KS Daily View 23.09.2022 > ไทยเดินหน้าเปิดประเทศ สัปดาห์หน้า กนง. คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย บวกกลุ่มธนาคาร SET วันนี้คาด 1630 -1655 จุด หุ้นแนะนำ SCB, ERW

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

ต่างประเทศ :

หลังผลประชุม Fed  โดย Bond Yields สหรัฐ อายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นทำ New high ล่าสุดอยู่ที่ 4.11%  Bond Yields สหรัฐ 10 ปีปรับขึ้นแรง อยู่ที่  3.77% ทำจุดสูงสุดในรอบ 10 ปีหลังตลาดยังคงกังวลกับนโยบายการเงินเชิงรุกของ Fed ที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 125bps. ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นโลกปรับฐานต่อ  โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนยังพักฐานต่อ ดัชนี Dow Jones –0.35%, NASDAQ -1.37% โดยกลุ่ม Consumer Discretionary -2.16%, Financials -1.66% สวนทางกับกลุ่ม Healthcare +0.51% ส่วนสินทรัพย์อื่นๆ น้ำมันดิบโลกแกว่งตัวออกข้าง อิง Brent ปิด 90.3 เหรียญ

ในประเทศ : SET Index เมื่อวาน Rebound (0.72%DoD)  Sector ที่ขึ้นเด่นคือ กลุ่มส่งออกอาหาร ASIAN +5%  กลุ่มโรงไฟฟ้า  อาทิ GULF +1.9%  GUNKUL +1.9%,EA +2%  BGRIM +1.5%   GPSC +1.1%  กลุ่มเปิดเมือง ERW +1.9%,AWC +1.7% ส่วน Sector ที่ปรับลงหลักๆคือกลุ่ม ค้าปลีก CPALL -1.7%

ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้

1.) กระแสการเดินหน้าเปิดประเทศในหลายประเทศฝั่งเอเซีย เริ่มจาก ฝั่งญี่ปุ่น ล่าสุด นายกรัฐมนตรีประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 11 ต.ค.  ฟรี VISA นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมคนไทย” และไม่มีจำกัดจำนวนคนเข้าประเทศ  ถัดมาคือ ฮ่องกงและไต้หวัน เตรียมผ่อนคลายมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยว คาดเริ่ม เดือน ต.ค. เช่นเดียวกับไทยผ่อนคลายทางเดียวกันคือ  วันนี้ศบค. เตรียมพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ   1.) หากติดโควิด ไม่มีอาการ ไม่ต้องกักตัวแล้ว เพียงใส่แมสก์ ล้างมือ และเว้นระยะห่าง 5 วันแทน โดยประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานจากการฉีดวัดซีนโควิด-19 ครอบคลุมมากกว่า 82% ขณะที่ในส่วนของนักท่องเที่ยวก่อนเข้าประเทศ ยกเลิกแสดงเอกสารวัคซีน หรือผลตรวจ ATK และเสนอเปิดผับตี 4 หนุนท่องเที่ยว   โดยรวม KS  ประเมินมาตรการดังกล่าวจะเป็นบวกต่อกลุ่มเปิดเมือง (Commerce, Media, Mass transit, Gas station, F&B, Bank, Finance) 2.) ที่ประชุม ศบค.มีการออกมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศใหม่ๆ มองเป็น sentiment บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน โดยหุ้น Top pick ในกลุ่มท่องเที่ยวของ KS คือ AWC และ ERW

2.) ติดตามค่าเงินบาท หากผันผวนมาก ธปท. ก็จะเข้าไปดูแล ล่าสุด KBANK ปรับมุมมองคาดกนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในการประชุมที่เหลือของปีนี้ คาดดอกเบี้ยนโยบายปลายปีที่ 1.25% (เดิมคาด 1% หรือขึ้นเพียง 25bps) จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากเร่ิมกระทบเงินเฟ้อ บวกกับปัจจัยภายในประเทศที่ดีขึ้น มองเป็นบวกกับธนาคารขนาดใหญ่

กลยุทธ์การลงทุน :  ประเด็นเรื่อง Fed เชื่อว่าหลังจบการประชุม Fed ตลาดคง wait&see รอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐต่างๆ โดยเฉพาะรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ที่จะประกาศวันที่ 13 ต.ค. จะชะลอลงมากน้อย? เงินเฟ้อสหรัฐ เดือนล่าสุด อยู่ที่ 8.3%YoY  KS คาดว่าเงินเฟ้อได้ผ่าน Peak ไปแล้ว แต่คาดจะไม่ปรับลงแรง โดยยังถูกหนุนจากฝั่งภาคอสังหา   ระยะสั้นคาดประเด็นที่ตลาดหุ้นให้น้ำหนักคือ  เรื่อง Recession ในฝั่งยุโรป สหรัฐ  และความเสี่ยง Geopolitics Risk รัสเซีย- ยูเครน  ทำให้ตลาดหุ้นโลกคาดจะแกว่งตัว Sideway อย่างไรก็ตามในฝั่งตลาดหุ้นไทย KS ยังคงมุมมองเดิมไม่เปลี่ยน คือ คาดตลาดหุ้นไทยจะยัง Outperform เมื่อเทียบกับในฝั่งสหรัฐ และยุโรป เนื่องจากไทยมีจุดเด่นทั้ง 1.)โอกาสการเกิด Recession ต่ำกว่า   2.) ยังเห็น Trend การ Upgrade ทั้ง  GDP  และ EPS ฯลฯ

ธีมการลงทุนที่มีปัจจัยบวก

1.) การเปิดประเทศของญี่ปุ่น/ฮ่องกง/ไต้หวัน และไทย คาดจะมี Sentiment บวก AOT, AAV, BA, AWC, ERW, EKH

2.) ประชุม กนง. สัปดาห์หน้า 28 ก.ย. คาดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย Sentiment บวกต่อธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ อาทิ  SCB, BBL

3.) Carbon Credit หุ้นที่ราคายัง laggard อาทิ KAMART, STA, SSP, BCPG, GUNKUL

4.) ธีมรับเลือกตั้ง อาทิ AWC

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1630 -1655 จุด หุ้นแนะนำ  SCB, ERW

Top pick :

SCB (ราคาทางพื้นฐาน 152.0 บาท)

1.) การประชุม กนง. วันที่ 28 ก.ย. ตลาดคาดมีโอกาสจะเห็นขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bps อยู่ที่ 1%คาดจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้  MLR ตามมา ประเมินเป็น sentiment บวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์คาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุก 25bps จะเป็น upsides ต่อกำไรปี 2023 ของธนาคาร SCB +7%

2.) โดยจากสถิติก่อนการประชุม กนง. ในรอบที่คาดจะขึ้นดอกเบี้ย ฯ อาทิ รอบล่าสุด 10 ส.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารคาดจะ Out perform ก่อนการประชุม กนง. 1 สัปดาห์ปรับขึ้นเฉลี่ย 1.7%  และหลังการประชุม 1 สัปดาห์ปรับขึ้นเฉลี่ย 2%

ERW (ราคาทางพื้นฐาน 4.56  บาท)

1.) คาดจะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศดังกล่าว

2.) เราคาดว่า ERW จะพลิกกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาส 4/2565 จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของ RevPar หลังจากการยกเลิกระบบ Thailand Pass ในเดือนก.ค.

3.) ERW ซื้อขายที่ PER ปี 2567 ราว  28 เท่า ในขณะที่หุ้นโรงแรมส่วนใหญ่ซื้อขายด้วย PER ที่สูงขึ้นในปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2562 ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าอัตรากำไรปกติปี 2567 จะอยู่ที่ 9.3% เพิ่มขึ้นจาก 7.3% ใน ปี 2562 จากสัดส่วนรายได้ที่สูงขึ้นจาก HOP INN ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มโรงแรมอื่น ๆ เราคาดว่ารายได้จาก HOP INN จะเพิ่มขึ้นจาก 12% ในปี 2562 เป็น 21% ในปี 2567

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันศุกร์ ติดตามตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของเยอรมันเดือน ก.ย. คาด 48.3 จุด (-1.6% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของยุโรปเดือน ก.ย. คาด 48.8 จุด (-1.6% MoM) S&P Global Services PMI Flash ของยุโรปเดือน ก.ย. คาด 49.1 จุด (-1.4% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของสหรัฐฯเดือน ก.ย. คาด 51.2 จุด (ทรงตัว MoM) และ S&P Global Services PMI ของสหรัฐฯเดือน ก.ย. คาด 45 จุด (+3.0% MoM)

- Advertisement -