สรุปภาวะตลาด
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในภาคเช้าประมาณ -7 จุด แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่าย ทำให้ดัชนี +10 จุด จากแรงซื้อในหุ้น DELTA และกลุ่มค้าปลีก ธนาคาร นักลงทุนติดตามการรายงานผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารที่ทยอยประกาศ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,571.40 จุด +10.62 จุด +0.68% มูลค่าการซื้อขาย 66,745 ลบ. ต่างชาติ -2,359.54 ลบ. TFEX -1,383 สัญญา ตราสารหนี้ -3,070.84 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด พุ่งขึ้น 550.99 จุด หรือ +1.86% หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยผลประกอบการที่ดี เกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีที่มีการประกาศก่อนหน้านี้
+ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุด แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.8% ใน 3Q65
+ คลังจ่อปรับ GDP รับนักท่องเที่ยวอุ้มเศรษฐกิจฟื้น ปลายเดือนต.ค. แม้ IMF คาดเศรษฐกิจโลกปี 2566 ลดลง แต่ GDP มาตรการการเงินช่วย ของไทยยังโตได้ 4% เนื่องจากใช้
+ BOI เปิดเผยว่า สถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน 9 เดือนของปี 2565 มีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,247 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8% มูลค่ารวม 439,090 ล้านบาท
+/- รัฐบาลจีนเลื่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจทั้งหมดออกไปโดยไม่มีกําหนด จากเดิมที่มีกำหนดเปิดเผยใน สัปดาห์นี้
ปัจจัยลบ –
– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 15 เซนต์ -0.2% ปิดที่ 85.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
– หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงาน โดยอ้างอิงจากข้อมูลรัฐบาลอิหร่านว่า รัฐบาลอิหร่านได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังรัสเซีย เพื่อสรุปเงื่อนไขสำหรับการจัดส่งอาวุธเพิ่มเติม รวมถึงขีปนาวุธแบบพื้นสู่พื้นสองประเภท
– เทศบาลเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิต iPhone ของบริษัทแอปเปิล สั่งล็อกดาวน์หนึ่งในเขตที่มีประชาชนอาศัยอยู่มากที่สุด เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19
– ทําเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบกับการก่ออาชญากรรมสงคราม หลังจากรัสเซียโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนด้วยโดรน ส่งผลให้มีประชาชนอย่างน้อย 4 คนเสียชีวิต
– FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 94.70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุม วันที่ 1-2 พ.ย. และให้น้ำหนัก 66.70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจ ยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีที่มีการประกาศก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนยังติดตามผลประกอบการของหุ้นกลุ่ม ธนาคารที่ทยอยประกาศออกมา คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,565-1,580 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : GLOBAL DOHOME HMPRO TOA DPAINT COTTO DCC TASCO
- ศบค. มีมติยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน : ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA
- ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. เติบโต : BRR KSL TFG GFPT ASIAN
- หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL KBANK
หุ้นรายงานพิเศษ
SELIC “ซื้อ” เติบโตจากการซื้อธุรกิจ และได้สิทธิ์ซื้อหุ้น PMCT
- รายได้ 2Q22 และ 1H22 อยู่ที่ 390.52 ลบ. +0.9% QoQ, + 0.9% YoY และ 779.06 ลบ. +4.0% YoY ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากรายได้ในประเทศที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้จากต่างประเทศลดลง เนื่องจากค่าเงินอ่อนค่า ทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ และรายงานกำไรสุทธิ 2Q22 และ 1H22 อยู่ที่ 10.07 ลบ. -14.1%QoQ, -65.3% YoY และ 21.78 ลบ. -63.1% YoY ปรับตัวลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจากค่าที่ปรึกษาทางการเงิน ในการเข้าซื้อธุรกิจผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์ รวมถึงการนําบริษัทย่อย PMCT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
- แนวโน้ม 2H22 กลับมาเติบโตจากการรับรู้รายได้ของบริษัทเทวกรรมโอสถ (SELIC ถือหุ้น 50%) ดำเนินธุรกิจ ผลิต “น้ำมันมวย” ตั้งแต่ 4Q65 และเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัท DVK Healthcare (เทวกรรมถือหุ้น 100% และ SELIC ถือหุ้นทางอ้อม 50%) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย “NEOPLAST และ NEOBUN” ใน 1Q66 โดยคาดว่าการเติบโตของกลุ่ม Consumer Healthcare อยู่ที่ 10%-12% ต่อปีซึ่งสูงกว่าธุรกิจกาวที่คาดว่าจะเติบโตราว 5% ต่อปี
- ความเห็น คาดการณ์รายได้ 3Q65 จะทรงตัวแต่ 4Q65 จะเริ่มเติบโตเนื่องจากรับรู้รายได้จากเทวกรรมโอสถ ขณะที่ DVK Healthcare คาดว่าจะรับรู้รายได้ 1Q66 เนื่องจากอยู่ระหว่างขอจดทะเบียนใหม่จากทางอย.โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ 1Q66 อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าเทวกรรมโอสถและ DVK Healthcare, จะมี Synergy ในการจัดซื้อวัตถุดิบ นอกจากนี้ผถห. SELIC จะได้สิทธิซื้อหุ้น PMCT ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) GFPT (Bloomberg Consensus 19.00 บาท) รับซาอุดีอาระเบียขยายไลน์นำเข้าไก่ไทยมาสู่แปรรูป ปรุงสุก ส่งผลดีต่อบริษัท ชูโรงเชือดไก่-ปรุงสุกกำลังผลิต 2.9 แสนตัวต่อวันเสร็จกลางปี 2566 รองรับดีมานด์ได้มาก ทั้งจีน ซาอุดีอาระเบีย สหภาพยุโรปและอังกฤษ มั่นใจผลงานท้ังปี 2565 เติบโตแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AWC (Bloomberg Consensus 5.85 บาท) รับอานิสงส์ท่องเท่ียวฟื้นตัวแกร่งจัดประชุม- สัมมนาหนุน เผยนักท่องเที่ยวจีนมียอดจองโรงแรมเพิ่มขึ้น คาดตัวเลขอัตราการเข้าพัก (OCC) ในทุกโรงแรมดีขึ้น จากปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 70-80% มั่นใจโค้งท้ายปีสดใส (ที่มา ทันหุ้น)
(+) EA (Bloomberg consensus 100.00 บาท) เตรียมเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ เสริมแกร่งธุรกิจอีวี อัพรายได้เพิ่ม ฟากโบรกมองหนุนการเติบโตในระยะกลาง-ยาว ชูส่งมอบ EV Bus เพิ่ม คาดส่งมอบ 250-500 คัน ในไตรมาส 3/2565 ดันกำไรนิวไฮ จากแบ็กล็อกกว่า 3,000 คัน คาดส่งมอบต่อเนื่องถึงไตรมาส 2/2566 แถมต้นทุนวัตถุดิบในการผลิต EV และแบตเตอรีปรับตัวลดลงดันมาร์จิ้น ขณะที่วินด์ฟาร์มเข้าไฮซีซัน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) IMH (Bloomberg consensus 17.40 บาท) “IMH” สบช่องประกาศเดินเกมรุก “รพ. IMH ธนบุรี” ไฟเขียวเปิด 10 คลินิกเวชกรรม IMH เพิ่ม ใน Q4 น้ี รุกขยายศักยภาพกลุ่มโรงพยาบาล IMH เพื่อรองรับคนไข้ สปสช. (บัตรทอง), ประกันสังคม และคนไข้เงินสดราคาบัตรทองล้น พร้อมส่ง ซิกดันรายได้ไตรมาส 4/2565 ทะลุแตะ 150 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 12 – 21 ต.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวด 3Q65
- 19-21 ต.ค. รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมและเจ้าภาพจัดประชุมรมว.คลังเอเปค
- 25 ต.ค. กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก นําเข้า
- สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
- 26-29 ต.ค. ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปี รัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30
- 27-29 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงาน BOT Digital Finance Conference 2022
- 28 ต.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
- 30 พ.ย. กำหนดประชุมกนง.รอบหน้า
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 18 ต.ค. จีน รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565 การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.
- อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือน ต.ค.จากสถาบัน ZEW
- สหรัฐ รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค.
- 19 ต.ค. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.
- สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จาก EIA
- (เช้าวันที่ 20 ต.ค.) รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- 20 ต.ค. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)
- 1-2 พ.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐรอบ หน้า