รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รุกฆาตตลาดหุ้น
Trading Range
ซึมๆ ไปไหนไม่ไกล 1515 – 1530

PICKS OF THE DAY
GPSC : BUY
• คาดกำไร 2Q64 เติบโตแข็งแกร่ง : คาดรายได้การขายไฟฟ้าให้ภาคอุตสาหกรรมดีขึ้น y-y ส่วนหนึ่งเพราะอัตราการผลิตโรงงานของลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 2Q63 อีกทั้ง บ.ร่วม โรงไฟฟ้าพลังน้ำจ่ายไฟมากขึ้น กำไรมากขึ้น ช่วยหนุนกำไร 2Q64 +20%
• หุ้นดีในสถานการณ์ปัจจุบัน : ธุรกิจโรงไฟฟ้า รายได้และกำไรผันผวนน้อย เหมาะเป็นหุ้นหลบภัยในช่วงที่สถานการณ์ COVID-19 ยังไม่คลี่คลาย

RCL : BUY
  • ดัชนี SCFI ยังคงเดินหน้า : ซึ่งเป็นดัชนีค่าระวางคอนเทนเนอร์ส่งออกของจีนยังเดินหน้าขึ้นต่อเนื่อง จากการขาดแคลนทั้งเรือและตู้คอนเทนเนอร์ โดยเมื่อ 30 ก.ค. 64 อยู่ที่ 4,196 จุด ทำให้ 2Q64 จะยังเห็นกำไรโตได้โดดเด่น y-y
• 2H64 เป็น high season : เช่นเดียวกับเรือเทกอง ปกติครึ่งปีหลังจะเป็น high season คาดจะเห็นค่าระวางขนส่งสูงต่อเนื่อง และการขาดแคลนเรือและตู้คอนเทนเนอร์จะมีไปถึงสิ้นปี ประกอบกับได้มีการซื้อเรือมือ 2 ซึ่งจะทยอยเข้ามาใน 3Q-4Q64 อีก 6 ลา ซึ่งต้นทุนถูกกว่าเรือเช่า หนุนการดำเนินงานอีกทาง

ตลาดหุ้นวันนี้
  • ยังซึมต่อ ขาดปัจจัยใหม่ๆ กระตุ้น : คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวอย่างอ่อนกำลังในทิศทางลงในกรอบระหว่าง 1515 – 1530 จุด ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ขาดปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกใหม่ๆ กอปรกับตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตาทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อภาพรวมตลาดหุ้น ยังได้ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกให้เริ่มย่อตัว ท่ามกลางความวิตกเรื่องอุปสงค์ที่อาจจะลดลง
ขณะที่ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาลกลับมีมากขึ้น ล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 1.18% และแนวโน้มหลักยังอยู่ในทิศทางขาลง
อย่างไรก็ตาม ทิศทางของสินทรัพย์ปลอดภัยยังไม่สอดคล้องกันเสียทีเดียว แม้ว่านักลงทุนจะแห่เข้าลงทุนในพันธบัตรสหรัฐ แต่ทางด้าน Dollar Index กลับมีแนวโน้มอยู่ในทิศทางอ่อนค่าลงในระยะสั้น และทองคำก็ยังอยู่ในการแกว่งตัวออกด้านข้าง

• น้ำมันดิบโลกทิ้งตัวลงแรง : ระยะสั้นทางฝ่ายคาดว่านักลงทุนอาจกังวลประเด็นการแพร่ระบาด COVID-19 ที่จะกระทบต่ออุปสงค์ของการใช้น้ำมัน ภายหลังสหรัฐและจีนต่างเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอลงในเดือนก.ค. ขณะที่ทางด้านอุปทานกลับมีออกมามากขึ้นจากการเพิ่มกาลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+
ส่งผลให้ล่าสุดราคาสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ที่จะส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ระดับ 71.26 ดอลลาร์สรอ./บาร์เรล เป็นการทิ้งตัวลงราว 3.64% ภายในวันเดียว ในระยะสั้นทางฝ่ายคาดจะกดดัน Sentiment ลงทุนในกลุ่ม ENERG ของตลาดหุ้นไทย

• วัคซีน Johnson&Johnson คาดมีกำหนดการเข้าไทย ส.ค. – ก.ย. นี้ : สำนักข่าวไทยบางแห่งรายงานว่ามีแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนเปิดเผยว่านายกฯ สั่งการจัดหาวัคซีนเฉพาะกิจแบบเร่งด่วนจำนวน 20 ล้านโดส โดยไม่ผ่านกระบวนการจัดซื้อของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากค่อนข้างล่าช้า

โดยพบว่ามีตัวแทนในสหรัฐมีโควตาวัคซีน J&J และ AstraZeneca อยู่จำนวนหนึ่งซึ่งพร้อมจัดส่งทันทีและอาจถึงไทยภายใน 14-15 วัน ทางฝ่ายมองประเด็นนี้เป็นปัจจัยเชิงบวกเล็กๆ แม้ในระยะนี้ประเทศไทยจะมีกำหนดการรับวัคซีนที่หลากหลายมากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกระจายและเร่งฉีดวัคซีน ถ้าภาครัฐบริหารจัดการได้ดี
แม้ในระยะสั้นอาจจะยังไม่ส่งผลเชิงบวกต่อการลดลงของจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอย่างมีนัยเนื่องจากต้องใช้เวลาอีกระยะ แต่ในภาพระยะกลาง-ยาว จะมีความชัดเจนขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะในแง่การช่วยประคองเศรษฐกิจไทยและท้ายที่สุดจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยกลับมามีความน่าสนใจได้อีกครั้ง

• พรุ่งนี้ติดตามผลการประชุม กนง.ไทย : ทางฝ่ายคาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% ตามเดิม

- Advertisement -