Daily Focus: Selective Play

2023 SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways และปิดลบเล็กน้อย 1.90 จุด ณ สิ้นวัน ด้วยมูลค่าการซื้อขายบางเพียง 4.8 หมื่นลบ. เนื่องจากเข้าช่วงวันหยุดยาว และตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 190 ลบ. และ 932 ลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติยัง Short Index Futures อีก 1.16 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways โดยยังมีแนวรับบริเวณ 1,556+- จุด หลังตลาดหุ้นต่างประเทศตอบรับผันผวนกับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ก.ย. ที่ยังปรับลงช้าและยังสูงกว่าเป้าหมายของ FED อยู่มาก ทำให้ตลาดต่างเพิ่มโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED แรงมากขึ้น หนุน Bond Yield สหรัฐฯอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 4% และ Dollar Index ยังแข็งค่ากดดันสินทรัพย์เสี่ยงและ Flow ให้ยังอยู่ในทิศทางไหลออก ส่วนปัจจัยใน ประเทศยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ คาดตลาดเริ่มโฟกัสที่ผลประกอบการ 3Q22 ของบริษัทจดทะเบียน เริ่มที่กลุ่มธนาคารสัปดาห์นี้ และตามด้วยการทยอย Preview กำไรฝั่ง Real Sector ที่จะออกมามากขึ้น ซึ่งภาพรวมเรามองไม่น่าตื่นเต้น เนื่องจากเป็นฤดูฝนซึ่งเป็น Low Season อย่างไรก็ตาม เรายังมองบวกต่อกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ใน 4Q22 ที่กลับเข้า High Season ของทั้งภาคการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงปี 2023 ที่เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มเร่งตัวสวนทางฝั่งตะวันตกที่เสี่ยง Recession

กลยุทธ์ : Selective Play // ถือลงทุนหลังสะสมหุ้นเพิ่ม

หุ้นเด่นเดือน ต.ค. : BBL, BDMS, CK, CPALL, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : PR9

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 21 บาท

• คาดกำไร 3Q22 +7% Q-Q, +62% Y-Y นำโดยผู้ป่วยชาวไทยที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับ COVID 19 รวมถึงผู้ป่วย Expat ต่างชาติที่เร่งตัว ล่าสุดรายได้จากต่างชาติสูงกว่าช่วงก่อน COVID 19 แล้ว โดยผู้ป่วย Fly-in จะเป็นปัจจัยหนุนปีหน้า

• แนวโน้มกำไร 4Q22 คาดยังแข็งแรงต่อเนื่อง เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022-2023 ขึ้นเป็น +117% Y-Y และ +5% Y-Y ตามลำดับ และเทรด 2023PER 24 เท่า ต่ำกว่า BDMS และ BH ที่ 34-40 เท่า

• แนวรับ 16.80 บาท แนวต้าน 18-18.20 บาท

Fund Flow : ช่วง 3 วันที่ผ่านมาคาบเกี่ยววันหยุด กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$173 ล้าน เม็ดเงินไหลออกก่อนทราบตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และพลิกกลับมาไหลเข้าวันศุกร์ น่าโดยเกาหลีใต้ US$533 ล้าน แต่ไหลออกจากไต้หวัน US$383 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าเวียดนามมากสุด แต่ไหลออกจากไทยและอินโดนีเซีย แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดมีโอกาสพลิกมาไหลออก หลังตลาดยังคงกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ลงช้า และทำให้ FED มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) เงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าคาด เดือน ก.ย. เงินเฟ้อทั่วไป +0.1% M-M, +8.3% Y-Y ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.6% M-M, +6.3% Y-Y อย่างไรก็ตาม ตลาดตอบรับไม่ชัดเจน โดยสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวแรงในคืนวันพฤหัสฯ ก่อนปรับลงแรงคืนวันศุกร์ สะท้อนว่านักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นต่อเงินเฟ้อระยะถัดไปว่าจะปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมาย 2% ของ FED ได้ในระยะเวลาอันสั้น ขณะที่แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ใน 2 ครั้งข้างหน้า ตลาดคาดปรับขึ้น รวมกัน 1.50% แตะระดับ 4.50-4.75% สูงกว่าคาดการณ์ 1-2 สัปดาห์ก่อนอยู่ 0.25% เราประเมินสินทรัพย์เสี่ยงยังมีแนวโน้มถูกกดดัน ส่วนดอลลาร์ยังคงแข็งอย่างต่อเนื่อง

(+) สัปดาห์แห่งผลประกอบการกลุ่มธนาคาร คาดกำไร 3Q22 ของกลุ่มฯ -1% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาล แต่ +24% Y-Y แข็งแกร่งจากสินเชื่อที่คาดเติบโตดี +4% Y-Y การตั้งสำรองที่ลดลงอย่างมีนัยยะ คาดชดเชยรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ชะลอ และค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เราประเมิน NIM จะขยับกว้างขึ้นในระยะถัดไปตามภาวะเศรษฐกิจและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ และมีการตั้งสำรองล่วงหน้าเผื่อไปแล้ว  ยังคงน้ำหนักการลงทุน Overweight โดย Top Pick ยังคงเป็น BBL KTB

(+) ICHI คาดกำไร 3Q22 +15% Q-Q, +37% Y-Y ดีกว่าที่เคยคาดครั้งก่อน 14% จากตลาดชาเขียวพร้อมดื่มที่ยังโตดีและรับรู้รายได้สินค้าใหม่ ส่วนแนวโน้ม 4Q22 จะอ่อนตัวตามฤดูกาล ขณะที่ต้นทุนเม็ดพลาสติคเริ่มทรงถึงปรับลงจะส่งผลบวกต่อ Margin ใน 1Q23 เราปรับเพิ่มกำไรปี 2022 ขึ้นเป็น +3% Y-Y และคาดปี 2023 +13% Y-Y เราเริ่มเห็น Catalyst จากกลยุทธ์ขยายตลาดลูกค้า OEM มากขึ้น เพื่อหนุนการใช้กำลังการผลิตที่ยังเหลืออยู่ราว 30% หากสําเร็จจะเป็น Upside ต่อประมาณการ เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 12 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”

(+) NOBLE ยอด Presales 3Q22 -66% Q-Q เนื่องจากไม่มีเปิดโครงการใหม่ และมียอดยกเลิกจาก Noble State 39 เพื่อจัดการคุณภาพ Backlog แต่ +36% Y-Y จากฐานต่ำบวกกับเน้นขายโครงการที่เปิดตัวใน 1H22 หนุนให้ 9M22 +139% Y-Y แม้แผนการเปิดตัวใน 4Q22 มีโอกาสที่บางส่วนเลื่อนเป็นปี 2023 แต่ไม่ส่งผลต่อมุมมองผลประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q22 และ 3Q22 พลิกเป็นกำไรอีกครั้งในรอบ 4 ไตรมาส และเร่งขึ้นใน 4Q22 และเป็นหุ้น Turnaround และได้ประโยชน์จากการกลับมาของผู้ซื้อชาวต่างชาติ รวมถึงคาดให้ Dividend Yield 6.8% คงราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 5.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 29,634.83 จุด ลดลง 403.89 จุด หรือ -1.34% ถูกกดดันจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ FED จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงต่อไป

(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกเล็กน้อย จากรัฐบาลอังกฤษยกเลิกแผนปรับลดภาษี ที่เป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นก่อนหน้านี้

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง จากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 38.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 3.5 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 85.61 ดอลลาร์/บาร์เรล กดดันจากการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 28.1 ดอลลาร์ หรือ 1.68% ปิดที่ 1,648.9 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และสถานการณ์เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 941.13 / -3.18

- Advertisement -