บล.บัวหลวง: 

COM7 – “หนังคนละม้วน” กับตอนที่แล้ว

เราค่อนข้างมั่นใจว่าผลประกอบการของ COM7 ใน 3Q22 จะเป็นหนังคนละม้วนกับ 2Q22 ที่เป็นจุดต่ำสุดของปี  โดยจะการเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ต่อเนื่อง 3Q-4Q22 (New high) จากยอดขายที่ยังไม่หยุดเติบโตได้ใน หลากหลายมิติ และ GM กลับมาดีอีกครั้ง ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Downside risk จํากัด จาก PER ที่ 23.0 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม Consumer Discretionary ที่ 30.5 เท่า พอสมควรแล้ว เปิดโอกาสให้เข้าสะสมรอบใหม่ แนะนำชื้อ และคงราคาเป้าหมาย 40 บาท

กําไร 3Q22 จะพิสูจน์ให้เห็นว่า “ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว”

เราคาดกําไรหลัก 3Q22 ที่ 654 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY และ 5% QoQ นั่นหมายถึงความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วใน 2Q22 (ที่รายงานกำไรหลัก 619 ล้านบาท) โดยปัจจัยหนุนการฟื้นตัวในไตรมาสนี้มาจากการเติบโตของรายได้ที่ยังรักษาระดับได้ดี 20-30% YoY (ลดลง QoQ ตามฤดูกาล) ตามยอดขายเติบโตหลากมิติ ทั้งสาขาเดิม (SSSG) สาขาใหม่ สินค้าใหม่ การขายออนไลน์ อานิสงส์การขาย iPhone 14 เร็วกว่าทุกๆ ปี รวมทั้งสินค้าแบรนด์อื่นๆ ที่เติบโตเช่นกัน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดปรับตัวลดลง YoY จากฐานสูงที่ 15% ใน 3Q21 แต่กลับมาขยายตัว QoQ เป็นราว 14% ตาม Product mix ที่เป็นสินค้าใหม่เพิ่ม ไม่มีประเด็นเกี่ยวกับสต็อค (ระยะเวลาเก็บสต็อคโดยเฉลี่ยลดลง 20 วัน QoQ แล้วตั้งแต่ 2Q22) และการ rebate เงินจาก supplier ช่วยชดเชยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ปรับตัวขึ้นมาได้

แนวโน้ม 4Q22 คงมั่นว่ากําไรทำ All-time High

เรายังคงมั่นใจว่ากําไรใน 4Q22 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ นอกจากการขาย iPhone ได้เต็มทั้งไตรมาส (และจากการตรวจสอบในหลายๆ สาขา หากต้องการเครื่องต้องรอไปอย่างน้อยปลายเดือน ต.ค.) ยังมีสินค้ากลุ่มอื่นที่ Momentum การขายยังดีต่อ สะท้อนมุมมองเราที่เชื่อว่า Demand ระดับกลาง-บนยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมมาจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว และลูกค้าภาคท่องเที่ยวรายได้กลับมาดีขึ้น บวกเป็นรอบการ Replace อุปกรณ์ในการใช้งาน 2-3 ปี เท่ากับระยะเวลาที่เผชิญการล็อคดาวน์และโควิด-19 พอดี

ตลาดกำลังสะท้อนความกังวลที่มากเกินไปหรือไม่?

ราคาหุ้น COM7 ปรับตัวลงมากว่า 29% YTD และย่อตัว 21% จากจุดสูงสุดของไตรมาส จากปัจจัยกดดันราคาหุ้น ได้แก่ 1) กังวลเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว ซึ่งมองว่าไทยยังไม่ได้อยู่ในภาวะดังกล่าวในช่วงเวลานี้ 2) Apple ยกเลิก แผนการเพิ่มผลิต iPhone 14 (ประมาณ 6-7%, ซึ่งหมายถึงผลิตเท่าเดิม) ประเด็นนี้เรามองว่า Apple น่าจะให้น้ำหนัก Demand ที่ลดลงในยุโรป สหรัฐฯ และจีน มากกว่า Emerging market อื่นๆ และประเด็น iPhone ใหม่ ตั้งแต่ เปิดตัวมาราคาหุ้นก็ไม่ได้ตอบรับเชิงบวกอยู่แล้ว แปลว่าตลาดน่าจะรอดูยอดขายจริงๆ ซึ่งเราคาดว่าดี 3) ค่าเงินบาทอ่อนกดดันอัตรากำไร แต่ท้ายสุด เมื่อมองที่ PER ระดับ 23 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือยที่เฉลี่ย 30.5 เท่าแล้ว จึงประเมินว่าระดับนี้ Downside risk จํากัด (และยังมีโครงการซื้อหุ้นคืนรองรับ) ในขณะที่อีกด้าน เมื่อ COM7 พิสูจน์ว่ายอดขายยังดี และผลกําไรได้ผ่านจุดเลวร้ายไปแล้วจริง จะทำให้ตลาดกลับมา Re-rate PER กลับอีกครั้ง ทั้งนี้ COM7 จะมีการจัดการประชุมนักวิเคราะห์ (Analyst Meeting) ในวันที่ 11 ต.ค. นี้ น่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น

- Advertisement -