Our View? “กลับมากังวลต่อ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,585 / 1,575 และ แนวต้านที่บริเวณ 1,595 / 1,600 คาดตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดต่างประเทศ หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายสาขา ยังคงแสดงมุมมองในการให้ FED ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง อาทิ นายนีล แคชแครี ประธาน FED สาขามินเนอาโพลิส, นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์ และนายราฟาเอล บอสติก ประธาน FED สาขาแอตแลนตา ล้วนส่งสัญญาณว่า FED จะยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเริ่มปรับตัวลดลง กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะถัดไป ทั้งนี้ล่าสุด CME FEDWatch Tools ยังคงคาดการณ์ FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% และ 0.50% ในการประชุม FOMC เดือน พ.ย. และ ธ.ค. ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายของ FED อยู่ที่ระดับ 4.50% ในช่วงสิ้นปีนี้ และคาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงไปอีกทั้งปี’66 ขณะที่ Dollar Index ยังคงเร่งตัวขึ้นอีกครั้งล่าสุดอยู่ที่ระดับ 112.23 บ่งชี้ตลาดอยู่ในภาวะ Risk-off คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัวลงได้ต่อ อย่างไรก็ตาม คืนนี้แนะน่าติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐต่อคาดจะเพิ่มขึ้น 2.55 แสนตำแหน่ง ลดลงจากช่วงเดือนก่อนหน้า คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับ 88.45 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.69 ดอลลาร์ หรือ +0.79% ปรับตัวขึ้นรับรู้มติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงกว่า 2 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ย. ของ OPEC+ ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม เรามองการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐรวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสเผชิญภาวะถดถอยจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ของธนาคารกลางต่างๆ คาดจะกดดันอุปสงค์น้ำมัน ขณะที่ ปธน. โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐสั่งการให้กระทรวงพลังงานสหรัฐทำการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) อีก 10 ล้านบาร์เรลในเดือน พ.ย. คาดจะจํากัด Upside ของราคาน้ำมันได้

ในส่วนของปัจจัยในประเทศ เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ขยายตัวที่ระดับ 6.41% YoY น้อยกว่าที่ตลาดคาด ที่ 6.58% YoY และต่ำกว่าเดือน ส.ค. ที่ ระดับ 7.86% YoY บ่งชี้เงินเฟ้อของไทยเริ่มปรับตัวลดลงแล้ว ตามทิศทางราคาพลังงานที่เริ่มอ่อนตัวลงในช่วงก่อนหน้า ขณะที่คาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อใน 4Q′65 จะชะลอตัวคาดจะช่วยผ่อนคลายความกังวลในส่วนของทิศทางเงินเฟ้อได้บ้าง ขณะที่เรายังคงคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถ Outperform ตลาดอื่นได้ จากคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสคาดจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น จากแรงขับของภาคการ 4 ท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ โดยเราคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งปี 65 อาจปรับตัวขึ้นมากกว่าระดับ 10 ล้านคน คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่ม Re-Opening Play ปรับตัวขึ้นได้ต่อ (CPALL, MAKRO, MAJOR, PLANB, BJC, MINT, SHR และ VRANDA) ขณะที่เริ่มเห็นสัญญาณของธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้แล้ว มองเป็นปัจจัยบวกหุ้นในกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB และ TTB)

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “MAJOR”

กลยุทธ์: ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 17.40 /17.00 Target 18.80 / 19.80 Stop <16.90

- Advertisement -