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันซึ่งอาจมีผลต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ราคาเหมาะสมปี 2564 อยู่ที่ 43.50 บาท (DCF, WACC 5.4%)

- Advertisement -