“PRAPAT” เดินหน้าบริการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ให้กลุ่มลูกค้าโรงแรม-รีสอร์ท พื้นที่กระบี่-พังงา สร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวไทยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีนครบโดส ต้อนรับโครงการ “อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” เชื่ออานิสงส์เปิดประเทศ ช่วยดันดีมานด์ผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อตามเป้า
นายวีระพงค์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล มีมติเห็นชอบเปิดพื้นที่การท่องเที่ยว “อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต, กระบี่ และพังงา ในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส ที่เข้าพักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน สามารถเดินทางท่องเที่ยวและเข้าพักในพื้นที่อื่นๆ อีกอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ เกาะสมุย, เกาะพงัน และเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ที่เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เลย์ จังหวัดกระบี่, เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และ “สมุย พลัส โมเดล” เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ การเปิดเมืองท่องเที่ยว “อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” ในครั้งนี้ PRAPAT ได้เข้าดำเนินการฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายใต้แคมเปญ “100×100 ฝ่าวิกฤตโควิด-19” ให้กับโรงแรม และรีสอร์ทในจังหวัดพังงาและกระบี่ ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว และถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทุกภาคส่วนจะได้มีส่วนร่วมในการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
“การเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัว ภายใต้โครงการ “อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” ที่กำหนดให้ประชากรในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วไม่ต่ำกว่า 70% และ 100% สำหรับสถานประกอบการที่เปิดให้บริการ ไม่เพียงทำให้การท่องเที่ยวเริ่มกลับมามีสีสัน แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการเริ่มกลับมามีรายได้จากการท่องเที่ยว โดย PRAPAT พร้อมเคียงข้างช่วยเหลือคู่ค้าและลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ฟื้นตัวกลับมาเปิดกิจการเต็มแบบโดยเร็ว” นายวีระพงค์ กล่าว
ขณะที่ นายสุกานต์ อินทรสูต ผู้จัดการอาวุโส (ช่องทางจัดจำหน่าย) บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT กล่าวว่า นับแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ช่วงต้นปี 2564 บริษัท ได้ปรับตัว พร้อมวางกลยุทธ์ทีมขาย PRAPAT ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการขยายช่องทางเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมขนาดกลาง-ขนาดย่อม สถานศึกษาและโรงพยาบาลขนาดเล็กเพิ่มขึ้น โดยยังคงรักษาความสัมพันธ์กับโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ไม่มีใครคาดเดาว่าจะยืดเยื้อยาวนานจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งจัดให้มีสวัสดิการในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่บุคลากรของบริษัท เดินหน้าสร้างความมั่นใจให้กับ คู่ค้าและลูกค้า ในฐานะที่ PRAPAT เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทำความสะอาดและฆ่าเชื้อของประเทศ
สำหรับโครงการ “อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” ที่เปิดรับนักท่องเที่ยว 3 จังหวัดอันดามัน “กระบี่-ภูเก็ต-พังงา” PRAPAT ยังคงเดินหน้าอัดแคมเปญ “100×100 ฝ่าวิกฤตโควิด-19” ฉีดพ่นฆ่าเชื้อฟรีพื้นที่ 100 ตารางเมตร ให้กับลูกค้า 100 รายแรก และหากฉีดพ่นมากกว่า 100 ตารางเมตร จะได้รับส่วนลดพิเศษ 30% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นโรงแรมและรีสอร์ท ระดับ 5 ดาว ทั้งนี้ ก่อนเริ่มโครงการ “อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” ในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 PRAPAT ได้เข้าดำเนินการฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายในโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ ในจังหวัดกระบี่และพังงา แล้วกว่าสิบราย
ส่วนจังหวัดภูเก็ต นับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน จนถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2564 บริษัท ได้เข้าให้บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารและมินิมาร์ท ประมาณ 35-40 แห่ง โดยหลังให้บริการฉีดพ่นในแคมเปญ “100×100 ฝ่าวิกฤตโควิด-19” ลูกค้าเกือบทั้งหมด ได้สั่งเครื่องฉีดพ่นฆ่าเชื้อ , น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อไว้ดำเนินการเอง ช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ และคาดว่า เมื่อโรงแรมและรีสอร์ทกลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบ ยอดการสั่งซื้อน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งอุปกรณ์การทำความสะอาดและการบริการต่างๆ ของบริษัท ก็จะเพิ่มขึ้นและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยช่วงต้นปี 2563 ในไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัท มียอดขายผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ และอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ เติบโตอยู่ที่ 25% หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2563 ส่วน
ช่วงครึ่งหลังปี 2564 บริษัท คาดว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ และอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ จะมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น จากลูกค้าใหม่รายย่อย ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นประมาณ 50 รายต่อเดือนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 รวมถึงลูกค้าหลักของบริษัท ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ทยอยกลับมาเปิดกิจการ หลังรัฐบาลจัดโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”, “ สมุย พลัส โมเดล” และ“อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” นำร่องเปิดประเทศ รวมถึงการเตรียมเปิดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดเชียงใหม่ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อไป
“ บริษัทฯ หวังว่าการคลายล็อกดาวน์ จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคัก โรงแรมและรีสอร์ท น่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 4 โดยบริษัทฯ พร้อมให้ความร่วมมือในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ทุกแคมเปญ” นายสุกานต์ กล่าว