บล.เอเอสแอล: (ภาคเช้า) 30/09/65

คาด SET แกว่งตัว Sideway down // วาระ 8 ปี วันนี้รู้เรื่อง – Dollar index เริ่มอ่อนค่า

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,592.37 จุด ลดลง 6.86 จุด (-0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 78,853.34 ล้านบาท ปรับตัวลงมาอยู่ในแดนลบในช่วงบ่าย เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยง จากการปรับประมาณการเศรษฐกิจต่างๆ

แนวโน้มตลาดวันนี้…คาด SET Index แกว่งตัว Sideway down มีโอกาสทดสอบแนวรับ gap ก่อนหน้าที่ 1576 แนวต้าน 1600/1612

• วาระ 8 ปีวันนี้รู้เรื่อง วันนี้เป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมเช้า และจะมีการแถลงผลการวินิจฉัยวาระนายกในช่วงบ่าย (15.00 น.) โดยมติในครั้งนี้เริ่มเป็นที่ถกเถียงกันถึงความเป็นไปได้จากหลายบุคคล แต่แนวทางหลักๆที่เป็นไปได้มีเพียงสองทางคือ อยู่ต่อหรือหมดวาระตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 โดยในแง่ของการเมืองภายในหากผลการตัดสินออกมาว่านายกสามารถอยู่ต่อได้ จะส่งผลดีต่อภาพการเมืองภายใน คือไม่มีสูญญากาศทางการเมือง ภาพรวมของการเมืองก็มีทิศทางที่จะดำเนินไปในลักษณะคล้ายกับช่วงก่อนหน้า รวมถึงการกลับมาเป็นเจ้าภาพการจัด เอเปก ช่วง 18-19 พ.ย. และอาจเป็นจังหวะให้สองแกนนำพรรคร่วมอย่างภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ขอเก้าอี้เพิ่ม ในตำแหน่งรมช.มหาดไทย และศึกษาธิการ ที่ว่างอยู่ ในทางกลับกัน หากศาลวินิจฉัยว่าวาระของนายกได้สิ้นสุดลง ตามรธน.มาตรา 158 แล้ว เป้าหมายถัดไปของพรรคการเมืองต่างๆ คือ การเตรียมความพร้อมสู่สนามเลือกตั้ง เนื่องจากรักษาการนายกคนปัจจุบันได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มในส่วนของการทำรัฐประหารเพื่อยกเลิกการเลือกตั้ง จึงอาจเห็นการลงพื้นที่หาเสียง และรุกหน้าเพิ่มฐานคะแนนของตนให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้งในปีหน้า สำหรับตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหุ้นไทยมักตอบรับในเชิงบวกต่อความชัดเจนทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม แต่มักตอบรับในเชิงลบในกรณีที่เกิดสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จึงมองไม่ว่าผลการตัดสินของศาลจะออกมาในรูปแบบใด หากมีความชัดเจนเกิดขึ้นในประเด็นการเมือง ตลาดหุ้นไทยจะตอบรับในเชิงบวกต่อผลการตัดสินดังกล่าว
• Dollar index เริ่มชะลอตัวลงหลังทำจุดสูงสุดที่ระดับ 114.78 จุด ประกอบกับ US bond yield เริ่มปรับตัวลง แต่ด้านตลาดหุ้นสหรัฐยังปรับตัวลงต่อ กังวลกับความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย แม้ตัวเลข GDP 2Q65 ออกมาตามคาดที่ -0.6%QoQ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค แต่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลง WoW และทำ New low ในรอบ 5 เดือน สะท้อนว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัว แม้ว่าเฟดปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยเชิงรุกในช่วงที่ผ่านมา
• ท่องเที่ยวยังเป็นความหวังของไทย หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวยังน่าสนใจและมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลัง World Bank และ ธปท. วานนี้ยังมองภาคการท่องเที่ยวยังสดใส โดย ธปท. มองเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติในปลายปีนี้เพิ่มขึ้นจากการประชุมครั้งก่อนจาก 6 ล้านคน เป็น 9.5 ล้านคน และในช่วงที่เหลือของปียังเป็น High Season ของ กลุ่มท่องเที่ยว จึงมองหุ้นท่องเที่ยว ค้าปลีก และห้างสรรพสินค้า ยังน่าสนใจ
• สัปดาห์หน้าติดตาม
  • 1-7 ต.ค. Golden week ของจีน 3 ต.ค. Manufacturing ของยุโรป และสหรัฐ
  • 4 ต.ค. JOLTs Job Openings ส.ค. ของสหรัฐ
  • 5 ต.ค. ADP Nonfarm Employment Change และ ISM Non-Manufacturing PMI เดือน ก.ย. ของสหรัฐ
  • 6 ต.ค. Construction PMI เดือน ก.ย. ของอังกฤษ
  • 7 ต.ค. Nonfarm Payrolls (ก.ย.)
• กลยุทธ์การลงทุน 1. ท่องเที่ยวเปิดเมือง CENTEL ERW AWC 2. ค้าปลีก CPALL BJC CRC 3. ห้างสรรพสินค้า CPN MBK 4.บาทอ่อน TU ASIAN MEGA 5.Defensive IMH BH CHG BDMS ADVANC 6. อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น KBANK BBL SCB TLI

เคาะไป คุยไป IMH

Investment Highlights

• IMH เปิดเผยว่าอยู่ในระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการธุรกิจโรงพยาบาลแห่งใหม่ คาดว่าดีลดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายใน 3Q65 นี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้หากดีลดังกล่าวสำเร็จจะส่งผลให้ IMH กลายเป็นโรงพยาบาลทั่วไปที่มีขนาดใหญ่และมีความครบวงจรมากยิ่งขึ้น สร้างการเติบโตแบบ in-organic ซึ่งสามารถรับรู้รายได้เต็มปีในปี 66 และจะสร้าง new high ต่อเนื่องกว่า 30-40% จากดีลซื้อโรงพยายาบในปี 65 ทั้งสิ้น 2 แห่งสำเร็จ ส่วนเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท คาดว่าว่าอัตราการใช้เตียงใน 2H65 จะไม่ลดลงมาก (ไม่ต่ำกว่า 90%)
• สำหรับประเด็นการประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น จะช่วยให้รายได้เงินสดเข้ามามากขึ้น ร่วมกันกับประกันเอกชน หนุน GPM ให้ดีขึ้น ด้านโรงพยาบาลประชาพัฒน์ คาดว่าจะมีคนไข้หมุนเวียนกว่า 2.5 แสนคน ทั้งนี้ IMH ได้ลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาล IMH แบริ่ง” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 600 เตียง คาดว่าจะสามารถสร้างเสร็จกลางปี 2568 และคาดจะสร้างรายได้ปีแรกที่ 2.2 พันล้านบาท และใน 5 ปีถัดไป (2568-2572) จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 5-7 พันล้านบาท
• IMH เป็นอีก 1 หุ้นที่สามารถรองรับความผันผวนของตลาดได้ดี มีความน่าสนวจในแง่ความเป็น defensive ทั้งในเชิงการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการแพทย์ และในเชิงตัวเลขที่ Beta ปัจจุบันมีค่าเพียง 0.53 ในเชิง valuation ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่บน PE 5.06 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ระดับ 21.72 เท่า เทียบกับแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการที่โดดเด่น

Investment Strategy

Source : Aspen

แนะนำ “เคาะ” ราคาปรับตัวขึ้นจากแนวรับ EMA 5-10 วันที่ 12.50-12.60 ยืนได้มั่นคงมีโอกาสเกิด golden cross เป็น buy sig. รวมถึงมีสัญญาณ bullish ใน RSI และ Slow stoc. ที่ชี้ขึ้นออกจากภาวะ Oversold ระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านเส้นกลาง Bollinger band ที่ 13.20 ผ่านยืนเป็นสัญญาณกลับตัวขึ้น แนวรับหลัก 12.70/12.40

คําแนะนําของ ASL

กรณี “มีหุ้น” แนะนำถือ/ซื้อเพิ่ม ลุ้นทดสอบแนวต้าน 13.20 / 14.00

กรณี “ไม่มีหุ้น” แนะนำซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 12.70/12.40 ไม่ควรต่ำกว่า

กระแสข่าวหุ้น

ประเด็น

• ลุ้น AIS ผงาดหุ้นใหญ่ JASIF จัดเต็มคืนทุน-ปันผลเพิ่ม บลจ.บัวหลวง เปิด 7 ข้อดีหลังเปลี่ยน ADVANC สปอนเซอร์ใหม่ – กองทุน JASIF แจงนักลงทุนเงินค่าเช่าล่วงหน้า 3,000 ล้านบาท จากบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) มีแผนนำไปจ่ายเงินลดทุนปีละ 1,000 ล้านบาท นอกเหนือจากเงินปันผลที่จะได้เพิ่ม พร้อมย้ำได้ ADVANC เป็นสปอนเซอร์ใหม่ ช่วยหนุนรายได้กองทุนฯ เติบโตได้แข็งแกร่งจากศักยภาพทางการเงินของแอดวานซ์ฯ ที่มีกระแสเงินสดดีมาก จะช่วยดันกองทุนฯ มีโอกาสเพิ่มทุนในอนาคตสูง
• WHA ลั่นปีนี้ออลไทม์ไฮ ขายทรัพย์เข้ารีท 5 พันล. – WHA การันตีผลงานปีนี้ออลไทม์ไฮ ตั้งเป้ารายได้โต 20% จากทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ “นิคมฯ-โลจิสติกส์ สาธารณูปโภคและพลังงาน ธุรกิจดิจิทัล” เดินหน้าขยายธุรกิจในไทย-เวียดนาม ย้ำเป้ายอดขายที่ดินในนิคมฯ ปีนี้พุ่ง 1,650 ไร่ เล็งส่งมอบโครงการคลังสินค้าใหม่อีกกว่า 5.1 หมื่นตารางเมตร แย้มไตรมาส 4/65 จ่อขาย สินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHART-WHAIR มูลค่ารวม 5,400 ล้านบาท
• ผู้ว่าฯธปท.ย้ำชัด ไม่แทรกค่าบาท กนง.เล็งนัดพิเศษ – “เศรษฐวุฒิ” ยืนยันไม่เข้าแทรกแซงค่าเงินบาท ปล่อยตามกลไกตลาดฯ หวั่นซ้ำรอยต้มยำกุ้ง มั่นใจทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง 2.4 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนเงินเฟ้อหากสูงกว่าคาดการณ์ กนง. พร้อมประชุมนัดพิเศษทันที
• AOT ปีหน้าพลิกกำไรพันล. ลุ้นผู้โดยสารพุ่ง 110 ล้านคน – AOT เผยปีนี้ผู้โดยสารปิดที่ 46 ล้านคน สูงกว่าที่คาดไว้ 43 ล้านคน ขณะที่ปีหน้าประเมินผู้โดยสารพุ่ง 110 ล้านคน ดันงบพลิกกลับมีกำไรหลักพันล้านบาท แต่ต้องลุ้นจีนเปิดประเทศต้นปี 66 มั่นใจผู้โดยสารเข้าสู่ภาวะปกติปี 67 อยู่ที่ 142 ล้านคนเทียบเท่าปี 62 ก่อนเกิดโควิด ส่วนล่าสุดส่ง AOTTO บริษัทลูกลุยธุรกิจส่งออกสินค้าเกษตรเน่าเสียง่าย คาดปีหน้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
• SCB ปิดจ๊อบ ซื้อ 9 บริษัทลูก ธ.ไทยพาณิชย์ – “เอสซีบี เอกซ์” (SCB) ขนเงินที่ได้รับจากการปันผลเข้าซื้อหุ้น 9 บริษัทลูกของแบงก์ไทยพาณิชย์ (SCBB) ส่วน 3 ต.ค.นี้ มีประชุมบอร์ดธนาคารฯ เพื่อปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามกนง.ที่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%
• TOP นำหุ้นเพิ่มทุนเข้าเทรดวันนี้ ลุ้นจ่ายปันผลเพิ่ม หลังครึ่งปีแรกกำไรนิวไฮ – TOP นำหุ้นเพิ่มทุน 214.95 ล้านหุ้นเข้าเทรดใน SET วันนี้ หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายและระดมทุนได้กว่า 1.15 หมื่นล้านบาท พร้อมลุ้นจ่ายปันผลระหว่างกาลเพิ่ม หลังกำไรครึ่งแรกปีนี้ทำนิวไฮ 3.2 หมื่นล้านบาท
• SIRI เล็งเพิ่มเป้ายอดขายปีนี้ หลัง Q3 ทำนิวไฮทะลุ 1.5 หมื่นล้าน โต 145% – “แสนสิริ” เล็งปรับเพิ่มเป้ายอดขายปีนี้ หลังไตรมาส 3/55 ยอดขายนิวไฮทะลุ 15,000 ล้านบาท เติบโต 145% ทุบสถิตินิวไฮรายไตรมาสในรอบ 3 ปี โดยยอดขายแนวราบไตรมาสเดียวพุ่ง 12,000 ล้านบาท ปิดขาย 10 โครงการรวด

Source : นสพ. ข่าวหุ้น, นสพ. ทันหุ้น และ NewsCenter

- Advertisement -