บล.ฟินันเซีย ไซรัส:

GLOCON (GLOCON TB) บมจ. โกลบอล คอนซูเมอร์

2Q21 คือจุดเริ่มต้นของการ Turnaround

เราเริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ GLOCON ด้วยราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 1.5 บาท (อิง PE25 เท่า, คิดเป็น PEG 0.4 เท่า) ภายใต้ธีม Turnaround หลังจากปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นและโครงสร้างการบริหารแล้วเสร็จ ทำให้มีแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น โดยคาดปี 2021 จะพลิกมีกำไรครั้งแรกในรอบ 9 ปี และคาดจะเติบโตเร่งตัวขึ้นราว 3 เท่าตัวในปี 2022 มาจากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจอาหารมากขึ้น โดยสินค้าหลัก เช่น อาหารแช่แข็ง พร้อมทาน EZYGO และผลไม้อบแห้งส่งออก ซึ่งมีความต้องการสูงขึ้นมากตั้งแต่ต้นปี 2021 ท่ีผ่านมา เช่นเดียวกับรายได้บรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับใส่อาหารก็เติบโตได้ดีในช่วงที่ Delivery ขายดี ระยะสั้นคาด 2Q21 จะมีผลการดำเนินงานพลิกมีกำไรและถือเป็นจุดเร่ิมต้นของกำไรขาขึ้น เราคาดกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะโตเฉลี่ย 64% CAGR และมีแผนล้างขาดทุนสะสมเพื่อกลับมาจ่ายปันผลอีกครังในปี 2022

ผันตัวเป็นผู้ผลิตอาหารควบคู่กับผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร

บริษัทได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจอาหารในปี 2015 ควบคู่ไปกับธุรกิจเดิมอย่างบรรจุภัณฑ์พลาสติกได้แก่ Flexible Packaging, ขวด PET และการขึ้นรูปแบบ Vacuum เช่น ถาดอาหาร ในขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีหลายธุรกิจอาหารได้แก่ การผลิตและจำหน่ายอาการแช่แข็งพร้อมทาน (แบรนด์ EZYGO), อาหารทะแลแช่แข็ง, ผลไม้อบแห้งและร้านอาหาร A&W และ Kitchen Plus สิ้น 1Q21 มีสัดส่วนรายได้อาหารและบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ 62.7%:36.5% เพิ่มขึ้นจาก 42.5%:55.6% ในปี 2016 เราชอบจุดแข็งจากการมีสินค้าหลักอยู่ในกลุ่มอาหารเป็นสินค้าจำเป็น และขายดีกอปรกับมีช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ลูกค้าบรรจุภัณฑ์คือกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนลูกค้าอาหารคือ Modern Trade ทั้งในประเทศและต่างประเทศเช่น 7-11 MAKRO Lotus’s MK OISHI เป็นต้น

เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ปรับโครงสร้างเสร็จ เริ่มมีกลยุทธ์แผนงานชัดเจนขึ้น

ในช่วงปี 2018-20 ได้มีเปลี่ยนชื่อจาก NPP เป็น NPPG และล่าสุดเปลี่ยนเป็น GLOCON รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ ปัจจุบันคือบมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง นำทีมบริหารโดยคุณหลุยส์ เตชะอุบล ซึ่งได้มีกลยุทธ์และแผนการเติบโตในช่วง 5 ปีข้างหน้าชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น ตั้งเป้ารายได้ 2021 เติบโต 37% จากการเติบโตของธุรกิจอาหารทั้ง RTE&Frozen Foods และผลไม้แช่แข็งเป็นหลัก 58% Y-Y โดยมีแผนออกสินค้าใหม่และขยายตลาดใหม่เช่น Plant Based Food และสินค้ากัญชงด้วย ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ตั้งเป้าโต 16.7%Y-Y และตั้งเป้ารายได้ปี 2022-2027 จะเติบโตต่อเนื่องปีละ 30% ถือว่า Aggressive พอควร

คาด 2Q21 พลิกมีกำไรและมองเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มกำไรขาขึ้น

ระยะสั้นคาด 2Q21 พลิกมีกำไรราว 10 ลบ. จากขาดทุน -7 ลบ.ใน 1Q21 และ -9.7 ลบ.ใน 2Q20 ถือเป็นการพลิกมีกำไรรายไตรมาสเป็นตัวเลขสองหลักได้ครั้งแรกในรอบ ปีนับตั้งแต่ 3Q12 โดยหลักมาจากการฟื้นตัวของรายได้ส่วนหน่ึง มองว่าได้อานิสงส์จาก Work/Study from home รวมถึงอาหารกล่อง EZYGO เป็นสินค้าที่ขายดีใน Delivery ของ7-11 กอปรกับลูกค้ามีการเร่งซื้อสินค้ากลุ่ม Frozen Foods เพื่อทำอาหารทานเองที่บ้าน และไม่มีค่าใช้จ่ายค่าปรับจากกลต.เหมือนใน 1Q21 อีกแนวโน้มกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2H21 จากหลายปัจจัยบวกที่ยังดีต่อในครึ่งปีหลังจึงคาด 2021 พลิกมีกำไรราว 42 ลบ. จากขาดทุน -59 ลบ. ในปี 2020 และคาดกำไรปกติปี 2022-23 จะเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 146 ลบ.(โต 3 เท่าตัว) และ 165 ลบ.(+12.8% Y-Y) คาดมีอัตราการเติบโตของกำไรใน 3 ปีข้างหน้า 64% CAGR

ประเมินราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 1.5 บาท และมีแผนล้างขาดทุนสะสม

เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2022 ของ GLOCON เท่ากับ 1.5 บาทโดยอิง PE ท่ี 25 เท่า เทียบเคียงกับค่าเฉลี่ยของบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอาหาร และมีลักษณะสินค้าหรือกลุ่มลูกค้าใกล้เคียงกับบริษัท อาทิ CPF RBF NRFTKN XO และ TACC (มี 7-11 เป็นลูกค้าหลักเหมือนกัน) ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายล้างขาดทุนสะสม และต้องการกลับมาจ่ายปันผลได้อีกครั้งในปี 2022 ภายใต้ประมาณการกำไรของเราพบว่า ลำพังกำไรฟื้นตัวในปี 2021-22 ยังไม่เพียงพอที่จะล้างขาดทุนสะสมได้ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจต้องอาศัยวิธีการทางบัญชี จึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป

- Advertisement -