สบช่องเร่งขยายไลน์การผลิต 15 และ 108 ออนซ์เพิ่ม
บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) ระบุคำสั่งซื้อที่รอจ่อส่งมอบแล้วกว่า 3,000 คอนเทนเนอร์ ซึ่งสูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก20% หนุนผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง 2564 เติบโตต่อเนื่อง หลังความต้องการอาหารบรรจุกระป๋องมากขึ้นจากสถานการณ์วิด-19 ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก พร้อมใช้มาตรการควบคุมสูงสุดควบไม่ให้มีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่รุนแรง
นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE ผู้ส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูปคุณภาพสูง เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่า แนวโน้มยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้บริษัทฯมียอดคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) ล่วงหน้าเข้ามาแล้วกว่า 3,000 คอนเทนเนอร์ ซึ่งสูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก20% เนื่องจากดีมานด์บรรจุอาหารประเภทกระป๋อง มีความต้องการสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ต้องมีการปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในประจำวัน เพื่อลดความเสี่ยงการจากการติดเชื้อไวรัส
ทั้งนี้ บริษัทฯได้เน้นการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มลูกค้าหลัก อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี และประเทศไต้หวัน เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเร่งขยายตลาดไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เนื่องจากในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีความต้องการสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเห็นได้จากยอดออเดอร์ตลาดวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีความต้องการซื้อสูง
ขณะเดียวกันภายในไตรมาส 4/2564 บริษัทฯเตรียมเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯต้องเพิ่มกำลังการผลิตในการผลิตข้าวโพดหวานแปรรูปในรูปแบบกระป๋องขนาด 15 ออนซ์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากกำลังการผลิตเดิมในปัจจุบันอยู่ที่ 2,000 ตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมทั้งเตรียมเพิ่มไลน์ผลิตขนาด 108 ออนซ์ อีกเท่าตัว จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต1,300 – 1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปีเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ นายสุเรศพล ยังได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนว่า เรื่องการขนส่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายเล็กบางส่วน แต่ในทางกลับกันผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีปริมาณการขนส่งจำนวนมาก และมีศักยภาพในการชำระค่าขนส่งที่สูงขึ้น รวมถึงบางรายที่มีสายการเดินเรือเป็นของตนเอง ก็ยังไม่รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ส่งผลให้ดีมานด์ในกลุ่มนี้ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง พร้อมกันนี้มองว่าหากสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนกลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่าผู้ประกอบการรายเล็ก จะกลับมาสั่งซื้อเช่นเหมือน ซึ่งก็จะช่วยหนุนให้ยอดขายกลับมาเติบโตคึกคักอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง
“อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่ยังไม่คลี่คลายทำให้บริษัทฯมีมาตรการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนอย่างสูงสุด เพื่อให้สามารถผลิตและส่งสินค้าได้ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยได้รับความร่วมมือที่ดีจากพนักงานของบริษัทฯที่ให้พักอยู่ในโรงงานทั้งหมด ทั้งนี้ยังมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกจากบริษัทฯได้ผ่านการฆ่าเชื้อทั้งหมดก่อนส่งถึงมือลูกค้า” นายสุเรศพล กล่าวทิ้งท้าย