ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ลดลง 9 จุด (-0.58%) ปิดที่ 1,571 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท กังวลเฟดกลับมาเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังจากตัวเลข Nonfarm payrolls ของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET อ่อนตัวลงแนวรับ 1,560 – 1,565 จุด ตามความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากหลายปัจจัยที่กดดัน เช่น การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED และธ.กลางต่างๆเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ , สหรัฐออกมาตรารควบคุมการส่งออกชิปให้กับจีน และสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อซึ่งเป็นลบต่อ Fund flow อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อหุ้นที่มีข่ายเฉพาะตัวและแรงซื้อดักงบ 3Q22 จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • MAKRO CPALL คลายความกังวลการเพิ่มทุน
  • AOT CENTEL ERW BA AAV BDMS BH SPA SISB อานิสงส์การเปิดประเทศ
  • CPF TU GFPT TFG  อานิสงส์ High season การส่งออกและเงินบาทอ่อนค่าลง

หุ้นแนะนำวันนี้

  • BEM (8.90 ซื้อ/เป้า 11.50) กำไรสุทธิเป็นขาขึ้นคาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ 2.6 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 167%yoy และคาดเพิ่มขึ้นเป็น 3.3 พันล้านบาทในปีหน้า จากจำนวนผู้เข้าใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินและทางด่วนที่เร่งขึ้นใกล้ระดับก่อน Pre Covid แล้ว
  • DTAC (ปิด 45.75 ซื้อ/เป้า 50.50 บาท) ดักซื้อเก็งกำไร คาดสัปดาห์นี้ (12 ต.ค. 65) กสทช.ประชุมอนุมัติให้ TRUE และ DTAC ควบรวมกิจการกันได้

บทวิเคราะห์วันนี้: BEM (ปิด 8.9 ซื้อ/เป้า 11.5), LPN (ปิด 8.15 ปรับเป็นถือ/เป้าใหม่ 4.6 เดิม 4.3) 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ดาวโจนส์ลดลงเป็นวันที่ 3 กังวล ศก.ถดถอยหลังเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย: คณะกรรมการเฟดยังแสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อซึ่งเสี่ยงทำให้ ศก.สหรัฐเกิดการถดถอย กดดันนักลงทุนเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดัชนีดาวโจนส์ลดลงอีก 94 จุด ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และ น้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.51$ ปิดที่ระดับ 91.13$/bbl

(+) กลุ่มอิเล็กฯ มี Sentiment ลบ สหรัฐควบคุมการส่งออกชิปไปจีนน้ำมัน: โดยมีเป้าหมายเพื่อจำกัดขีดความสามารถของจีนในการเข้าถึงชิประดับไฮเอนด์ซึ่งจีนอาจใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ล้ำสมัย ปัจจัยนี้กดดันให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐลดลง อาทิ หุ้นอินวิเดีย ร่วงลง 3.36% หุ้นควอลคอมม์ ลดลง 5.22% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 2.89%

(+/-) MAKRO ระบุไม่เกี่ยวข้องกับดีลซื้อ Metro ในอินเดีย: มองเป็นบวกต่อ MAKRO และ CPALL เพราะข่าวนี้จะช่วยปลดล็อกประเด็นของภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นรวมไปถึงการเพิ่มทุนหาก MAKRO ต้องเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ซึ่งจะกระทบมายังสภาพคล่องของ CPALL ซือหุ้น MAKRO ที่ 34.97%

- Advertisement -