บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Bangkok Cml. Asset Mgmt. (BAM) อุปสรรคยังรุมเร้า

TP Revision

ประเด็นการลงทุน

แม้กำไรระยะสั้นอาจมีทิศทางฟื้นตัว แต่เป็นภาพที่ยังไม่รวมผลกระทบจาก COVID-19 ระลอกล่าสุด ซึ่งกระทบทั้งกระบวนการทำงานจากการปิดของกรมบังคับคดีตั้งแต่กลาง ก.ค. และอาจลากยาวทั้งไตรมาส ขณะอุปสงค์ของผู้ซื้อใหม่ที่ชะลอออกไปทำให้เรามองว่ามี downside ต่อประมาณการกำไร และปันผลในปีนี้กดดัน Div.yield คาดเหลือเพียง 3.8% แม้ราคาลงมาต่ำกว่าช่วง IPO คงคำแนะนำ ถือ ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 17.00 บาทอิง DDM (3.5%)

คาดกำไร 2Q64 ฟื้นตัวจากฐานต่ำ

ประเมินกำไรสุทธิ 2064 ที่ 515 ลบ. +108% QoQ, +280%YoY ฟื้นตัวแรงจากปีก่อนที่มี Full lockdown และจากไตรมาสก่อนเงินสดเรียกเก็บ 3.5 พันลบ, +18%QoQ, 29%YoY เป็นผลจากการเร่งขายทรัพย์ NPA เพื่อเร่งยอดเก็บเงินสดและ NPL ที่ค้างมาจากไตรมาสก่อน ขณะพอร์ตหนี้มีแนวโน้มทรงตัว QoQ ที่ 2 แสนลบ. เรามองว่า BAM ยังระมัดระวังในการซื้อ NPLs เข้ามาเพิ่มเติม และให้น้ำหนักกับการระบายสินทรัพย์ในมือ และลดภาระดอกเบี้ยมากกว่า

ปรับเป้ากำไรปี 2564 ลง 27% ตามยอดเก็บเงินสดที่ฟื้นไม่เต็มที่

ภาพ 2H64 ยังมีความเสี่ยงต่อเป้ายอดเก็บเงินสด 1.7 หมื่นลบ. หลังทำได้ 38% ในครึ่งแรก เนื่องจาก i) ลูกหนี้บางส่วนอาจกลับเข้าสู่ความช่วยเหลือพักหนี้ในช่วงปิดเมือง ii) กรมบังคับคดึงดขายทรัพย์ทอดตลาดตั้งแต่ 20 ก.ค. จนถึงเดือนส. ค. (และอาจถูกขยายตามสถานการณ์) กระทบต่อกระบวนการทำงานและการรับรู้รายได้ iii) อุปสงค์ของผู้ซื้อทั้งในฝั่งรายย่อยที่กำลังซื้อถูกกระทบ-ความเข้มงวดของธนาคารในการปล่อยสินเชื่อใหม่ และรายใหญ่ที่ต้องการลงทุนในอสังหาฯ ทบทวนชะลอแผนการลงทุนออกไป ซึ่งบริษัทอาจปรับกลยุทธ์ด้วยการให้ส่วนลด (pricing) บนทรัพย์ชิ้นใหญ่ เพื่อเร่งยอดเก็บเงินสดในช่วงปลายปีเพื่อบรรลุเป้าที่เหลือ

บนสมมติฐานการแพร่ระบาดที่อาจต่อเนื่องไปยังปี 2565 เราจึงปรับลดประมาณการยอดเก็บเงินสด 10-14% ในปี 2564-65 และกำไรสุทธิปีนี้ -27% คาดเท่ากับ 2,207 ลบ. +20%YoY และในปีหน้า -9% ที่ 3,127 ลบ. ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติที่มีกำไรสุทธิถึง 5-6,000 ลบ. ปี

คงคำแนะนำ ถือ ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 17.00 บาท

สอดคล้องกับกำไรที่ปรับลงเราปรับราคาเหมาะสมลง 25% เป็น 17.00 บ./หุ้นโดยอิง DDM ที่ 3.5% ค่าเฉลี่ยของ SET เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง โดยใช้สมมติฐานเงินปันผลในปีนี้ที่เราคาดไว้ที่ 0.60 บ./หุ้น แม้ให้ Payout ratio ที่ 88% สูงใกล้ปีก่อนที่ 90% ราคาปัจจุบันมี Div. yield เพียง 3.8% ยังดูไม่น่าสนใจในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้านักลงทุนควรรอและติดตามการฟื้นตัวกลับไปสู่ช่วงก่อนการระบาดในปี 2556 โดยมีปัจจัยเสี่ยง คือ ยอดเก็บเงินสดที่ไม่เป็นไปตามคาด, การแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรม, การเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐ

HOLD

Share Price: THB 16.00

12m Price Target: THB 17.00 (+10%)

Previous Price Target: THB 22.70

- Advertisement -