Our View? “ฟื้นต่อ”
คาดตลาดวันนี้ “Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,575 / 1,567 และแนวต้านที่บริเวณ 1,595 / 1,600 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากทิศทางตลาดต่างประเทศฟื้นตัวขึ้น หลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในหลายๆ ภาค บ่งชี้ความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะถัดไป ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขตัวเลข PMI เดือน ก.ย. และตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือน ส.ค. ที่ออกมาอ่อนแอ และต่ำกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจำนวนงานเปิดรับสมัครใหม่เดือน ส.ค. อยู่ที่ระดับ 10.05 ล้านตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดคาดและเดือนก่อนหน้าที่ราว 11.01 ล้านตำแหน่ง สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง อีกทั้ง เมื่อคืนนี้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นเพียง 0.25% สู่ระดับ 2.60% ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ตลาดคาด คาดจะเป็นแรงกระตุ้นให้ตลาดเริ่มผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้บ้างในระยะถัดไป สอดคล้องกับทิศทาง Dollar Index เริ่มอ่อนตัวลงแล้ว ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 10.20 อ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ระดับบริเวณ 114.6 สะท้อนตลาดเริ่มเปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้นจากช่วงก่อนหน้า คาดจะเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงพื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้ล่าสุด CME FEDWatch Tools ยังคงคาดการณ์ FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% และ 0.50% ในการประชุม FOMC เดือน พ.ย. และ ธ.ค. ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายของ FED อยู่ที่ระดับ 4.50% ในช่วงสิ้นปีนี้ และคาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงไปอีกทั้งปี 66
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ย. เมื่อคืนนี้รีบาวด์ขึ้นต่อ ปิดที่ระดับ 86.52 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.89 ดอลลาร์ (+3.46%) โดยได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ OPEC+ อาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ในเดือน พ.ย. ลงราว 0.5-1.0 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุม OPEC+ หลังราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้า แม้อาจส่งผลให้ราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ในระยะสั้นได้บ้าง แต่คาดจะไม่ส่งผลกระทบต่อทิศทางในระยะกลางมากนัก จากเดิมที่ OPEC+ ในช่วงก่อนหน้าไม่สามารถผลิตน้ำมันได้ตามโควต้าของการประชุมได้อยู่แล้ว
ในส่วนของปัจจัยในประเทศเรายังคงคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถ Outperform ตลาดอื่นได้จากคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 คาดจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นจากแรงขับของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ โดยเราคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งปี’ 65 อาจปรับตัวขึ้นมากกว่าระดับ 10 ล้านคน คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่ม Re-Opening Play ปรับตัวขึ้นได้ต่อ (CPALL, MAKRO, MAJOR, PLANB, BJC, MINT, SHR และ VRANDA) ขณะที่เริ่มเห็นสัญญาณของธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้แล้ว มองเป็นปัจจัยบวกหุ้นในกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB และ TTB)
อย่างไรก็ตาม เรายังแนะนำให้ระมัดระวังแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทย และอยู่ในฝั่ง Short SET50 Index Futures ต่อเนื่อง จากทิศทางค่าเงินบาทที่ยังอ่อนค่าอยู่ในระดับสูง คาดยังเป็นปัจจัยจํากัด Upside การฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยได้อยู่
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “PLANB”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 7.00 / 6.85 Target 7.60 /8.00 Stop <6.70