ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

บวกต่อในกรอบแคบๆ และยังผันผวน

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคารบวกต่อในกรอบแคบๆ แต่ระหว่างวันน่าจะยังผันผวนอยู่….. หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ (ดีกว่าที่เราคาด) ตามแรงซื้อจากฝั่งนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ค่อนข้างแรง + หุ้นตัวใหญ่เช่น DELTA และ EA ฟื้นตัวแรง หนุนดัชนีฯ ได้… สำหรับในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นบวกเล็กน้อย กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวค่อนข้างแรงเมื่อคืนนี้ ตอบรับผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ของธนาคารใหญ่ เช่น Bank of America และ Bank of New York Mellon ดีกว่าที่ consensus คาดการณ์ ส่งผลให้หุ้นธนาคารสหรัฐฯ ปรับขึ้นยกแผง ii) ในระยะสั้น ตลาดอาจจะลดความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากแบบจำลอง ‘GDPNow’ ของทางเฟดชี้ว่า GDP ไตรมาส 3/2565 ของสหรัฐฯ อาจเติบโต 2.8% QoQ annualized หลังจาก GDP สหรัฐฯ ติดลบมา 2 ไตร มาสติดต่อกันแล้ว iii) ในฝั่งยุโรปนั้น รมว.คลังคนใหม่ของอังกฤษ แถลงยกเลิกมาตรการลดภาษี และการกระตุ้นทางการคลังที่ประกาศในช่วงก่อนหน้านี้ และได้ส่งผลให้ตลาดการเงินของอังกฤษปั่นป่วน…. อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าการฟื้นตัวของ SET Index จะยังเปราะบาง และภาพใหญ่ยังคงเป็นไซด์เวย์ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศยังคงดำรงอยู่… ด้านปัจจัยภายในประเทศ ให้ติดตามการประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ ซึ่งอาจมีการส่งสัญญาณเตรียมออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปี 2565 หลังจากที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และปัญหาเงินเฟ้อสูงในช่วงที่ผ่านมา

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร M, BBL*, NEX

  • M (เป้าพื้นฐาน 67.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 55.5 บาท / แนวต้าน 57.0 – 58.25 บาท กรณี Rebound ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 60 บาท (Stop loss 54 บาท) 2) ประเมินอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sale growth) ยังเติบโตแบบ YoY ได้ต่อเนื่อง 2H65 – 1H66 จากการเริ่มเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศต้อนรับการท่องเที่ยว 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปีนี้ฟื้นตัว +1,215% YoY และคาดกำไรปีหน้าจะกลับสู่ระดับปกติก่อนวิกฤตโควิด-19 ที่ >2 พันล้านบาท/ปี … ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯคำนึงเรื่องต้นทุนวัตถุดิบในประมาณการฯแล้ว 4) Forward PE ปีหน้าคาดจะลดลงเหลือ 22.4 เท่า (ต่ำกว่า 2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ราว 25 เท่า)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 159 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 138 บาท / แนวต้าน 140 – 141 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนีได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 145 บาท (Stop loss 134.5 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 2H65 จากการเปิดประเทศ ii) แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นบวกต่อ NIM ของ BBL iii) คาดฐานลูกค้าหลักของ BBL ที่เป็นลูกค้าองค์กร คาดมีแรงต้านทานต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ดีกว่า SMEs และโอกาสของสินเชื่อองค์กรที่จะเพิ่มขึ้น จากการที่ตลาดหุ้นกู้ผันผวนจาก Bond yield ที่เร่งตัวขึ้น 3) Valuation ไม่แพง PBV 0.54 เท่า
  • NEX (เป้า Consensus 23.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 19.1 บาท / แนวต้าน 19.7 – 20.2 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 18.4 บาท) 2) ประเมินผลการ ดำาเนินงาน 3Q65 พลิกเป็นกำไรจากการเริ่มทยอยส่งมอบรถเมล์ EV ตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา และล่าสุดเริ่มทยอยส่งมอบรถมินิบัสไฟฟ้า โดย Consensus คาดปีนี้พลิก Turnaround กำไร 788 ล้านบาท และคาดปีหน้าโต +100% YoY เป็น 1.6 พันล้านบาท และคาด ROE ปี 2565 – 66 เพิ่มขึ้นเป็น +22.8% และ +41.5% ตามลำดับ 3) Forward PE ปีนี้ยังสูงราว 44.9 เท่า และปีหน้าจะลดลงเหลือ เพียง 19.4 เท่า

หุ้นมีข่าว

(0) กสทช. ลั่นข้อมูลพอ ทุบโต๊ะปิดดีลแสนล. TRUE*-DTAC* 20 ต.ค.นี้ (กรุงเทพธุรกิจ) กสทช.ทุบโต๊ะ ปิดดีลทรู-ดีแทค 20 ต.ค.นี้ ลั่นรายงานที่ปรึกษาที่มีอยู่พอให้ตัดสินใจแล้ว แม้ยังเหลือฉบับสุดท้ายที่จะส่งถึงมือ 14 พ.ย.นี้ ระบุได้ซักถามนักวิจัยฯเศรษฐศาสตร์จาก SCF เป็นที่พอใจได้ข้อมูลครบถ้วน พร้อมสรุปให้บอร์ดเคาะได้ในวันประชุมนัดพิเศษแน่นอน เผยเสียงโหวตล่าสุดให้ดีลควบรวม “ผ่าน” ที่ 3 ต่อ 2 เสียง

(0) วัดใจรายย่อย JASIF วันนี้ โหวตเยสกองทุนเข้าพรึ่บ เชื่อมสายสัมพันธ์ ADVANC ฐานะสุดแกร่ง (ข่าวหุ้น) ลุ้นดีลซื้อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ผ่านฉลุยวันนี้ (18 ต.ค.) โบรกฯ คาดกองทุนเทเสียงหมดหน้าตัก 20% หนุน “บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC”)” ขณะที่ LH FUND สัมพันธ์ดี “เอไอเอส” พร้อมหนุนเปลี่ยนสปอนเซอร์ใหม่ จากเดิม JAS ส่วนรายย่อยที่ยังค้านวาระ 1.2 คาดมีอยู่ประมาณ 600-700 ราย หรือคิดเป็นไม่ถึง 10% ของเสียงทั้งหมด

(+) คลังเล็งฟื้น “ช้อปดีมีคืน คาด 65 จีดีพี 3-3.5% ปีหน้า 4% (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) คลังรับข้อเสนอภาคเอกชนฟื้น “ช้อปดีมีคืน” เตรียมนำหารือ “อาคม” คลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี ส่วน “คนละครึ่งเฟส 6” ต้องรอเฟส 5 จบก่อนประเมินจีดีพีปีนี้ โตตามเป้า 3-3.5% แน่ และขยับเป็น 4% ในปี 66 ได้รับแรงหนุนการท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ เตรียมทบทวนตัวเลขใหม่ปลายเดือนนี้ รัฐบาลมั่นใจเศรษฐกิจไทยจะคืนสู่ระดับก่อนโควิด-19 ภายในสิ้นปี 65 หรือต้นปี 66 เผย EEC มีความต้องการแรงงาน 475,688 ตำแหน่ง

(+) III ปรับโครงสร้างธุรกิจหนุน ANI เข้าเทรดปีหน้า (ทันหุ้น) III บอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุน 50.77 ล้านบาท ขาย RO ในอัตรา 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน เสนอขายหุ้นละ 12 บาท เพื่อปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน พร้อมจัดโครงสร้างองค์กร ก่อนดัน ANI เข้าตลาดในไตรมาส 3/2566

(+) SIMAT ผนึกพันธมิตร ลุยธุรกิจบรอดแบนด์ (ทันหุ้น) SIMAT จับมือ “เอฟโอที” ตั้งบริษัทร่วมทุน รุกขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในพื้นที่ เชียงใหม่ ลำปาง ขอนแก่น และนครราชสีมา ฟากผู้บริหาร “บุญเลิศ เอี้ยวพรชัย” มั่นใจการ Synergy ธุรกิจในครั้งนี้ ดันผลงานเติบโตแข็งแกร่ง

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • AMA (เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท) แนวรับ 5.45 บาท / แนวต้าน 5.9-6.1 บาท (Trailing stop 5.4 บาท)
  • TU* (เป้า Consensus 22.3 บาท) แนวรับ 18.3 บาท / แนวต้าน 18.9-19.5 บาท (Stop loss 18 บาท)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 56.25 บาท / แนวต้าน 57.25-59 บาท (Stop loss 54
  • บาท)
  • PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) แนวรับ 6.8 บาท / แนวต้าน 7.0-7.15 บาท (Stop loss 6.8 บาท)
  • ILM (เป้า Consensus 22.4 บาท) แนวรับ 16.4 บาท / แนวต้าน 17.0-17.3 บาท (Stop loss 16.2 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

กลุ่มโรงแรม น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในภาพรวมของกลุ่มฯ จะ Turnaround พลิกเป็นกำไรสุทธิได้ อย่างไรก็ดี คาดว่า ERW และ SPA จะยังรายงานผลขาดทุนในไตรมาสนี้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่อ่อนแอในยุโรป ฝ่ายวิจัยฯประเมินหุ้นที่เน้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย จะ Outperform อาทิ ERW* และ CENTEL* … แนะนําอ่านรายละเอียดการ Preview หุ้นรายตัวในบทวิเคราะห์วันนี้เพิ่มเติม

- Advertisement -