Daily Focus: Domestic and Selective Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวบวกได้แรงกว่าที่ประเมินในช่วงเช้า ก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดันให้ปิดลบแคบลงเหลือ 7.02 จุด ณ สิ้นวัน โดยมูลค่าการซื้อขายยังไม่หนาแน่นนักที่ 6.5 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1.2 พันลบ.และ 509 ลบ. ตามล่าดับ (ต่างชาติกลับมา Long Index Futures 8.9 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Down กรอบ 1,630-1,640 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ยังเป็นลบหลังสินทรัพย์เสี่ยงเผชิญแรงขายอีกครั้ง ก่อนทราบผลการประชุม FED คืนนี้ ซึ่งค่อนข้างแน่ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% และที่สําคัญมากกว่าคือประมาณการเศรษฐกิจใหม่รวมถึง Dot Plot โดยเฉพาะมุมมองปี 2023 ล่าสุด Bond Yield ยังคงยืนในระดับสูงและ Dollar Index ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่ายังคงเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยง และเป็นสัญญาณเตือนโอกาสเกิด Recession ในปีหน้า ส่วนหุ้นไทยคาดยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัวสร้างฐาน หลังจากปรับขึ้นแรงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เรายังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เป็นขาขึ้นจะหนุนให้ดัชนีปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาดหุ้นโลก รวมถึง Sentiment จากการเข้า High Season ของการท่องเที่ยวใน 4Q22 คาดหนุนหุ้นในกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ให้ Outperform ระยะกลาง-ยาวยังมองกระแสเงินทุนค่อนไปในทิศทางไหลเข้า และประเมินระดับในการเข้าสะสมหุ้นเพิ่มบริเวณ 1,600-1,610+- จุด

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Selective Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,600-1,610+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : CPN, KTB, M, PRM, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : TACC

• แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท

• เราคาด TACC จะได้ Sentiment บวกในฐานะ Supplier หลักของ 7-11 ที่เตรียมปรับราคาเครื่องดื่ม All Café ขึ้นจากราคาเดิม 5 บาททุกรายการ (ยกเว้นกลุ่มท๊อปปิ้ง) มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 22 ซึ่งมีโอกาสได้ปรับขึ้นราคาขายตาม

• แนวโน้มกำไรคาดชะลอตัวเล็กน้อย Q-Q ตามปัจจัยฤดูกาล แต่จะกลับมาเร่งตัวใน 4Q22 จาก High Season ทั้งเครื่องดื่มและธุรกิจ Character เรายังคาดกำไรปี 2022-2023 +9%Y-Y และ +15% Y-Y

• แนวรับ 7 บาท แนวต้าน 7.55 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคแต่ค่อนข้างบางเพียง US$133 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$97 ล้าน ส่วนเกาหลีใต้และอาเซียนเม็ดเงินผสมผสานไหลเข้าสลับไหลออก แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดกลับมาไหลออกบางๆ อีกครั้งและรอติดตามผลการประชุม FED คืนนี้

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) คืนนี้จับตาการประชุม FED ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยค่อนข้างแน่อีก 0.75% ด้วยความน่าจะเป็น 80% ซึ่งจะทำให้ FED Fund Rate ปรับขึ้นเป็น 3-3.25% รวมถึงเหลือการประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ มีตลาดคาดว่าจะทะลุแตะ 4.25% ณ สิ้นปี และที่สำคัญต้องติดตาม Dot Plot ที่สะท้อนมุมมองดอกเบี้ยในปี 2023 ของคณะกรรมการ โดยหากไม่เห็นการปรับลงของดอกเบี้ยในปี 2023 คาดว่าจะกดดันสินทรัพย์เสี่ยงให้ปรับลงอีกครั้งจากโอกาสเกิด Recession ที่มากขึ้น ส่งผลให้ Dollar Index ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า เราคาดหุ้น Domestic และ Reopening Play จะยังปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาดหุ้นโลก

(+) ควบรวม TRUE-DTAC มี Sentiment บวก หลังความเห็นกฤษฎีกาให้ยึดตามประกาศ กสทช.ปี 2561 ซึ่งหมายความว่า กสทช.ไม่มีอำนาจในการอนุญาตหรือไม่อนุญาตการควบรวม ทำได้เพียงรับทราบและออกเงื่อนไขเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภค จับตากสทช.นัดประชุมด่วนเพื่อพิจารณา คาดราคาหุ้น TRUE และ DTAC มีโอกาสปรับตัวขึ้นหาราคา Tender Offer ที่ 5.09 บาท และ 47.76 บาท เป็นจังหวะให้ “เก็งกำไร” (ประธานกรรมการ/กรรมการ (มีอำนาจลงนาม) ของ FINANSIA SYRUS เป็นกรรมการ ของ TRUE)

(+) ครม.มีมติให้เลื่อนการขึ้นภาษีน้ำตาล ระยะ 3 ออกไปอีก 6 เดือนเป็น 31 มี.ค. 23 จาก เดิม 1 ต.ค.22 เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน และเวลาผู้ประกอบการปรับตัว เป็นบวกต่อกลุ่มเครื่องดื่ม แม้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มจะมีการปรับตัวกันมาแล้ว แต่การเลื่อนขึ้นภาษีออกไป 6 เดือน ก็ยังเป็นบวกต่อสินค้าบางรายการที่ยังไม่สามารถปรับสูตรได้ เป็นบวกต่อ CBG OSP ICHI SAPPE TIPCO MALEE / ส่วน TACC ปรับสูตรเรียบร้อยแล้ว

(0) BRI ยอด Presales 3QTD คาด +46% Y-Y และ YTD คิดเป็น 64% ของเป้าทั้งปี แนวโน้มจะเร่งขึ้นในช่วงที่เหลือของปีจากการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะ 4Q22 ภาพรวม Demand แนวราบยังไปได้ดี แต่ Rejection Rate มีแนวโน้มขยับขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้ยอดโอนและงบ 3Q22 มีโอกาสต่ำกว่าที่เคยมอง โดยประเมินว่าจะโต Y-Y แต่อ่อนลง Q-Q ก่อนเร่งขึ้นทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q22 เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปีนี้ลงเป็น +71% Y-Y ส่วนปี 2023 คงคาด +42% Y-Y ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 14 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 30,706.23 จุด ลดลง 313.45 จุด หรือ -1.01% ตลาดยังกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED โดยตลาดคาดว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ถูกกัดดันจากการคาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3

(-) ตลาดหุ้นไทย ปรับลง ตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ จากความระมัดระวังของนักลงทุนก่อนการประชุม FED ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าอยู่ที่บริเวณ 37.07 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.28 ดอลลาร์ หรือ -1.5% ปิดที่ 84.45 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว จากการทำนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางทั่วโลก

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 7.1 ดอลลาร์ หรือ -0.42% ปิดที่ 1,671.1 ดอลลาร์/ออนซ์ กดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 953.32 / -4.63

- Advertisement -