ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

รีบาวด์ตามปัจจัยต่างประเทศ แต่จะยังผันผวนแรง

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ รีบาวด์ แต่จะผันผวนแรงต่อไป… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวลง (อ่อนกว่าคาดเล็กน้อย) ตามความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกถดถอย + ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแรงในช่วงบ่ายวานนี้ กดดันหุ้นตัวหลักๆ สำหรับในวันนี้ ปัจจัยต่อตลาดหุ้นเป็นบวกมากขึ้น กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปรีบาวด์แรงเมื่อคืนนี้ หลังจาก ธ.กลางอังกฤษ (BoE) ประกาศมาตรการซื้อพันธบัตรรัฐบาล (quantitative easing) เพื่อสกัดการลุกลามของปัญหาความเชื่อมั่น การพุ่งขึ้นของบอนด์ยิลด์ รวมทั้งการร่วงแรงของสกุลเงินปอนด์ โดยเบื้องต้น BoE จะใช้วงเงิน 6.5 หมื่นล้านปอนด์ซื้อพันธบัตรฯ ถึงวันที่ 14 ต.ค. นี้ ส่งผลให้บอนด์ยิลด์ลงแรงทั่วโลก และส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมทั้งตลาดหุ้น ii) ราคาน้ำมันดิบ WTI รีบาวด์ 5.03% ตอบรับตัวเลขสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ ต่ำกว่าที่ consensus คาด และมีความกังวลด้านอุปทานก่อนที่พายุเฮอริเคนจะเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก… ด้านปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้ กนง. มีมติ 7 ต่อ 0 ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ 1.00% ตามที่ทางเราและ consensus คาดการณ์ และมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจเล็กน้อย (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ เช้าวันนี้) และ BBL* นำร่องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากเช่นกัน น่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มธนาคารฯ ในภาพรวมด้วย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร PTG*, AMA, ADVANC*

  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.6 บาท / แนวต้าน 16.4 – 16.7 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 17.2 บาท (Stop loss 15.4 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการเตรียมปรับไปใช้สูตรไบโอดีเซล บี7 จากปัจจุบัน บี5 (ซึ่งดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯคาดในประมาณการฯ ว่าจะคงใช้สูตรบี5 จนถึงสิ้นปี) เป็นบวกต่อธุรกิจไบโอดีเซลที่ยื่นไฟลิ่งเตรียม IPO ไปก่อนหน้าแล้ว 3) ราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มพักฐานและทรงตัวลดแรง กดดันค่าการตลาดน้ำมัน ขณะที่คาดการเปิดประเทศเป็นบวกต่อปริมาณการเติมน้ำมัน และธุรกิจ Non-oil (ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ) 4) Valuation ไม่แพง Forward PE 16.3 เท่า (คิดเป็นราว 1 เท่า ของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต)
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.25 บาท / แนวต้าน 5.7 – 5.8 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 6.5 บาท (Stop loss 4.9 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 129 ล้านบาท (+ 163% YoY, +83% QoQ) และคาดกำไรปีนี้ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ +300 ล้านบาท (โต +100% YoY) โดยเป็นผลจากธุรกิจขนส่งน้ำมันปาล์มทางเรือที่ฟื้นตัวขึ้นมาก ทั้งจากด้านอุปสงค์ในภูมิภาค และอุปทานเรือขนส่งน้ำมันปาล์มในภูมิภาคที่ลดลง เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนไปขนส่งน้ำมันดอกทานตะวันไปยุโรปแทน 3) Valuation ไม่แพง Forward PE +9.7 เท่า (-2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) / PBV 1.1 เท่า (-1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต)
  • ADVANC* (เป้า Consensus 241.35 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 196.5 บาท / แนวต้าน 201 – 205 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 215 บาท (Stop loss 194 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น JAS อนุมัติให้ ADVANC* เข้าซื้อ TTTB และ JASIF โดยกระบวนการถัดไป คือ รอที่ประชุมผู้ถือหุ้น JASIF วันที่ 18 ต.ค. เพื่ออนุมัติให้ปรับเงื่อนไขการเช่าโครงการฯจาก JASIF ซึ่งกรณีที่ประชุมผู้ถือหุ้น JASIF อนุมัติฯ เราประเมินจะเป็นบวกต่อประมาณการฯ ADVANC 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวใน 2H65 จากการเปิดประเทศ และ Consensus คาดกำไรปีหน้ากลับมาโต +11% YoY ขณะที่ประมาณการฯ มี Upside จากการรวมธุรกิจบรอดแบรนด์ครั้งนี้ 4) Dividend yield ปี 2565 – 66 เฉลี่ยปีละ 3.9% และ 4.3% ตามลำดับ

หุ้นมีข่าว

(+) ชิงเค้กไฟทดแทน 5,000 MW กัลฟ์-กันกุล EA* มาแรง! ราชกิจจาฯ ประกาศแล้ว เริ่มเคาะประมูลปลายปีนี้ (ข่าวหุ้น) GUNKUL*-GULF*-EA* นำทีมชิงเค้กโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 5,203 เมกะวัตต์ “กัลกุล” ส่งซิกร่วม “กัลฟ์” ชิงวินด์ฟาร์ม-โซลาร์ฟาร์ม 1,000 เมกะวัตต์ ส่วน EA* ลุ้นโซลาร์ฟาร์มร่วมแบต 1,000 เมกะวัตต์ ผู้บริหารรับสนใจร่วมประมูลแน่ ฟาก SCN ตั้งเป้าคว้าโซลาร์ฟาร์ม 30-40 เมกะวัตต์ จับตากกพ. ประกาศเปิดรับซื้อโรงไฟฟ้าและประกาศเริ่มเคาะประมูลปลายปีนี้ หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

(+) BBL* ขึ้นดอกเบี้ย 0.40% ประเดิมรายแรกตามกนง. (ข่าวหุ้น) แบงก์กรุงเทพอั้นไม่อยู่ ขึ้นดอกเบี้ยกู้ พรวดเดียว 0.40% ประเดิมเจ้าแรก หลังกนง. เสียงเอกฉันท์ปรับขึ้น 0.25% วานนี้ โบรกฯ มองแบงก์ใหญ่ กำไรสุทธิพุ่งหลังขยับดอกเบี้ย ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่ม นำโดย BBL* KTB* กำไรเพิ่มขึ้น 10% ส่วน KBANK และ SCB* เพิ่ม 7-8% ด้านกลุ่มไฟแนนซ์เหนื่อยต้นทุนพุ่ง

(+) PTG* ไตรมาส 4 จะทำสถิตินอนออยล์แรง-B100 ดัน (ทันหุ้น) PTG รับไตรมาส 4 จะโดดเด่น ทำสถิติดีสุดของปีนี้ หลังกลับมาจัดกิจกรรมได้ส่งผลการใช้น้ำมันคึกคัก นอนออยล์จะโดดเด่น ตั้งเป้าเพิ่มมาร์จิ้นสูง ส่วนภาครัฐปรับสูตรไบโอดีเซลทั้ง บี7 บี10 และบี20 จะหนุนธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์ PPP โดยเฉพาะช่วงเข้าระดมทุน คงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15%

(+) NRF ร้านโปรตีนพืชเข้า OR* ขนมปังหมูแดงที่อเมซอน (ทันหุ้น) OR จับมือ NRF รุกหนักพัฒนาธุรกิจโปรตีนพืช เซ็นเอ็มโอยูนำผลิตภัณฑ์และร้านค้าปลีกอาหารเข้าพีทีที สเตชั่น ด้านบิ๊ก OR* ชูดึงทราฟฟิกเข้ามามากขึ้น เดินหน้าเปิดร้าน alt. Eatery ในปั๊ม ด้าน NRF ชี้แพลนต์เบสช่วยลดคาร์บอน เตรียมขายขนมปังไส้หมูแดงเข้าอเมซอน

(+ MAKRO) ‘โลตัส’ ลุยเจาะออนไลน์ (ไทยโพสต์) นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจ โลตัส ประเทศไทย เปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมาโลตัสได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App โดยรวมออนไลน์ช็อปปิ้งเอาไว้กับโปรแกรมขอบคุณลูกค้า MyLotus’s ส่งมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ไร้รอยต่อระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ ควบคู่ไปกับความคุ้มค่าที่ถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าแต่ละคน ซึ่งในช่วง 6 เดือนหลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชันมีผู้ดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 5.3 ล้านราย และช่วยผลักดันให้ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์โตขึ้นกว่า 12 เท่าตัว

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 31 บาท / แนวต้าน 32.5 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 30 บาท)
  • SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 16.8 บาท / แนวต้าน 17.7-18.0 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 16.8 บาท)
  • EPG* (เป้า Consensus 12.25 บาท) แนวรับ 10.2 บาท / แนวต้าน 10.7-11.0 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 10 บาท)
  • ERW* (เป้าพื้นฐาน 5 บาท) แนวรับ 4.3 บาท / แนวต้าน 4.6 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 4.16 บาท)
  • LH* (เป้าพื้นฐาน 11.2 บาท) แนวรับ 9.0 บาท / แนวต้าน 9.2-9.4 บาท (Trailing stop 9.0 บาท)
  • GFPT (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) แนวรับ 15 บาท / แนวต้าน 15.5-16.0 บาท (Stop loss 14.5 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 159 บาท) แนวรับ 135 บาท / แนวต้าน 139 – 141 บาท (Stop loss 135 บาท)
  • KSL (เป้า Consensus 5.07 บาท) แนวรับ 3.92 บาท / แนวต้าน 4.04-4.1 บาท (Stop loss 3.8 บาท)
  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) แนวรับ 26 บาท / แนวต้าน 27-27.5 บาท (Stop loss 26 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

กลุ่มสถาบันการเงิน ผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายฯ BBL* เริ่มทำการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ – เงินฝาก ขึ้นเป็นเจ้าแรก สำหรับผลกระทบต่อหุ้นกลุ่ม Non-Bank จะแตกต่างกันไปตามโครงสร้างเงินทุนของหุ้นแต่ละตัว โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินหุ้น HENG, SAK, AEONTS และ TIDLOR ต้นทุนดอกเบี้ยจะกระทบมากกว่า KTC, SAWAD, MTC* เนื่องจากมีการจัดหาเงินทุนจากการออกหุ้นกู้ในสัดส่วนที่มาก สำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่ม Non-bank น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” แต่กลุ่ม Non-bank อาจจะต้อง Selective buy (อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์เพิ่มเติม)

- Advertisement -