บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +12.6%
Close Oct 12, 2022 Price (THB) 146.50
12M Target (THB) 165.00
Previous Target (THB) 165.00
What’s new?
- คาด 3Q65 จะมีกำไรสุทธิ 1.0 พันล้านบาท เติบโต +49% YoY จากฐานต่ำช่วงมาตรการควบคุมเข้มงวด และส่วนแบ่งกำไรจาก LANNA สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดกำไร -26% QoQ จากการเข้าสู่ฤดูฝนเต็มไตรมาส, ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น และผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุง
- งบ 1H65 ดีกว่าคาด เพราะธุรกิจในศรีลังกาไม่ได้ลดลงอย่างที่กังวล โดยหาก 9M65 ตามคาดจะคิดเป็น 91% ของทั้งปี ทำให้เราและตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น
Our view
- แม้ 4Q65 จะมีปัจจัยถ่วงจากสถานการณ์น้ำท่วมยืดเชื้อ, ต้นทุนพลังงานแพง, ผลกระทบจากศรีลังกามากขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดกำไรจะสามารถเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แผนปิดซ่อมบำรุงลดลง และอุปสงค์การ ซ่อมแซมหลังน้ำท่วม
- แนวโน้ม 3Q65 ไม่เด่น ทำให้ยังไม่ต้องรีบเข้าลงทุน ทั้งนี้ หากผ่านงบ 3Q65 มองว่าจะเริ่มน่าสนใจมากขึ้น จากทั้งการเข้าสู่ High season, เงินปันผลเต็มปี และโอกาสถูกปรับเพิ่มกำไรปี 2565 เชิงกลยุทธ์แนะนำรอ สัญญาณเพื่อพิจารณาลงทุนหลังผ่านงบ 3Q65
SIAM CITY CEMENT ปัจจัยกดดันจากฤดูกาล – ต้นทุน
คาด 3Q65 ฟื้นตัว YoY จากฐานต่ำ แต่ลดลง QoQ จากฤดูกาล และต้นทุน
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q65 อยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท ฟื้นตัว +49% YoY จากฐานต่ำในปีก่อน เพราะเป็นช่วงควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดทั้งในไทย – เวียดนาม, การปรับเพิ่มราคาขายเพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิต และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในธุรกิจถ่านหินเพิ่มขึ้น (LANNA) ขณะที่เมื่อเทียบกับ 2Q65 แม้ประเมินว่าทิศทางค่าเงินศรีลังการูปีเริ่มประคองตัวจะทำให้ผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจํานวนมากเช่น 1H65 ไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดกำไรสุทธิจะลดลง -26% QoQ เพราะผลการดำเนินงานหลักถูกกดดันจาก 1) ผลกระทบการปิดซ่อมบำรุงเตาเผาปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น QoQ (คาดผลกระทบ 120 ล้านบาท) 2) ปริมาณขายลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะในประเทศไทย – เวียดนาม และปัญหาน้ำท่วมในบางพื้นที่ทำให้เกิดอุปสรรคในภาคการก่อสร้าง 3) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดเหลือ 30.2% (-220bps QoQ) จากต้นทุนถ่านหินเริ่มสูงขึ้นสะท้อนราคาตลาดโลกมากขึ้น
4Q65 มีปัจจัยถ่วงบ้าง แต่เชื่อว่ากำไรจะฟื้นตัว QoQ
สําหรับ 4Q65 แม้ว่า 1) ปริมาณน้ำฝนในปีนี้จะสูงกว่าปกติ ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมยังยืดเยื้อมายังช่วงต้นไตรมาส 4 2) อัตรากำไรถูกกดดันจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนราคาถ่านหิน, น้ำมัน และค่าไฟฟ้า Ft 3) ธุรกิจในศรีลังกาเห็นผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้คาดว่าการฟื้นตัวของผลประกอบการตามปัจจัยฤดูกาลจะไม่ชัดเจนเหมือนรอบที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แผนปิดซ่อมบำรุงเตาเผาปูนซีเมนต์ลดลง กิจกรรมการก่อสร้างเร่งตัวตามปัจจัยฤดูกาล และการเกิดอุปสงค์ปูนซีเมนต์ – วัสดุก่อสร้างส่วนเพิ่มเพื่อรองรับการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย น่าจะเพียงพอช่วยให้ผลการดำเนินงานหลัก 4Q65 ฟื้นตัว QoQ
YTD ทำได้ดีกว่าคาด มีโอกาสปรับกำไรปีนี้ขึ้น
หาก 3Q65 เป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 9M65 จะคิดเป็น 91% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 3.5 พันล้านบาท (18% YoY) โดยผลประกอบการ 1H65 ที่แข็งแกร่งกว่าคาด โดยเฉพาะธุรกิจในศรีลังกาที่ไม่ได้ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจอย่างที่กังวล เนื่องจากบริษัทฯ มีแหล่งวัตถุดิบ – เชื้อเพลิงของตัวเองรองรับ ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้ต่อเนื่อง เทียบกับคู่แข่งที่มีอุปสรรคจากการนำเข้าวัตถุดิบ บริษัทฯ จึงสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ ส่งผลให้เรามีโอกาสปรับประมาณการปี 2565 ขึ้นหลังการรายงานงบ 3Q65
รอดูสัญญาณเพื่อพิจารณาเข้าลงทุนอีกครั้งหลังผ่านงบ 3Q65
คงคำแนะนํา TRADING ราคาเหมาะสม 165.00 บาท อย่างไรก็ตาม หากผ่านการรายงานผลประกอบการ 3Q65 ในวันที่ 4 พ.ย. เรามองว่าหุ้นน่าจะเริ่มกลับมาน่าสนใจเข้าลงทุนอีกครั้ง เพราะ 1) ผลประกอบการกำลังเข้าสู่รอบการฟื้นตัวตามปัจจัยฤดูกาลต่อไปอีก 2 ไตรมาส (4Q65 – 1Q66) 2) เตรียมรับเงินปันผลเต็มปี คาด Dividend Yield สูง 5.1% (ปีนี้ไม่มีเงินปันผลระหว่างกาลเช่นเดียวกับ 2 ปีที่ผ่านมา) 3) ราคาหุ้นเคลื่อนไหว Sideway ตั้งแต่ 2Q65 ถือว่าสะท้อนปัจจัยลบจาก Low season ของธุรกิจ, ไม่มีเงินปันผลระหว่างกาล, ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในศรีลังกาไปแล้ว 4) เราและตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น เชิงกลยุทธ์แนะนำรอดูสัญญาณเพื่อพิจารณาจังหวะเข้าลงทุนผ่านงบ 3Q65