KS Daily View 21.09.2022 > ติดตาม Dotplot และอัตราดอกเบี้ย Fed เน้นลงทุนในหุ้น Defensive/ ราคาหุ้นโซนล่าง SET วันนี้คาด 1630 -1645 จุด หุ้นแนะนำ EKH, DTAC 

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

ต่างประเทศ : ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ โดยการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นยังเป็นประเด็นทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐตามเดิม โดยเมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐพักฐานอีกครั้ง ดัชนี Dow jones -1.01%, NASDAQ -0.95% โดยกลุ่ม Real estate -2.6%, Materials -1.9%, Consumer Discretionary -1.7%

ในประเทศ : SET Index เมื่อวานแกว่งตัวขึ้น(+0.43%DoD)  Sector ที่ปรับขึ้นเด่นคือกลุ่ม Anti commodity  TOA +9.3%, GPSC +2%  กลุ่มโรงแรมและสายการบิน  ERW +6.03%, CENTEL +3.24%,  BA +5.6%, AAV +4.3% ส่วนกลุ่มที่ปรับลงหลักๆ คือกลุ่ม Gadget  อาทิ COM7  -2.3% ส่วนประเด็นอื่นๆ

1.) หุ้น ANAN ประเด็นคดีแอชตั้น อโศกทางตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นว่าควรยกฟ้อง เนื่องจากมองว่าการดำเนินการของโครงการเป็นไปโดยชอบด้วยกฏหมาย ควรกลับคำพิพากษาของทางศาลปกครองกลางและเห็นควรให้ยกฟ้องจำเลยทุกคดี   อย่างไรก็ดี ความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดีนั้นเป็นเพียงความเห็นอิสระ ยังต้องรอทางตุลาการเจ้าของสำนวนและรอคำพิพากษาจากทางศาลปกครองสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง เราคงคำแนะนำ ซื้อ ANAN ที่ราคาเป้าหมาย 1.46 บาท หากศาลตัดสินว่าชนะจริง ราคาเป้าหมายจะปรับขึ้นไปที่กรณี Best Case ของเราที่ 1.84 บาท

2.) ที่ประชุม ครม.ขยายเวลาขึ้นภาษีความหวานออกไปอีก 6 เดือนเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน KS มองเป็น Sentiement บวกต่อหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม  แต่ไม่ได้มี Impact ต่อคาดการณ์กำไรอย่างมีนัยยะ เพราะกระทบกำไรราว  1-2%

ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้

ต่างประเทศ : ติดตามผลประชุม Fed วันนี้จะขึ้นดอกเบี้ย 75bps?  KS ให้น้ำหนัก Dotplot ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้และปีหน้าจะเป็นอย่างไร

ในประเทศ : ติดตาม  23 ก.ย.65 ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่คาดรัฐบาลเตรียมออกมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศใหม่ๆ  KS คาดการณ์เบื้องต้นว่ามาตรการของรัฐจะออกมาในรูปแบบ  อาทิ  การโปรโมทประเทศไทย, การจัดงาน Event ในประเทศเพื่อดึงดูดต่างชาติ,  มาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟสใหม่ (รัฐออกเงินค่าที่พักโรงแรม, ค่าอาหาร ฯลฯ) เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม

โดยรวม KS ประเมินเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ กลุ่มสายการบิน  BA, AAV  เราแนะนำ Trading เนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นมาเกินมูลค่าทางพื้นฐาน  โดยผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี  BA +16%ytd, AAV + 29%ytd   กลุ่มโรงแรม  เราชื่นชอบโรงแรมในประเทศ   AWC(ราคาเป้าหมาย 6.45 บาท), ERW (ราคาเป้าหมาย 4.56 บาท), และ CENTEL (ราคาเป้าหมาย 48 บาท)  คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง คาดกำไรเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY ใน 4Q22 บวกต่อไปถึง 1Q23

กลยุทธ์การลงทุน :

KS ยังคงมุมมองเดิม คือ ตลาดหุ้นได้ Price In เรื่อง Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบ ก.ย. วันนี้ 75bps ไปมากแล้ว โดยปัจจุบัน Fed funds futures  คาดโอกาสความน่าจะเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยวันนี้  75bps. สูงถึง 82% ไม่เปลี่ยนแปลงจากต้นอาทิตย์ (KS ให้น้ำหนักฝั่งนี้) และคาดโอกาสการขึ้น 100bp ที่ 18%   โดยสิ่งที่สะท้อนคือ การเคลื่อนไหวสินทรัพย์ของแต่ละสินทรัพย์ โดยในรอบนี้  Bond Yields สหรัฐ อายุ 2 ปี และ 10 ปีปรับตัวทำ New high ล่าสุดอยู่ที่  3.96% และ  3.56%  แต่พบว่า Dollar ยังไม่ทำ New High ตามติดแนวต้าน 110 จุด และสินทรัพย์เสี่ยงไม่ทำ New Low เห็นได้จากทั้งตลาดหุ้นสหรัฐ และ Bitcoin แกว่งตัวลง สะท้อนว่าแรงกดดันเรื่องดอกเบี้ยได้ตอบรับไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามแนะนำให้ติดตามผลประชุม Fed และ Dotplot  หากออกมา  Dovish คือไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยคาดตลาดหุ้นโลกจะ Rebound  คาดกลุ่มการเงิน, กลุ่ม Tech กลุ่ม Growth จะ Outperform แต่หากออกตรงข้าม คือhawkish คาดจะบวกต่อกลุ่มประกันชีวิต

โดยรวมคาดวันนี้ตลาดหุ้นไทยจะผันผวน KS ประเมินวันนี้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแนวรับสำคัญ 1600 และ 1616 จุด กลุ่มหุ้นแนะนำ เน้นไปที่กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ปรับลง  1.) กลุ่ม Anti commodity อาทิ  SCGP, TOA, EPG  2.) กลุ่ม Reopenning หุ้นโรงแรม AWC, หุ้นสื่อ : PLANB    3.) กลุ่ม Defensive ราคาหุ้นกองอยู่ในโซนล่าง แนะนำ EKH, DTAC

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1630 -1645 จุด หุ้นแนะนำ EKH, DTAC 

Top pick :

EKH (ราคาทางพื้นฐาน 8.4 บาท)

1.) การนำ KLINIQ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะส่งผลบวกต่อกำไรของ EKH

2.) EKH จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการเปิดประเทศของจีน โดยเราเห็นการเริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางในจีน ล่าสุด คือเมืองเฉิงตู แม้ยังไม่ทั้งหมดก็ตาม เราคาดว่าผู้ป่วยชาวจีนที่ศูนย์ IVF จะสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2566

3.) ราคาหุ้น EKH ปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่ากรณีเลวร้ายที่สุดของเราที่ 7.7 บาท

DTAC (ราคาทางพื้นฐาน 58.4 บาท)

1.) เราแนะนำ DTAC จากข่าวบวกต่อพัฒนาการดีลควบรวม DTAC และ TRUE เมื่อวาน หลังจากข่าว สนง. กฤษฎีกามีความเห็นว่า กสทช. ไม่มีอํานาจอนุมัติหรือไม่อนุมัติ

2.) เราชอบ DTAC มากกว่า TRUE ณ จุดนี้เนื่องจาก 1) upside ที่มากขึ้นจากราคาปัจจุบันเป็นราคา VTO และ 2) อัตราส่วนสวอปที่ดีกว่า

3.) ประเมินราคาหุ้น DTAC คาด ReBound กลับ 10.4% เข้าหาราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ(VTO) ที่ 47.76 บาท

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันพุธ ติดตามตัวเลข Existing Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 4.7 ล้านยูนิต (-2.3% MoM) ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ ผลการประชุม FOMC คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 75bps. เป็น 3.00%-3.25% ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจของเฟด รวมถึง Dot plot ของเฟด

วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขการส่งออกและนำเข้าของไทยเดือน ส.ค. คาด +9.0% YoY และ 21.4% YoY ตามลำดับ และคาดไทยขาดดุลการค้า 2,870 ล้านเหรียญ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ คาดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50bps. เป็น 2.25% และตัวเลข Initial Jobless  Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ คาด +218K

วันศุกร์ ติดตามตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของเยอรมันเดือน ก.ย. คาด 48.3 จุด (-1.6% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของยุโรปเดือน ก.ย. คาด 48.8 จุด (-1.6% MoM) S&P Global Services PMI Flash ของยุโรปเดือน ก.ย. คาด 49.1 จุด (-1.4% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของสหรัฐฯเดือน ก.ย. คาด 51.2 จุด (ทรงตัว MoM) และ S&P Global Services PMI ของสหรัฐฯเดือน ก.ย. คาด 45 จุด (+3.0% MoM)

- Advertisement -