รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี รีบาวน์ตามตลาดโลก

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ดัชนีดิ่งต่อ กดดันโดยกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ PTT PTTEP IVL PTTGC BANPU ธนาคาร SCB KBANK อื่นๆ BTS AOT ส่วนหุ้นใหญ่ที่บวกสวนตลาด ได้แก่ CPALL TU BDMS INTUCH BEM และหุ้นบวกแรง เช่น WAVE RT TC TAKUNI NBC
  • วันนี้คาดดัชนี รีบาวน์ตามตลาดโลก หลังย่อลงมาต่อเนื่อง แต่เราเชื่อว่าการรีบาวน์รอบนี้อาจจะไม่ร้อนแรง จึงคงแนะนำกลยุทธ์ Selective Buy เลี่ยงกลุ่มที่เล่นตรงข้ามดอกเบี้ยขาขึ้นอย่างกลุ่มเช่าซื้อ ไปก่อน และยังไม่รีบโหลดหุ้น Tech. กลับ หันไปเลือกหุ้นที่เล่นตรงไปตรงมากับดอกเบี้ย KTB TLI ค่าเงินบาทอ่อน กลุ่มส่งออก TU AH และกลุ่มขายสินค้า IT ซื้อสวน COM7 JMART เนื่องจากที่ผ่านมาราคาหุ้นแถบไม่เล่นรับข่าวไอโฟน 14 เลย และข่าวยกเลิกการเพิ่มกำลังผลิตของ Apple ทำให้ตลาดกังวล แต่หากในไทยไอโฟนขายดีจนน่าตกใจ (ยอดจองล็อตใหม่ยาวไปปลาย ต.ค.)

What to watch

  • การประชุม กนง. ปรับดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.00% ตามตลาดคาด และมองว่าควรปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป อิงตามเศรษฐกิจของไทยเป็นหลัก
  • นอกจากนี้ ยังคงคาดการณ์ GDP ปี 2565 ที่ 3.3% แต่ปรับลดปี 2566 ลงเป็น 3.8% (เดิม 4.2%) ส่วนเงินเฟ้อปี 2565 ปรับเพิ่มเป็น 6.3% (เดิม 6.2%) และปี 2566 เป็น 2.6% (เดิม 2.5%)
  • BOE แถลงจะรับซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอังกฤษจำนวนมากเท่าที่มีความจำเป็นตั้งแต่ขณะนี้จนถึงวันที่ 14 ต.ค.เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน โดยการแทรกแซงตลาดของ BoE ส่งผลให้ดอลลาร์และ Bond yields อ่อนค่าลง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวน์
  • ศาล รธน.นัดวินิจฉัย ปมนายกฯ ดำรงตำแหน่ง 8 ปี 30 กย.65
  • ความกังวลประเด็นเงินเฟ้อสหรัฐฯยังคงมีน้ำหนักต่อการปรับฐานของตลาดหุ้น และ หนุนค่าเงินดอลล์กับดอกเบี้ย รอติดตาม Core PCE วันศุกร์นี้ ตลาดคาด เดือน สค.ยังเพิ่มขึ้นต่อ เป็น 4.8% y-y จาก 4.6%

หุ้นแนะนำวันนี้

  • COM7  JMART  โอกาสซื้อสวนกระแสข่าว Apple ยกเลิกการเพิ่มกำลังผลิต ที่จริงๆ แล้วในไทยไอโฟนขายดีจนน่าตกใจ โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมี่ยม (Pro, Pro Max) และคาดว่างบ 3Q22 จะดีกว่า 2Q22 ที่เป็นจุดต่ำสุด

Technical Daily (E)

Today we’re rating “HOLD” EKH,EA,AAV

Technical Daily (T)

SET ลงอีกเยอะหรือไม่!
แนะนำ ถือ
EKH  แนวรับ 7.4-7.5 แนวต้าน 8.0 และ 8.2 ( Trailing stop < 7.2)
EA  แนวรับ 87-88 แนวต้าน 94 และ 97 ( Trailing stop < 85)
AAV  แนวรับ 2.8 แนวต้าน 3.2-3.3 ( Trailing stop < 2.7)

Global Investing Brief: หุ้นสหรัฐฯ ฟื้น หลัง bond yield ปรับลงรายวันมากสุดนับตั้งแต่ปี 52 // Apple ชะลอแผนเพิ่มกำลังผลิต iPhone 14 หลังยอดขายต่ำกว่าคาด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • 3 ดัชนีหลักปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี DJIA +1.9%, S&P 500 +2.0% และ Nasdaq +2.1% นำโดย Netflix (NFLX) +9%, Home Depot (HD) +5% หลังธนาคารกลางอังกฤษเผยว่าจะมีการรับซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอังกกฤษจำนวนมาก ตั้งแต่วันนี้จนถึง 14 ต.ค. เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และคลายความกังวลการแข็งค่าของดอลลาร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน bond yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับลง 0.26% สู่ระดับ 3.73% นับเป็นการปรับลงรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 52
  • Bloomberg รายงานว่า Apple (AAPL) เตรียมยกเลิกแผนเพิ่มกำลังการผลิต iPhone 14 จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะผลิตราว 6 ล้านเครื่องในครึ่งปีหลังนี้ เนื่องจากความต้องการและยอดขายจริงต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยยอดซื้อ iPhone ใหม่ในช่วง 3 วันแรกในจีนปรับลง 11% เมื่อเทียบกับ iPhone 13 อย่างไรก็ดี Apple ยังคงเป้าหมายการผลิต iPhone 14 series ทั้ง 4 รุ่น ราว 90 ล้านเครื่อง ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่น iPhone 13 ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $182.61

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งปิดลบ 3.4% กดดันจาก JD.com (9618) -5.2%, Alibaba (9988) -4.6% หลังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยทั่วโลกที่อาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกันค่าเงินหยวนจีนเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่ามากสุดตั้งแต่ช่วงวิกฤติซับไพรม์ปี 51 โดยอ่อนค่าลง 4% นับจากต้นเดือน สู่ 7.22 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ กดดันธนาคารกลางจีนที่ยังมีนโยบายการเงินสวนทางกับ Fed ด้าน สี จิ้นผิง ปรากฎตัวครั้งแรกในงานศูนย์นิทรรศการปักกิ่ง สยบข่าวลือถูกรัฐประหารในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • Tencent Mobility Services ของ Tencent (700) ประกาศจับมือกับบริษัทผู้ให้บริการการจองโรงแรมออนไลน์ Trip.com เพื่อร่วมกันให้บริการแพลตฟอร์มรถเช่า พร้อมกับการจองโรงแรมแบบ “One-Stop online booking” เรามองบวกต่อการร่วมมือดังกล่าว หลัง Trip.com เผยว่าการท่องเที่ยวในฮ่องกงเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดยคำสั่งซื้อตั๋วเที่ยวบินเมื่อ 26 ก.ย. เพิ่มขึ้น 400%WoW เนื่องจากทางการฮ่องกงผ่อนคลายมาตรการกักตัวโควิด ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP Tencent ที่ HKD438.77

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • วานนี้ดัชนี VN ปิดลบ 2.0% ลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 กดดันจาก VIC -3.2%, VHM -3.0% และ MSN -2.8% ขณะที่กระทรวงการคลังเสนอแผนลดภาษีบริโภคน้ำมันพิเศษ เพื่อช่วยบรรเทาอัตราเงินเฟ้อ โดยเสนอให้มีการลดเหลือ 5% หรือ 8% จากปัจจุบันที่ 10% ด้านตัวเลขการลงทุนจริงจากต่างประเทศ (FDI disbursement) ใน 9 เดือนแรกของปีโต 16.2%YoY สู่ $15.4bn แสดงให้เห็นว่าเวียดนามยังเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญของโลก
  • VinFast ของ Vingroup (VIC) ประกาศจับมือกับบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่น Renesas Electronics Corporation เพื่อร่วมกันพัฒนารถ EV โดย Renesas จะจัดหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้กับ VinFast เช่น ชิปสำหรับรถ EV, ไมโครคอนโทรเลอร์ เป็นต้น รวมไปถึงให้การสนับสนุนด้านเทคนิคในการพัฒนาระบบอื่นๆ เรามองบวกต่อการร่วมมือในครั้งนี้ เนื่องจากจะทำให้ VinFast เข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์ขั้นสูงมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยการพัฒนารถ EV ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP VIC ที่ VND99,700

Highlight

Walmart (WMT) ประกาศบุกเข้าโลก Metaverse ผ่านแพลตฟอร์มเกม Roblox โดยปัจจุบันได้เปิดโลกเสมือน 2 แล้วแห่งคือ “Walmart Land” และ “Universe of Play” ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 52 ล้านคนต่อวัน เรามองบวกต่อประเด็นดังกล่าว หลังมองว่าเป็นการสร้างฐานลูกค้า ซึ่งอาจนำไปต่อยอดธุรกิจอื่นๆ ได้ เช่น ฟิตเนสและคลาสเรียนด้านสุขภาพ อีกทั้งยังอาจเป็นแหล่งรายได้ใหม่ หลังมีแผนขายของเล่นเสมือนจริงให้กับกลุ่มเยาวชนในแพลตฟอร์ม

Greed & FearBarometer: มาตรวัดความโลภและความกลัว

Overview:

Sentiment อ่อนแอลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า มาตรวัดปรับตัวลงจาก 63 คะแนนเป็น 60 คะแนน สัญญาณที่แย่ลง ได้แก่ ดัชนี Momentum Strength ที่ปรับตัวลงจนเข้าสู่แดนลบ และความผันผวนของตลาดที่เพิ่มขึ้น

มาตรวัดความโลภและความกลัว (Greed & Fear Barometer):

จิตวิทยาในตลาดหุ้นมักถูกผลักดันด้วยสองอารมณ์หลัก คือ ความโลภและความกลัว โดยเมื่อยิ่งมีอารมณ์โลภมาก (Extreme Greed) หรือ อารมณ์กลัวมาก (Extreme Fear) ขึ้นเท่าใด การตัดสินใจด้วยเหตุผลก็มักจะลดลงไปเท่านั้น เช่น เมื่อเกิด Extreme Greed นักลงทุนก็อาจจะไล่ซื้อหุ้นมากจนเกินไปโดยไม่สนใจราคา ในขณะที่เวลาเกิด Extreme Fear ก็จะขายหุ้นมากเกินไปด้วยความตื่นตระหนก ดังนั้นหากอารมณ์ตลาดยิ่งเอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากเท่าใด โอกาสที่ดัชนีจะสวิงกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามก็มากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุที่ภาวะ extreme นั้น มักทำให้เกิดการซื้อหรือขายมากเกินไป (Overbought/ Oversold)
BLS Greed & Fear Barometer คำนวณมาจากเครื่องชี้วัดดังต่อไปนี้ 1) Bull-to-Bear 2) Momentum Strength 3) Yield Spread (Bond vs Equity) 4) Market Volatility 5) Market Breadth และ 6) Volume Index

- Advertisement -