Daily Focus: Domestic and Selective Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่ง Sideways และมีแรงขายออกมามากขึ้นในช่วงบ่าย กดดัชนีปิดลบ 5.14 จุด ณ สิ้นวัน ก่อนทราบผลการประชุม FED เมื่อคืนที่ผ่านมา สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้นฝ่ายละราว 1 พันลบ ส่วนรายย่อยเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ 2.4 พันลบ. (สถานะใน Index Futures ไม่มีนัยยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังคงอยู่ในช่วงพักตัวลงหาระดับ 1620+- จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ หลังผลการประชุม FED วานนี้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด และมุมมองคณะกรรมการมองนโยบายการเงินตึงตัวเร็วและนานกว่าที่เคยประเมิน จากเงินเฟ้อที่สูงยาวนานกว่าคาด ซึ่งกดดันเศรษฐกิจปี 2022-2023 ให้เติบโตชะลอตัวลงอย่างมีนัยยะ ส่งผลให้ Dollar Index พุ่งขึ้นแรงในฐานะ Safe Haven ส่วน Bond Yield สหรัฐฯอายุ 2 ปี ล่าสุดพุ่งแตะ 4.08% ทำให้ภาพ Inverted Yield Gap ปัจจุบันกว้างขึ้นเป็น -0.54% กดดันสินทรัพย์เสี่ยงให้ยังเผชิญแรงเทขาย อย่างไรก็ตาม เรายังเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวลงจำกัดกว่า และมีแนวโน้ม Outperform ตลาดหุ้นโลกได้ต่อเนื่อง จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ทยอยเร่งตัวสวนทางภูมิภาคอื่นๆ รวมถึง Sentiment จากการท่องเที่ยวที่กำลังจะเข้า High Season ใน 4Q22 เราประเมินหุ้นในกลุ่ม Domestic และ Reopening Play จะยังคงปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาด ส่วนจังหวะดัชนีพักตัวลงหาบริเวณ 1,600-1,610+- จุด เรายังมองเป็นจังหวะในการทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Selective Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,600-1,610+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : CPN, KTB, M, PRM, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : BDMS

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 31 บาท

• คาดแนวโน้มกำไร 3Q22 เติบโตดีต่อเนื่อง Q-Q จาก High Season ของกลุ่มโรงพยาบาล ผู้ป่วยต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลางฟื้นตัวดีรวมถึง Pent-Up Demand ของผู้ป่วยชาวไทย

• EBITDA margin เริ่มเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดยมีโอกาสสูงกว่าช่วง Pre-COVID-19 ซึ่งอยู่ที่ 22% มีแนวโน้มสูงกว่า 23% ในปีนี้ หลังจากโรงพยาบาลใหม่เริ่มมี Utilization Rate ดีขึ้น เราคาดกำไรปี 2022-2023 +31% Y-Y และ +24% Y-Y ตามลำดับ

• แนวรับ 28.50-28.25//27 บาท แนวต้าน 30-31 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$729 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$378 ล้าน และ US$251 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนไหลออกทุกประเทศ นำโดยอินโดนีเซีย แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดยังไหลออกหนาแน่นต่อเนื่อง หลังผลการประชุม FED สะท้อนนโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้นและยาวนานว่าที่เคยคาด

ประเด็นสาคัญวันนี้

(-) FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาดอีก 0.75% ขึ้นเป็น 3-3.25% แต่ปัจจัยที่กดดันตลาดเพิ่มเติม คือ Dot Plot ที่สะท้อนนโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น คณะกรรมส่วนใหญ่มองดอกเบี้ยปี 2022 จบที่ 4.25-4.5% ขณะที่ปี 2023 ยังคงขยับขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 4.50-4.75% ต่างจากรอบก่อนที่มองดอกเบี้ยขยับลงปีหน้า สะท้อนว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่อยู่ในระดับสูงยาวนานกว่าคาด รวมถึงมองดอกเบี้ยทยอยขยับลงต่ำกว่า 3% ในปี 2025 ขณะที่ประมาณการ เศรษฐกิจปี 2022-2023 มีการเติบลงเหลือ +0.2% Y-Y และ +1.2% Y-Y อัตราว่างงานมีแนวโน้มสูงขึ้นเป็น 3.8% และ 4.4% และ Core PCE อยู่ที่ 4.5% และ 3.1% ตามลำดับ สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อและนโยบายการเงินตึงตัวมากขึ้น ภาพรวมสินทรัพย์เสี่ยงยังคงถูกกดดัน โดยเฉพาะ Global Play เรายังมองหุ้น Domestic Reopening และ Defensive Play จะยัง Outperform

(+) TU แนวโน้มกำไรปกติ 3Q22 คาดฟื้นตัวได้ต่อ เพราะเป็น High Season ต้นทุนเริ่มผ่อนคลาย ทั้งราคาปลา  อลูมิเนียม และค่าระวางเรือ รวมถึงคาดหวังไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือนใน 2Q22 ส่วนภาพทั้งปียังคาดกำไรปกติปี 2022 -17% Y-Y และจะกลับมาโตอีกครั้งในปี 2023 +19% Y-Y ขณะที่การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของไทยราว 5-8% และค่าสาธารณูปโภคในยุโรปที่สูงขึ้น คาดกระทบจำกัดเพราะเตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าแล้ว ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด 2022PER เพียง 14 เท่า ยังคงราคาเป้าหมายที่ 24.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) BCH มีแผนบันทึกสํารองวัคซีน Moderna ล็อตที่ 2 ราว 1 ล้าน โดยมูลค่า 1.1 พันลบ.ใน 3Q22-4Q22 จากนโยบายทางบัญชีที่ Conservative อย่างไรก็ตาม หากสามารถจำหน่ายได้ ในระยะถัดไปจะสามารถกลับรายการได้ เรามองปัจจัยดังกล่าวกระทบผลการดำนินงานระยะสั้น แต่คาดช่วยลดปัจจัยที่ตลาด Concern และ Overhang ราคาหุ้นได้ เรามองผลกระทบจากรายการนี้เพียง 0.44 บาท/หุ้น ราคาเป้าหมายยังอยู่ที่ 28.50 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 30,183.78 จุด ลดลง 522.45 จุด หรือ -1.70% หลังจาก FED ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% และส่งสัญญาณจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปี 2566 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ก่อนการประชุม FED ขณะที่ตลาดยังเป็นกลางต่อการประกาศของรัสเซียที่จะทำการระดมทหารครั้งใหม่

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง ตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากที่ FED ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% และส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 37.31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 82.94 ดอลลาร์/ บาร์เรล หลัง FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ซึ่งทำให้ตลาดกังวลต่อ Demand น้ำมัน

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,675.7 ดอลลาร์/ออนซ์ แรงหนุนในสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากผู้นำรัสเซียประกาศระดมกำลังพลเพื่อยกระดับการทำสงครามกับยูเครน

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 952.16 / -1.16

- Advertisement -