บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Siam Global House PCL (GLOBAL.BK/GLOBAL TB)*

ประมาณการ 3Q65F: กำไรจะเพิ่มขึ้น YoY แต่จะลดลง QoQ

Event

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ GLOBAL ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 701 ล้านบาท (+6% YoY, -32% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในงวด 9M65F อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท (+11% YoY) คิดเป็น 81% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

Impact

SSSG จะยังเป็นบวก

เราคาดว่ายอดขายของ GLOBAL ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท (+7% YoY, -11% QoQ) ทำให้ยอดขายในงวด 9M65F อยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท (+7% YoY) โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะ i) SSSG อยู่ที่ ~4% (จาก 12.5% ใน 3Q64 และ 1.5% ใน 2Q65) และ ii) มีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกหนึ่งสาขาใน 3Q65 ทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดเพิ่มเป็น 77 ร้าน (จาก 74 ร้านใน 3Q64 และ 76 ร้านใน 2Q65) ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ายอดขายจะลดลง QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ GLOBAL ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 25.5% (+1.9ppts YoY, -0.9ppts QoQ) 9.9ppts QoQ)  ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9M65F อยู่ที่ 26.1% (+1.0ppts YoY) โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะกลยุทธ์การจำหน่ายสินค้า house-brand ของบริษัท ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะราคาเหล็กลดลง

ปรับประมาณการกำไรปี 2566 เล็กน้อย และ de-rate PER เพื่อสะท้อนแนวโน้มที่ไม่น่าสนใจ

เราปรับสมมุติฐานปี 2566 ดังนี้ i) ลด SSSG ลงจาก 3% เหลือ 0% เพื่อสะท้อนถึงฐานที่สูงของรายได้ภาค เกษตรในปีนี้ (รายได้ภาคเกษตรเพิ่มขึ้น ~15% YoY ในงวด 7M65) และราคาเหล็กลดลง (ยอดขายเหล็กคิดเป็น 15-20% ของรายได้รวมของ GLOBAL) ii) ลดอัตรากำไรขั้นต้นลงจาก 25.4% เหลือ 24.9% เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรของเหล็กที่กลับมาอยู่ระดับปกติ iii) เพิ่มสัดส่วน SG&A ต่อยอขายจาก 14.1% เป็น 14.3% เพื่อสะท้อนถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ปรับสมมติฐานดังกล่าวแล้วทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ลดลงจากเดิม 9% ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิของ GLOBAL โต 2% YoY ในปี 2565F และ 6% YoY ในปี 2566F ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราการเติบโตของกำไรในปี 2566F ไม่น่าสนใจ และยังมีความเสี่ยงที่อัตรากำไรขั้นต้นจะถูกกดดันจากราคาเหล็กที่ลดลงอย่างมาก (เพราะความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก) เราจึง de-rate PER จาก 34.0x (+0.5 S.D.) เหลือ 31.0x (เฉลี่ย)

Valuation & action

เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 24.40 บาท จากเดิมที่ 25.50 บาท โดยอิงจาก PER ที่ 31.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่าง GLOBAL และ Home Product Center (HMPRO.BK/HMPRO TB)*) เรายังคงคำแนะนำซื้อ GLOBAL เนื่องจาก i) อาจจะมีอุปสงค์หลังน้ำท่วม และ ii) ยังเหลือ upside จากราคาปิดล่าสุดอีก 19%

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต็อกเป็นจํานวนมาก

- Advertisement -