คาด Rebound Trading ในกรอบ 1592-1617 // Update มุมมองหลัง กนง. คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,599.23 จุด ลดลง 11.35 จุด (-0.70%) มูลค่าการซื้อขาย 69,726.47 ล้านบาท ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐทำให้เงินบาทอ่อนค่า และกังวลเงินทุนต่างชาติไหลออก

แนวโน้มตลาดวันนี้…คาด SET Index แกว่งตัว Rebound ขึ้นเหนือ 1600 ยืนได้มั่นคง ความเสี่ยงขาลงเริ่มจำกัด แนวต้าน 1612/1617 แนวรับ 1592-1588

  • กนง. เคาะขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด จาก 0.75% เป็น 1.00% พร้อมคงเป้า GDP ปี 65 ที่ 3.3% แต่ปรับลด GDP ปี 66 ลงจาก 4.2% เป็น 3.8% กนง.มีมุมมองในเชิงผ่อนคลายต่อทิศทางการอ่อนค่าของ สกุลเงินบาท เนื่องจากการอ่อนค่าดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากการแข็งค่าเทียบสกุลเงินอื่นของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผลกระทบที่เกิดจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท ส่งผลต่อต้นทุนของผู้นำเข้าและอาจส่งผลต่อการปรับขึ้นของราคาสินค้าภายในประเทศที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานเดียวกัน เป็นหนึ่งปัจจัยที่ คณะกรรมการมีความกังวล หากแต่ปัจจุบัน ความสามารถในการส่งผ่านของต้นทุนจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคค่อนข้างมีจำกัด จาก 1.) สินค้าที่ขาดแคลนไม่เพียงพอต่อความต้องการ 2.) กำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทำให้ปัญหาเงินเฟ้อที่มาจากอัตราแลกเปลี่ยนมีน้ำหนักน้อยลงในสายตาของคณะกรรมการ นอกจากนี้หากพิจารณาเทียบการอ่อนค่ากับตะกร้าอัตราแลกเปลี่ยนอื่นที่ไทยทำการค้าด้วย พบว่าสกุลเงินบาทไม่ได้อ่อนค่ามากอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ fund flow ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนมักกังวล อาจน่ากังวลน้อยลงหลัง กนง. เผย ไทยยังมีแรงซื้อสุทธิรวมลาดหุ้นและตราสารหนี้เป็นบวก และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยค่อนข้างทรงตัวได้ดี เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เผชิญวิกฤติโควิด-19 และปัญหาเงินเฟ้อภายใน ทางฝ่ายมองภาพเศรษฐกิจในระยะถัดไปไทยจะยังเดินหน้าด้วยสองปัจจัยหลัก คือ ภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก โดยสองเครื่องยนต์นี้จะเข้ามามีบทบาทมาก ขึ้น เนื่องจากได้ประโยชน์จากทั้งค่าเงินาทที่อ่อนค่าเทียบสกุลดอลลาร์ ซึ่งเมื่ออิงกับการดำเนินนโยบายการเงินของกนง. และ FED แล้ว ทิศทางของค่าเงินบาทมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าต่อ มองเป้าปลายปีอาจแตะ 40 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากกนงไทยเดินหน้านโยบายการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เฟดเน้นเดินหน้าในเชิง Hawkish ความเหลื่อมล้ำของทิศทางนโยบายการเงินจะยิ่งทวีความแข็งค่าในค่าเงินดอลลาร์ขึ้น จึงมองหุ้นที่พึ่งพิงค่าเงินบาทอ่อนค่ายังน่าสนใจ
  • อาจถึงเวลาขึ้นดอกเบี้ยของกลุ่มธนาคารแล้ว หลังช่วงก่อนหน้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังมีการส่งผ่านไปยังประชาชนไม่มากนัก เนื่องจากเผชิญวิกฤติโควิด-19 แต่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว กอปรกับความสามารถในการรับภาระด้านการเงินของประชาชนที่มากขึ้น ทางฝ่ายมองมีโอกาสมากขึ้นที่จะเกิดการส่งผ่านต้นทุน หรือการ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ NIM ของกลุ่มธนาคาร จึงมองกลุ่มธนาคารเริ่มน่าเข้าสะสมเพื่อรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
  • ถ้อยแถลงประธานเฟดยังย้ำจุดยืนเดินหน้าในเชิง Hawkish ต่อ ถ้อยแถลงของประธานเฟดวานนี้ยังย้ำจุดยืนเดินหน้าที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทางฝ่ายมองทิศทางนโยบายของเฟดยังสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นต่อ แต่มอง Dollar Index จะค่อยๆ ปรับขึ้นในอัตราที่ลดลง หลังสัปดาห์ก่อน Dollar Index แข็งค่าขึ้น 3.6% ก่อนจะปรับขึ้นเพียง 1.78% ในสัปดาห์ถัดมา จึงมอง Dollar Index จะปรับขึ้นในอัตราที่ลดลง คาดจะแตะ 115.5 จุดในช่วงปลายสัปดาห์
  • กลยุทธ์การลงทุน 1. ท่องเที่ยวเปิดเมือง CENTEL ERW AWC 2. ค้าปลีก CPALL BJC CRC 3. ห้างสรรพสินค้า CPN MBK 4.บาทอ่อน TU ASIAN MEGA 5.Defensive BH CHG BDMS ADVANC 6. อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น KBANK BBL SCB TLI 7. Anti-Oil SCC BGRIM GPSC

เคาะไป คุยไป EA

Investment Highlights

  • ได้รับ sentiment เชิงบวกจากที่ประชุมบอร์ด EV เร่งกระตุ้นระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับยานยนต์ไฟฟ้า เช่นแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีการพิจารณามาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถอีวี ทั้งมาตรการทางด้านภาษี และการให้เงินอุดหนุนตามขนาดความจุของแบตเตอรี่ โดยเบื้องต้นหากผลิตแบตเตอรี่ 1 กิกะวัตต์ จะมีโอกาสได้รับเงินอุดหนุนกว่า 600 ล้านบาท ปัจจุบัน EA มีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมอิออนรายใหญ่สุดในอาเซียนที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่ COD ตั้งแต่ปลายปี 64 มีกำลังการผลิตที่1 GWh และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 4 GWh ภายในปี 2566 ใช้งบลงทุน 6 พันล้านบาท โดยจะเน้นผลิตเพื่อใช้กับพาหนะ EV ที่บริษัทจะขายให้กับลูกค้า
  • แนวโน้มผลประกอบการ 2H65 คาดว่าจะขยายตัวทั้ง QoQ และ YoY โดย QoQ เป็นช่วง high season ของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานลม การปรับขึ้นค่า ft และการทยอยส่งมอบ E-Bus ด้าน YoY จากการปรับขึ้นค่า ft และการส่งมอบ E-Bus ส่วน เป้ารายได้ทั้งปีคาดเติบโต 20% โดดเด่นในธุรกิจ EV ซึ่งทั้งปีนี้ คาดว่าส่งมอบได้ราว 1,500-2,000 คัน

Investment Strategy

Source : Aspen

แนะนำ “เคาะ” ราคาแกว่งตัวขึ้นจากแนวรับเส้นกลาง Bollinger band ที่ 87.75-88.00 ยืนเหนือมั่นคงพร้อมวอลุ่มเทรดที่เพิ่มขึ้นชี้นำภาวะบวก หนุนด้วย RSI และ Slow stoc ที่เริ่มให้ค่า bullish ระยะสั้นหุ้นดีดตัวทำรูปแบบ U-shape มาทดสอบแนวต้านจุดสูงเก่าก่อนหน้าที่ 91.00-92.00 เป็นกรอบพิจารณาเล่นรอบ

คําแนะนําของ ASL

กรณี “มีหุ้น” แนะนำถือ/ซื้อเพิ่มลุ้นทดสอบแนวต้าน 91-92

กรณี “ไม่มีหุ้น” แนะนำ ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 87.75 88.00 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา

กระแสข่าวหุ้น

ประเด็น

  • ชิงเค้กไฟทดแทน 5,000 MW กัลฟ์-กันกุล EA มาแรง! ราชกิจจาฯ ประกาศแล้ว เริ่มเคาะประมูลปลายปีนี้ – GUNKUL-GULF-EA นำทีมชิงเค้กโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 5,203 เมกะวัตต์ “กัลกุล” ส่งซิกร่วม “กัลฟ์” ชิง วินด์ฟาร์ม-โซลาร์ฟาร์ม 1,000 เมกะวัตต์ ส่วน EA ลุ้นโซลาร์ฟาร์มร่วมแบต 1,000 เมกะวัตต์ ผู้บริหารรับ สนใจร่วมประมูลแน่ ฟาก SCN ตั้งเป้าคว้าโซลาร์ฟาร์ม 30-40 เมกะวัตต์ จับตากกพ. ประกาศเปิดรับซื้อโรงไฟฟ้าและประกาศเริ่มเคาะประมูลปลายปีนี้ หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
  • ITEL ข่าวดี BS คว้างานกฟผ.มูลค่า 317 ล้าน – ITEL โชว์ข่าวดี! บริษัทลูก BS คว้างานติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายสายสัญญาณ และอุปกรณ์ประกอบ Access Network System จากกฟผ. โซนภาคใต้และภาคกลาง มูลค่ารวม 317 ล้านบาท หนุนมูลค่างานของ BS พุ่ง 582 ล้านบาท “ณัฐนัย” คาด BS หนุน ITEL มีรายได้เพิ่มขึ้น 500 ล้านบาท/ปี
  • TPCH ลั่นกำไรปีนี้โตกว่าปีก่อน จ่อบุ๊กเงินประกันปิดซ่อมโรงไฟฟ้า CRB ไตรมาส 4 นี้ – TPCH จ่อบุ๊กเงินประกันจากการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า CRB ในไตรมาส 4/65 หนุนกำไรสุทธิปีนี้โตกว่าปีก่อน เล็งขยายการลงทุนในต่างประเทศร่วมกับพันธมิตร ลุ้นชัดเจนเร็วๆ นี้
  • AP ยอดขายแนวราบปีนี้ 3.8 หมื่นล. รุก Q4 เปิดทาวน์โฮม 5 โครงการ มูลค่า 4.8 หมื่นล้าน – “เอพี” มั่นใจยอดขายแนวราบปีนี้มาตามนัด 38,000 ล้านบาท หลัง 8 เดือนทำได้แล้ว 26,838 ล้านบาท โต 25% รุกเปิดทาวน์โฮมใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่ารวม 4,800 ล้านบาท ในไตรมาส 4/55 ประเดิมเปิดตัวลักซ์ ชัวรี่ทาวน์โฮม มูลค่า 1,750 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 8-9 ต.ค.นี้
  • SE คงเป้ารายได้ปีนี้พุ่ง 10-20% เหตุครึ่งปีหลังเข้าไฮซีซั่น-จ่อเซ็นงานเพิ่ม – “สยามอีสต์ โซลูชั่น” คงเป้ารายได้ปีนี้โต 10-20% จากปีก่อนมีรายได้ 488 ล้านบาท มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ลูกค้าโรงงานเริ่มลงทุนซ่อมบำรุง แย้มมีแผนเซ็นสัญญางานเพิ่มอีก ส่วนความคืบหน้า UBA เข้าจดทะเบียนใน mai คาดได้ขายไอพีโอภายในไตรมาส 4 ปีนี้
  • จับตาหลังหมดมาตรการลดภาษี คลังอาจหันเก็บภาษีดีเซล 5 บาท – “สกนช.” เร่งบริหารกองทุนน้ำมันฯ ช่วงฤดูหนาวปลายปีนี้ หวั่นราคาพลังงานพุ่ง เร่งเรียกเก็บเงินจากดีเซล 1.15 บาทต่อลิตร พร้อมรองรับ “กระทรวงคลัง” อาจกลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาทต่อลิตร หลังหมดอายุมาตรการ 20 พ.ย.นี้ ขณะที่เงินกู้ 3 หมื่นล้านบาทจากแบงก์เข้า พ.ย.-ธ.ค.นี้
  • IMF-Moody’s ทุบแผนลดภาษีอังกฤษ – กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และบริษัทจัดอันดับเครดิตพันธบัตร มูดีส์ กล่าววิพากย์วิจารณ์กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ของอังกฤษ ในขณะที่นักลงทุนกำลังเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญกับความวุ่นวายในตลาดที่ส่งผลให้ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางอังกฤษต้องออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีมาตรการที่สำคัญตามมา

    Source : นสพ. ข่าวหุ้น , นสพ. ทันหุ้น และ NewsCenter

  • XD Events: –

    GLOBAL MARKET

    Source : NewsCenter

- Advertisement -